ไค ลอว์เรนซ์: ฮีโร่พเนจรถือขวานขวัญใจปวงชนที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม

ไค ลอว์เรนซ์: ฮีโร่พเนจรถือขวานขวัญใจปวงชนที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม

รู้จัก ‘ไค’ (Kai) เน็ตไอดอลฮีโร่โฮมเลสที่ดังจากวีกรรมเอาขวานจามผู้ร้ายจนโด่งดังไปทั่วอินเตอร์เน็ต แต่เวลาผ่านไปไม่นาน จากฮีโร่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม จนกลายมาเป็นสารคดี The Hatchet Wielding Hitchhiker บน Netflix

  • เรื่องราวของ ไค (Kai) กับการก้าวขึ้นเป็นไวรัลบนโลกอินเตอร์เน็ตเพราะเอาขวานจามคนร้าย
  • ในขณะที่วงการบันเทิงพากันจับของตัวของเขา ด้านมืดที่หลายคนไม่เห็นก็ค่อย ๆ เผยออกมา
  • จากฮีโร่สู่ฆาตกร เมื่อไคกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมชายวัย 74 ปี

 

เรื่องราวของฮีโร่พเนจรที่กลายเป็นขวัญใจประชาชนด้วยวีรกรรมการจามขวานไปที่หัวคนร้ายจนไวรัลไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต จนมีแฟนคลับและมีมผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด วงการบันเทิงก็แห่กันพาไปจับตัวเขามาทำคอนเทนต์ แต่เมื่อวันเวลาผ่านเลยไป เพียงสามเดือน ด้านมืดของเขาก็ค่อย ๆ ปรากฎ จนถึงขั้นว่ากลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมชายวัย 74 ปี

ไคเป็นใคร

ชื่อของ ไค (Kai) ดังลั่นสนั่นโลกอินเตอร์เน็ตจนกลายเป็นที่รู้จัก จนกลายเป็นมีม จนกลายเป็นฮีโร่พเนจรขวัญใจชาวเน็ตอเมริกัน เพียงชั่วข้ามคืนด้วนวีรกรรมสุดอาจหาญที่เกิดขึ้นในเช้าของวันธรรมดา ๆ วันหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2013 เมื่อคนที่ไคอาศัยร่วมทางมาด้วยกลับเหยียบคันเร่งพุ่งชนคนงานผิวดำคนหนึ่ง แถมยังก้าวลงจากรถเพื่อที่พยายามจะทำร้ายผู้หญิงอีกคนที่พยายามจะเข้ามาช่วยเหยื่อที่ถูกรถชน

อ้างอิงจากคำกล่าวของไค เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว ตั้งแต่การเหยียบคันเร่งชนคนงานลามไปจนถึงการพยายามทำร้ายร่างกายผู้หญิงรายนั้น และเพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปและไม่ให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่าเดิม ไคคว้าขวานด้ามเล็ก ๆ ของเขาออกมาแล้วจามเข้าไปที่หัวของชายคนนั้นถึงสามทีจนหมดสติไป

เรื่องราวนี้คงเป็นเรื่องธรรมดาหากมันเกิดขึ้นโดยไม่มีใครสังเกตุเห็น แต่ในกรณีของไค ณ ขณะที่เหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่ได้มีใครที่แอบมองหรืออัดวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อ แต่เป็นเพราะผู้สื่อข่าวนามว่า เจซซอป รีซเบ็ค (Jessob Reisbeck) ที่กำลังรายงานข่าวอยู่ในบริเวณนั้นพอดิบพอดี เขาจึงได้ลากตัวไคมาสัมภาษณ์และเล่าถึงวีรกรรมที่เขาเพิ่งก่อ พร้อมให้กำเนิดกับวลีเด็ดที่ตัวเขาใช้บรรยายขณะที่ตัวเองเอาขวานจามไปที่หัวของชายคนนั้นไว้ว่า

Smash, smash, SUH-MASH.

วัยรุ่นอายุราว 20 ปี ผมยาวกระเซอะกระเซิง โพกหัวด้วยผ้าที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ นัยน์ตาและสีหน้าเปล่งวาจาด้วยความจริงใจ พร้อมสไตล์เรื่องเล่าที่เสมือนหลุดออกมาจากนิยาย ถ้าใครได้เห็นเขา เรื่องราวของเขา และแนวคิดของเขา แน่นอนว่าอดไม่ได้ที่จะนึกถึงตัวละครที่ซื้ออิสระของชีวิตตัวเองด้วยการเป็นคนไร้บ้านที่พเนจรไปทั่ว เป็นตัวละครที่ทำให้เรานึกถึงการแหกกรอบสังคมแล้วใช้ชีวิตตามคำเรียกร้องแบบจิตวิญญาณของตัวเอง

แถมยังเป็นวีรบุรุษที่ช่วย Save the day ด้วยการจัดการกับวายร้ายด้วยขวานของเขา ช่างเป็นองค์ประกอบที่ชัดเจนยิ่งสำหรับพระเอกของเรื่องราวสักเรื่อง ไม่แปลกเลยแม้แต่น้อยที่ผู้คนแห่กันพาแซ่ซ้องสรรเสริญการกระทำของชายคนนี้ในโลกอินเตอร์เน็ต มีแฟนคลับ มีม และคอนเทนต์เกี่ยวกับตัวเขาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด

ไคจึงได้เปลี่ยนบทบาทของตัวเองจากวัยรุ่นพเนจรไร้ที่อยู่อาศัยจนกลายเป็นเน็ตไอดอลโฮมเลสที่ไม่เพียงแต่ผู้คนให้ความสนใจ แต่รวมถึงโปรดิวเซอร์รายการต่าง ๆ มากมายก็พากันจ้องจะแย่งตัว… และนั่นคือที่มาของเขา Kai the Hatchet-Wielding Hitchhiker

 

ดาวรุ่งพุ่ง (โคตร) แรงกับเงามืดที่เผยออก

ดังที่เรากล่าวไปก่อนหน้าว่าสไตล์ความเป็นตัวตนของไคทำให้ใครหลายคนหวนนึกถึงตัวละครในเรื่องราวหรือนวนิยายที่เป็นภาพแทนของการแหกกรอบสังคม อย่าง คริส แม็คแคนด์เลสส์ (Chris McCandless) จาก Into The Wild ที่แบกเป้หนีชีวิตคนเมือง ปลีกวิเวกเข้าสู่ป่า การทำหนังหรือเขียนนิยายเกี่ยวกับตัวละครประเภทนี้ออกมาอีกย่อมเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ถ้ามีโอกาสจับตัวคนที่ดำเนินชีวิตแบบนั้นจริง ๆ มาทำเรียลลิตี้ทีวี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไคเปรียบเสมือนคอนเทนต์ที่ล้ำค่ามากแค่ไหน…

รายการต่าง ๆ ก็ต่างพากันอยากจะจับตัวเขา แต่ไคไม่ได้เป็นคนธรรมดาที่จะสามารถหาที่อยู่แล้วโทรไปหา ส่งไปรษณีย์ไปถึง หรือเดินทางไปกดกระดิ่งที่ประตูหน้าบ้านได้ เขาพเนจรไปทั่วสหรัฐอเมริกา การจะหาตัวเขาพบคงต้องอาศัยปัจจัยสองอย่าง – ความมุ่งมั่นพยายามและโชค! จนกระทั่งรายการสัมภาษณ์ชื่อดังอย่าง Jimmy Kimmel’s late-night show ก็สามารถจับตัวเขามาออกรายการจนได้!

แต่ในขณะเดียวกันกับที่ใครหลายคนพยายามแย่งตัวเขามาทำคอนเทนต์ อีกด้านหนึ่งของตัวเขาก็ค่อย ๆ เผยออกมาพร้อม ๆ กัน ทุกคนต่างรู้ว่าเขาเป็นชายพเนจรผู้ขบฎต่อกฎเกณฑ์ของสังคม แต่ถึงกระนั้นมันก็มีเส้นบาง ๆ ที่ขวางกั้นอยู่ระหว่างโฮมเลสหัวขบฎกับวัยรุ่นนิสัยเสียที่ไม่นิสัยไม่ค่อยจะดีเสียเท่าไหร่นัก

เขาติดเหล้าอย่างหนัก ถึงขั้นว่าในระหว่างที่ทางรายการที่เพิ่งหาตัวเขาเจอจองโรงแรมพักอาศัยอยู่ เขาก็ซัดเหล้าเสมือนกรอกน้ำเปล่าเข้าปาก แถมยังไปอาละวาดในโรงแรม ไถสเก็ตบอร์ดในโถงโรงแรมจนโดนทางโรมแรมไล่ออก นอกจากนั้นก็ยังได้ไปฉี่บริเวณทางเดิน Walk of Fame ในชื่อของนักร้องตำนาน ฆูลิโอ อิเกลเซียส (Julio Iglesias) อีกด้วย

แต่ไม่ว่าจะห่าม จะแหกกฎแค่ไหน ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำให้ความนิยมของเขาลดถอยลงไปเลยแม้แต่น้อย กลับกัน หลาย ๆ คนกลับเชิดชูสิ่งที่เขาทำว่าเท่ แถมยังบอกกล่าวอีกว่าเข้าใจในสิ่งที่ไคทำ เพราะเขาน่าจะมีเหตุผลที่กระทำอะไรเช่นนั้น เขากลายเป็นดาวเด่นที่เวลาไปไหนมาไหนก็มีคนอยากถ่ายรูปด้วยหรือทำคอนเทนต์ด้วย

 

ช็อคโลก ‘ไคฆ่าคน’

และแล้ว เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในระยะเวลาเพียงสามเดือนหลังจากเขาโด่งดังในฐานะวีรบุรุษที่มีชื่อเสียงจากการช่วยชีวิตผู้คน เพียงสามเดือนถัดมา เขากลับกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมชายวัย 73 ปี นามว่า โจเซฟ กัลฟี (Joseph Galfy) นักกฎหมายวัยชราที่ร่างไร้วิญญาณของเขาถูกพบโดยสวมใส่เพียงกางเกงในและถุงเท้า

แล้วไคมาเอี่ยวในเรื่องนี้ได้อย่างไร?

หลังจากที่เข้าไปสำรวจเหยื่อสถานที่เกิดเหตุ พวกเขาก็ได้พบเบอร์โทรศัพท์ของไคและตั๋วรถไฟที่ช่วยสาวเขาไปถึงตัวไค เพราะมันยังพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเจอกับหลักฐานชิ้นสำคัญ นั่นก็ิอภาพจากกล้องวงจรปิดของไคและกัลฟีกอดลากัน ณ สถานีรถไฟ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไคเป็นผู้ต้องหาเบอร์หนึ่งในเรื่องนี้

แต่ไคก็ตอบกลับข้อกล่าวหานี้ว่าตัวเขาทำไปเพราะต้องการจะป้องกันตัวเอง เพราะกัลฟีได้ทำการวางยาและล่วงละเมิดทางเพศเขา หลังจากที่ชักชวนเขาไปค้างืนที่บ้าน การกระทำของเขาเพื่อปกป้องตัวเองจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หลายหลักฐานก็บ่งชี้ไปคนละทิศคนละทางกับสิ่งที่ไคกล่าวอ้าง

ประการแรก การป้องกันตัวของไคดูจะเกินกว่าเหตุไปมากหากประเมิณจากความเสียหายบนร่าวไร้วิญญาณของเหยื่อ และเหตุใดเขาจึงไม่ตัดสินใจที่จะแจ้งตำรวจ ประการต่อมา หากคำกล่าวอ้างว่าการล่วงละเมิดและวางยาเป็นจริง ทำไมเคถึงกลับไปค้างคืนกับกัลฟีเป็นคืนที่สอง เพราะหากครสักคนถูกวางยาและล่วงละเมิดทางเพศ การกลับไปค้างคืนที่บ้านของผู้กระทำอีกครั้งก็เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย

ท้ายที่สุดไคจึงโดนตัดสินว่าเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมและถูกศาลสั่งจำคุกไปเป็นเวลาอีกกว่า 57 ปี

แต่เรื่องราวของไคก็ยังไม่ได้จบแค่นั้น ยังมีเรื่องจริงหลายอย่างจากปากคนหลายคนที่พลิกเอาด้านมืดของเขามาสู่แสงสว่างจนทำให้ใครหลายคนเห็นว่า ไอหมอนี่ไม่ได้เป็นวีรบุรุษเหมือนที่ใครหลายคนจินตนาการ สามารถติดตามต่อได้ในสารคดี The Hatchet Wielding Hitchhiker

 

ภาพ: IMDb

อ้างอิง:

‘The Hatchet Wielding Hitchhiker’: How a Canadian viral star turned killer - Global News

สารคดี The Hatchet Wielding Hitchhiker - Netflix