‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด

‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด

‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด เพราะศักยภาพไม่ได้เสื่อมถอยตามวัยเสมอไป

“ไม่มีใครมาบอกให้เราออมเงิน เราก็ออกมาแบบไม่มีเงินออมเลย ทำให้เรายังต้องทำมาหากิน เพราะเรากลายเป็นคนสูงอายุที่ฐานะไม่ค่อยดี ถ้าไม่มีรายได้ก็จะอยู่ไม่ได้”

นี่คือเสียงบอกเล่าประสบการณ์ชีวิตจาก อรุณี ศรีโต หรือ ป้ากุ้ง ผู้ทำงานตั้งแต่อายุ 17 ปี กระทั่งปัจจุบันเข้าสู่วัย 70 ปีก็ยังคงทำงานอยู่ แม้จะเป็นแรงงานนอกระบบก็ตาม

ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ตั้งแต่ปี 2564 คือมีประชากรผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ทว่าคนจำนวนหนึ่งในสังคมยังมีอคติต่อผู้สูงอายุว่าเป็นภาระของสังคม ทั้งด้านสุขภาพที่เริ่มมีความเสื่อมถอย ภาพลักษณ์ที่ไม่น่าพิสมัย กระทั่งศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานลดลง

ขณะที่ข้อเท็จจริง ผู้สูงอายุจำนวนมากยังคงแข็งแรง มีความสามารถในการทำงานสูง รวมถึงยังสามารถเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนสังคมได้อีกด้วย ร่วมสำรวจศักยภาพของผู้สูงวัยผ่านประสบการณ์ของป้ากุ้ง และ อัญชนา นิติคุณ ผู้ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาชมรมผู้สูงอายุ

‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด

เมื่อการทำงานไม่ใช่ ‘ทางเลือก’ แต่กลายเป็นสิ่งที่ ‘ต้อง’ ทำเพื่อเลี้ยงชีพในวัยเกษียณ

เกษียณแล้วต้องอยู่บ้านเลี้ยงหลาน
เกษียณแล้วกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่ต่างจังหวัด 

สิ่งเหล่านี้อาจเป็นภาพจำต่อผู้สูงวัยจำนวนหนึ่ง ซึ่งสามารถดูแลตัวเองและมีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพโดยไม่ต้องทำงาน แต่ผู้สูงอายุอีกจำนวนไม่น้อยที่มีรายได้ต่ำ หรือไม่มีรายได้และเข้าไม่ถึงสวัสดิการทางสังคม

“คนส่วนใหญ่อายุ 70 - 75 ก็ยังทำงานกันเยอะมาก เมื่อก่อนรัฐไม่มีการสร้างความเข้าใจให้เราว่า เกษียณแล้วยังไงต่อ? ทั้งที่ผู้สูงอายุคือคนที่ทำงานให้ประเทศชาติมานาน”

ป้ากุ้งบอกเล่าสถานการณ์ผู้สูงอายุในปัจจุบัน หลังจากออกจากระบบโรงงานในวัย 55 ปี แล้วกลายเป็นแรงงานนอกระบบ จึงพบว่าผู้สูงอายุจำนวนมากยังคงทำงาน เช่น เย็บผ้า นวดแผนไทย วินมอเตอร์ไซค์ ห่อข้าวต้มมัด ทอดกล้วยแขกขาย เป็นต้น ขณะที่สวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ

  • อายุ 60 - 69 ปี ได้รับเบี้ยเดือนละ 600 บาท
  • อายุ 70 - 79 ปี ได้รับเบี้ยเดือนละ 700 บาท
  • อายุ 80 - 89 ปี ได้รับเบี้ยเดือนละ 800 บาท
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยเดือนละ 1,000 บาท

ส่วนการเป็นผู้ประกันตนในประกันสังคมมาตรา 39 หรือมาตรา 40 มักถูกมองว่าสวัสดิการที่ได้รับไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

“สมัยป้ากุ้งทำงานอยู่ในโรงงาน ไม่ได้นึกว่าคนรุ่นเราจะกลายเป็นผู้สูงอายุเยอะ ไม่มีใครบอก ไม่มีสัญญาณอะไร แต่ตอนนี้แค่ตำบลเดียวก็มีผู้สูงอายุเป็นพัน ๆ คนแล้ว”

ผู้สูงอายุบางคนถูกทิ้งให้อยู่บ้าน บางคนมีปัญหาสุขภาพ บางคนสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยไม่ดี และรัฐไม่มีนโยบายการดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด สภาพการณ์เหล่านี้จึงไม่เอื้อให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคมไทย

 

‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด

“การทำงานนอกระบบไม่มีกำหนดว่า จะได้ค่าจ้างขั้นต่ำเท่าไร ถ้าทำเยอะก็ได้เยอะ ถ้าทำน้อยก็ได้น้อย อย่างกลุ่มเย็บผ้าทำงานตั้งแต่ 05.00 - 20.00 น. หรือบางคนทำงาน 12 - 15 ชั่วโมง โดยไม่มีองค์กรไหนเข้าไปช่วยแบ่งเบาหรือแก้ปัญหาตรงนี้

“สังคมไทยต้องหยิบเรื่องสังคมผู้สูงอายุขึ้นมาถกอย่างจริงจัง เรียกว่าเป็น ‘วาระแห่งชาติ’ ลำพังฝ่ายใดฝ่ายเดียวไม่เพียงพอ โดยเฉพาะคนที่รายได้น้อย เราจะทำอย่างไรให้เขาอยู่แบบสมศักดิ์ศรี หลังจากทำงานรับใช้บ้านเมืองมานานแล้ว”

การทำงานหนักมาตลอดชีวิตวัยหนุ่มสาว แต่ยามเกษียณก็ไม่อาจมีคุณภาพชีวิตดีเท่าที่ควร เมื่อมีปัญหาด้านความมั่นคงและไม่อยากเป็นภาระผู้อื่น ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนมากยังคงทำงานหารายได้เลี้ยงชีพตัวเอง เนื่องจากกลไกการช่วยเหลือดูแลผู้สูงวัยในสังคมไทยไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่ผู้สูงวัยเผชิญ โดยเฉพาะเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่สวนทางกับค่าครองชีพในปัจจุบัน

 

‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด


‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด หากเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้ใช้ศักยภาพ

ศักยภาพของผู้สูงอายุไม่ได้มีเรื่องการทำงานเท่านั้น แต่การรวมกลุ่มของผู้สูงวัยยังสามารถสร้างความร่วมมือได้อย่างคาดไม่ถึง

“ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า การรวมตัวเป็นชมรมผู้สูงอายุสามารถทำงานช่วยเพื่อนผู้สูงอายุ ช่วยแบ่งเบาภาระหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ผ่านการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลเรื่องการฉีดวัคซีนกับผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิกชมรม”

อัญชนา นิติคุณ หรือ คุณไก่ ผู้ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาชมรมผู้สูงอายุ ภายใต้เครือข่ายสภาผู้สูงอายุทั่วประเทศ บอกเล่าประสบการณ์การทำงานร่วมกับผู้สูงวัย จากสถานการณ์ที่หมอในพื้นที่มีน้อยและต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัด ซึ่งไม่สามารถลงไปทำงานกับผู้สูงอายุในระดับบุคคลได้

ขณะที่แกนนำชมรมผู้สูงอายุสามารถสร้างความเชื่อถือและความมั่นใจให้กับสมาชิกผู้สูงวัย จากช่วงแรกที่มีผู้สูงอายุได้รับวัคซีนเพียง 30% เพิ่มขึ้นถึง 60 - 70% และบางที่เข้าถึงการรับวัคซีน 80% นี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างการแสดงศักยภาพของผู้สูงอายุ

“จริง ๆ ผู้สูงอายุมีศักยภาพ แต่หน่วยงานไม่ได้มองเห็นในเรื่องนั้น และไม่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุลองใช้ศักยภาพ ทำให้การดำเนินการต่าง ๆ หน่วยงานเป็นผู้จัดการ ส่วนผู้สูงอายุกลายเป็นเพียงผู้เข้าร่วม แต่ไม่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อน

“วันนี้ที่เห็นชัด ๆ คือเราทำงานเพื่อให้ผู้สูงอายุได้พึ่งพาตัวเอง เรามองเห็นว่าผู้สูงอายุเองก็มีความพยายามที่จะทำอะไร เพื่อพึ่งพาตัวเองให้นานที่สุดเท่าที่จะพึ่งพาตัวเองได้”

 

‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด ‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด ‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด ‘ผู้สูงอายุ’ เป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด

 

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการสร้างสังคม DEE (Diversity, Equity and Empathy): ศึกษาสถานการณ์อคติต่อกลุ่มเปราะบาง และสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้ของสังคม โดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนัก 9 และ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์