30 ม.ค. 2563 | 17:15 น.
รักจงเจริญ ที่ใจแผ่นดิน “สิ่งจำเป็นที่สุด ขอเป็นที่ทำกินดีกว่า เพราะว่าถ้ามีที่ทำกิน อะไรก็จะตามมา” (บิลลี่ 2554 จากการบันทึกของ พฤ โอ่โดเชา เผยแพร่โดย forestbook) นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ คือชาวบ้านชาติพันธุ์กะเหรี่ยงคนหนึ่งในบ้านโป่งลึก-บางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นหลานชายของนายคออี้ มีมิ หรือปู่คออี้ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชุมชนกะเหรี่ยงในผืนป่าแก่งกระจาน เป็นสามีของ มึนอ หรือ น.ส. พิณนภา พฤกษาพรรณ เป็นพ่อของลูก ๆ อีก 5 คน เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี บิลลี่เป็นที่รักและได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านในชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย บิลลี่มีบทบาทนำในการเรียกร้องสิทธิของชุมชนกะเหรี่ยงในผืนป่าแก่งกระจาน ทว่าวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 บิลลี่กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย บิลลี่และชุมชนกะเหรี่ยงของเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่ดั้งเดิมของบรรพบุรุษที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน การดำรงอยู่ของพื้นที่ดังกล่าวสามารถย้อนไปถึงปี 2455 ตามแผนที่ทหาร กล่าวได้ว่าชุมชนกะเหรี่ยงใจแผ่นดินได้อยู่อาศัย ทำกินตามวิถีชีวิตดั้งเดิมของพวกเขาก่อนที่จะมีการประกาศอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในปี 2524 เสียอีก วิถีชีวิตของชุมชนกะเหรี่ยงในผืนป่าแก่งกระจานมีความผูกพันเชื่อมโยงกับธรรมชาติ จะเห็นได้จากวิถีการดำรงชีพด้วยการทำข้าวไร่หรือไร่หมุนเวียนที่เป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิต การมีกิน และการรักษาระบบนิเวศ เพราะธรรมชาติคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นแหล่งกำเนิดอาหารของชุมชน จึงทำให้ชุมชนกะเหรี่ยงเคารพและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสงบสุขและยั่งยืน การบังคับโยกย้ายออกจากวิถีชีวิตดั้งเดิมที่สัมพันธ์กับธรรมชาติสร้างผลกระทบต่อชุมชนกะเหรี่ยงอย่างถึงราก เพราะเป็นการทำลายความเชื่อ วิถีการยังชีพและชีวิตของพวกเขา เจ้าหน้าที่อุทยานฯ มีปฏิบัติการบังคับโยกย้ายชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอย่างต่อเนื่อง โดยชาวบ้านถูกบังคับโยกย้ายลงมาบริเวณบ้านโป่งลึก-บางกลอย ตั้งแต่ปี 2539 ในช่วงปี 2553-2554 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้สนธิกำลังเข้าโยกย้าย จับกุมชาวบ้านกะเหรี่ยงที่เจ้าหน้าที่รัฐเชื่อว่าบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่ออนุรักษ์ผืนป่าโดยไม่สนใจชีวิตชาวกะเหรี่ยงและวิถีชีวิตของพวกเขาที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ จากการปฏิบัติการดังกล่าวส่งผลให้มีการเผาทำลายบ้านเรือนและยุ้งข้าวของชาวกะเหรี่ยงเสียหายกว่า 98 หลังคาเรือน เพื่อผลักดันให้ชุมชนดั้งเดิมออกจากพื้นที่อุทยานฯ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชนดั้งเดิมในการดำรงชีวิตและมีส่วนร่วมต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ บิลลี่เป็นชาวกะเหรี่ยงรุ่นใหม่ มีนิสัยร่าเริงและชอบช่วยเหลือผู้คน เขารักผืนแผ่นดินและวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน บิลลี่เคยกล่าวว่าเขาอยากกลับไปทำไร่หมุนเวียนข้างบนอีกครั้งเพราะเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิม เขาเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านกะเหรี่ยงบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ได้รับ หลังจากเหตุการณ์บังคับโยกย้ายของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ โดยบิลลี่เป็นสื่อกลางและทำหน้าที่ประสานงานระหว่างชาวบ้านกับสาธารณชน และสื่อสารเรียกร้องสิทธิของชุมชนกะเหรี่ยงในพื้นที่ดั้งเดิม บิลลี่เคยมีส่วนร่วมกับชาวบ้านบางกลอยในการทำสารคดี ชื่อ “วิถีชีวิต The Way of Lives” เพื่อบอกเล่าวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับโยกย้ายของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ โดยบิลลี่ได้ร่วมแสดงด้วย สารคดีดังกล่าวได้รับรางวัลชมเชย รัตน์ เปสตันยี และรางวัลพิราบขาว สำหรับภาพยนต์ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพจากเทศกาลหนังสั้นครั้งที่ 18 ปี 2557 ถึงแม้ว่าศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยว่าชาวบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน เป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมซึ่งควรได้รับการคุ้มครอง และพิพากษาว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานในการบังคับโยกย้ายชาวบ้านกะเหรี่ยงเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ยังไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในพื้นที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้ ปู่คออี้ เคยส่งสารแสดงความรักต่อพื้นที่ชุมชนดั้งเดิมใจแผ่นดินผ่าน มึนอ ภรรยาของบิลลี่ ว่า “เราไม่ได้โกงหรือแย่งที่ดินของใครมา เพราะน้ำนมหยดแรก เราก็ดื่มที่นี่ ข้าวเม็ดแรก เราก็กินที่นี่ รอยเท้าแรก เราก็ย่ำที่นี่ เราอยากกลับไปอยู่ที่ใจแผ่นดินเหมือนเดิม”