23 เม.ย. 2568 | 18:00 น.
“สวัสดีครับ ผมจิม มอร์ริส และผมทำเสื้อลายสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม
เพื่อที่ผู้คนจะสามารถดื่มด่ำและเห็นคุณค่าความงดงามของธรรมชาติ”
เป็นคำพูดของชายสูงอายุ ผมยาวฟูสีเงิน สวมแว่นตาทรงกลม พร้อมหนวดเคราและร้อยยิ้มที่เป็นมิตร ในหน้าขอของวิดีโอสัดส่วนภาพ 9:16 อันเป็นที่นิยมยิ่งในแทบจะทุกแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดีย ด้วยคำพูดและน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจ โดยเฉพาะกับแรงปณิธานที่อยากจะสกรีนเสื้อเพื่อให้คนตระหนักและดื่มด่ำความงามของสิ่งแวดล้อม จึงไม่แปลกที่ชื่อของ ‘จิม มอร์ริส’ (Jim Morris) จะกลายเป็นไวรัลบนโลกอินเตอร์เน็ต
จิม มอร์ริส (IG: @jimmorristees)
จิม มอร์ริส ที่ปัจจุบันนี้วัย 76 ปี คือผู้ก่อตั้ง ‘Jim Morris Environmental T-Shirt Co.’ แบรนด์เสื้อยืดที่ตั้งอยู่ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา มีจุดมุ่งหมายคือในการรณรงค์และรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านความงามของบรรดาสิงสาราสัตว์และสิ่งแวดล้อมที่ถูกนำเสนอผ่านลายเส้นศิลปะที่เดินหน้าต่อเนื่องมาจวนจะถึงปีที่ 50 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่นอกจากภาพลักษณ์ภายนอกที่ถูกนำเสนอออกไปจนกลายเป็นไวรัลในช่วงเวลาไม่นานแล้วและเป็นที่จดจำในฐานะ ‘คุณตาแห่งโลกอินเตอร์เน็ต’ (The Internet’s Grandpa) บรรดาเสื้อที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาก็มีส่วนช่วยผลักดันและอนุรักษ์ธรรมชาติอยู่ไม่น้อย เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิต การร่วมงานกับศิลปินในการสร้างสรรค์ เงินบริจาค ไปจนถึงสารที่ จิม มอร์ริส พยายามจะส่งผ่านเสื้อยืดของเขาออกไป
ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงเรื่องราวของ ‘จิม มอร์ริส’ ชายวัย 77 ผู้หลงรักในความงดงามของธรรมชาติและจรดมันลงผืนผ้าฝ้ายบริสุทธิ์ให้ผู้คนสามารถดื่มด่ำกับความงามเหล่านั้นร่วมกัน และบางทีนี่อาจเป็นกรณีศึกษาที่ชี้ให้เราเห็นได้ว่า บางที เพียงแค่ ‘เสื้อยืด’ ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าภาพลักษณ์ของผู้สวมใส่
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ณ การประชุมทางวิชาการครั้งหนึ่งในมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโด (Colorado State University) ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1970 ที่มีหัวข้อพูดถึงประเด็นการปกป้องวาฬและโลมาจากการล่าเชิงพาณิชย์ที่จะนำไปสู่จำนวนที่ลดน้อยลงและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
‘จิม มอร์ริส’ คือหนึ่งในบุคคลที่เห็นพ้องกับประเด็นนี้ และมุ่งหวังจะเป็นหนึ่งในเรี่ยวแรงการขับเคลื่อนให้เป้าหมายนี้บรรลุผล จึงเป็นโจทย์ให้ตัวเขากลับไปขบคิดว่าถ้าต้องการจะตีแผ่สารเหล่านี้ออกไปหาผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาควรจะใช้วิธีใด
และคำตอบที่ตามมาจากการครุ่นคิดครั้งนั้นคือลวดลายที่ถูกสกรีนบนเสื้อยืดนั่นเอง
“ในตอนนั้นเสื้อยืดก็เริ่มกลายเป็นสื่อกลาง
ที่ถูกใช้สื่อสารประเด็นทางการเมืองมากขึ้น”
มอร์ริสให้สัมภาษณ์กับ The Gazette ถึงจุดเริ่มต้นที่เขาเริ่มที่จะใช้เสื้อยืดเป็นช่องทางในการสื่อสารประเด็นด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม มอร์ริสได้เล่าต่อว่า ต่อมาตัวเขาก็ตัดสินใจที่จะทำมันเป็นธุรกิจเสียเลย เพราะต้นทุนต่าง ๆ มันก็เริ่มสูงขึ้นแล้ว ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกับที่มอร์ริสสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทด้านคณิตศาสตร์พอดี
ด้วยเหตุนั้น ปี 1976 จึงได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญในชีวิตของ จิม มอร์ริส ในฐานะปีที่ตัวเขาได้ก่อตั้ง ‘Jim Morris Environmental & WildLife T-Shirt Co.’ บริษัทที่ไม่เพียงมุ่งหวังจะขายเสื้อเพื่อกวาดกำไร แต่ยังพ่วงมาด้วยอุดมการณ์ที่อยากจะเติมเต็มความรักในใจของผู้คนที่มีต่อโลกใบนี้
จิม มอร์ริส ในอดีต
แม้จะเริ่มต้นจากความพยายามในการช่วยเหลือชีวิตของวาฬและโลมา แต่ต่อมาเมื่อพัฒนาไปเป็นธุรกิจแล้ว มอร์ริสก็ยังคงไม่ละทิ้งอุดมการณ์เดิม ในการตีแผ่และรณรงค์ให็ผู้คนสามารถดื่มด่ำกับสุนทรียภาพของสิ่งแวดล้อมและยังเป็นการเผยแพร่ความตระหนักรู้ของผู้คนให้กว้างขึ้นมากกว่าเดิม
ทว่าหากมองเพียงเท่านั้น บ้างก็อาจสรุปได้ว่ามอร์ริสอาจจะกำลังหากินกับภาพลักษณ์ที่ดูรักโลกและลวดลายที่สวยงามบนเสื้อ ทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ แล้วก็อาจคาดหวังกำไรเป็นหลักก็ได้ แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อขยับสถานะมาเป็นในรูปแบบของธุรกิจแล้ว มันไม่เพียงทำให้ตัวเขาสามารถสื่อสารผ่านเสื้อได้อย่างยั่งยืนเท่านั้น แต่มอร์ริสยังได้แบ่งสัดส่วนของรายได้ไปบริจาคให้กับองค์กรสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ อีกด้วย
Jim Morris Environmental T-Shirts | Facebook
โดยตั้งแต่ปี 1976 มาจนถึงปัจจุบันนี้ Jim Morris Environmental & WildLife T-Shirt Co. ได้บริจาครายได้ไปให้กว่า 30 องค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์สัตว์ป่าและถิ่นอาศัยธรรมชาติ, การคุ้มครองสัตว์ทะเลจากการล่า, การรณรงค์ลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน, การปกป้องทรัพยากรน้ำและสิทธิในการเข้าถึงน้ำสะอาด, การต่อต้านสารเคมีอันตรายในสิ่งแวดล้อม, ไปจนถึง การส่งเสริมความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของชุมชน รวมทั้งหมดกว่า 240,000 เหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยราว 8 ล้านบาท
แต่แม้ว่าผลพวงของธุรกิจจะช่วยสิ่งแวดล้อมมากเพียงใด หากหลังบ้านหรือกระบวนการผลิตไม่ได้ดำเนินไปในทางเดียวกัน ก็คงจะยากที่จะกล่าวได้อย่างเต็มปากว่ากำลังอุทิศตนเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ใช่กับกรณีของมอร์ริส เพราะในแง่ของกระบวนการผลิตเสื้อทุกตัวนั้น ล้วนคำนึงถึงผลพวงต่อสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ย่างก้าว
แม้ไม่ได้ผลิตเสื้อด้วยตัวเอง แต่ Wildlife T-Shirt Co. ก็เลือกใช้เสื้อยืดและเสื้อสเวตเตอร์ที่ทำจาก ผ้าฝ้าย 100% เป็นหลัก และพยายามจัดหาวัสดุจากผู้ผลิตที่มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ — หรือสรุปง่าย ๆ ก็คือใส่ใจในห่วงโซ่อุปทานของตนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
Jim Morris Environmental T-Shirts | Facebook
ในด้านของการสกรีน ภายหลังจากได้ลายที่ออกแบบโดยศิลปินแล้ว ขั้นตอนการพิมพ์ลายทั้งหมดทำภายในบริษัทเอง ผ่านเฟรมไม้สำหรับสกรีนลายเก่านับร้อยแบบวางเรียงรายกันอยู่ในโกดังของเขา โดยเสื้อในทุก ๆ ตัวจะถูกพิมพ์ลายโดยมือของคนจริง ๆ ไม่มีเครื่องจักร เพื่อให้สามารถวางเสื้อทีละตัวลงบนเครื่องพิมพ์อย่างระมัดระวัง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าลายพิมพ์ตรงตำแหน่งทุกครั้งไป
จึงสะท้อนให้เห็นว่าตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ จิม มอร์ริส พยายามที่จะใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดเพื่อให้ทุกองค์ประกอบของเสื้อยืด Wildlife ยังคงตอบโจทย์อุดมการณ์ที่ตัวของเขายึดถือตลอดห้าทศวรรษที่ผ่านมา
ทว่าด้วยความที่จบการศึกษาทางด้านคณิตศาสตร์ หากจะต้องออกแบบลวดลายด้วยตัวเองอาจไม่ใช่เรื่องที่มอร์ริสสันทัดนัก จึงทำให้ในด้านของการออกแบบลายบนเสื้อนั้น ทางบริษัทของมอร์ริสจะร่วมงานจากศิลปินภายนอก ที่บ้างก็เสนอผลงานเข้ามา หรือบ้างที่ผลงานโดนใจมอร์ริสจึงพวกเขาติดต่อไปเอง
Jim Morris Environmental T-Shirts | Facebook
และแม้ว่ามอร์ริสจะอายุย่างเข้าช่วงปลายของเลขเจ็ดแล้ว แถมเครื่องจักรมากมายที่มีอายุกว่า 20-30 ปี ก็ทะยอยเก่าและฝืดไปตามกาลเวลา แต่ดูเหมือนว่าภารกิจของพวกเขาจะไม่มีท่าทีที่จะหยุดลงเลย โดยเฉพาะเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เมื่อเรื่องราวของมอร์ริส ก็ได้ถูกนำเสนอไปยังสมุทรแห่งโลกออนไลน์
ในขณะที่มอร์ริสเดินหน้าขับเคลื่อนแบรนด์ของเขาแบบเดิมเรื่อยมา คงไม่มีใครคิดว่าจะเกิดจุดเปลี่ยนที่พาให้เสื้อของเขาทะยานขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากที่เวลาผ่านไปเกือบ 50 ปี หากเป็นคนอื่น อาจจะวางมือไปเสียแล้วด้วยซ้ำ แต่ จิม มอร์ริส ยังคงเดินหน้าต่อด้วยอุดมการณ์เดิม
ดังที่กล่าวไปก่อนหน้าว่าแม้อายุของมอร์ริสกำลังจะก้าวเข้าช่วงปลายของเลขเจ็ด แต่หนึ่งในกิจกรรมที่เขาชอบทำเสมอคือการสวมใส่เสื้อที่ Wildlife T-Shirt และการไปพูดคุยกับผู้คนที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เพื่อสนทนาถึงเรื่องต่าง ๆ พร้อมทั้งเอาอาร์ทเวิร์คแบบใหม่ ๆ มาให้ผู้คนเชยชมและแสดงความเห็น ซึ่งเป็นหนทางที่จะทำให้เขาได้พูดคุยกับคนรุ่นใหม่ ๆ ด้วย ว่าวัยรุ่นสมัยนี้เขาชอบลวดลายแบบไหนกัน
จึงทำให้เขาได้พบกับ ‘ลิเดีย เครเมอร์’ (Lydia Kramer) บาริสต้าร้านกาแฟที่เพิ่งจบจากด้านสื่อสารมวลชนมาสด ๆ ร้อน ๆ ที่ได้พบเจอและพูดคุยกับมอร์ริสอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเธอก็เปรียบเสมือนกับภาพแทนหรือ ‘โฟกัสกรุ๊ป’ (Focus Group) ของมอร์ริสในการอัปเดตและถามไถ่ถึงเทรนด์และรสนิยมของคนรุ่นใหม่
จนกระทั่งวันหนึ่ง เครเมอร์ก็ได้ลองพูดเล่น ๆ ว่าจะขออาสาทำหน้าที่ดูแลด้านการตลาดบนหน้าเพจโซเชียลมีเดียให้ แต่ดูเหมือนว่าไป ๆ มา ๆ มันจะไม่ใช่เรื่องที่พูดเล่นอีกต่อไป เพราะเธอก็ได้มาตอบรับบทบาทหน้าที่นี้และได้มาดูแลการตลาดหน้าเพจของ Jim Morris Environmental & WildLife T-Shirt Co. จริง ๆ
ใครจะคิดว่าการมาของเธอจะทำให้ทั้งเพจและช่องของ Jim Morris Environmental & WildLife T-Shirt Co. เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากเดิมที่มีแค่ผู้ติดตามบนอินสตราแกรมเพียง 1,000 คน ปัจจุบันนี้ได้ขยับไปถึง 850,000 ผู้ติดตามไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังมีช่อง Tiktok ที่สร้างขึ้นใหม่ที่ปัจจุบันก็มีผู้ติดตามเกือบสองแสนคนเข้าไปแล้ว
เครเมอร์เล่าว่าเธอเห็นความพิเศษในทั้งบุคลิกที่น่ารักของมอร์ริสรวมไปถึงอุดมการณ์ที่หนักแน่นจริงจัง จึงคิดว่าเรื่องราวเหล่านี้สมควรถูกตีแผ่และนำเสนอ เผื่อว่าจะมีผู้คนที่คิดเหมือนกันมาเป็นอีกเรี่ยวแรงในการช่วยสนับสนุน
ในหลาย ๆ วิดีโอ มอร์ริสก็ได้พูดถึงสิ่งที่เขาอยากนำเสนอ ซึ่งก็คือการรณรงค์ให้ผู้คนส่งต่อความรักไปถึงสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงบอกเล่าถึงเส้นทางของเขาที่ดำเนินมาอย่างยาวนานกับ Jim Morris Environmental & WildLife T-Shirt Co. จนทำให้ผู้คนมากมายสนใจกับเสื้อของมอร์ริส และยังรู้สึกเอ็นดูและอบอุ่นที่ได้ฟังสิ่งที่เขาบอกเล่า เสมือนได้ฟังคุณตาใจดีคนหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง
ในบางเว็บไซต์ก็ได้มีผู้ที่ไปอุดหนุนเสื้อจาก จิม มอร์ริส มาบรรยายความรู้สึกของพวกเขาเอาไว้มากมาย
“ผมเพิ่งรู้จักบริษัท Jim Morris Environmental T-shirt Co ไม่นานมานี้ และรู้สึกทึ่งมากที่เขาผลิตลายเสื้อที่ไม่เหมือนใครมาอย่างยาวนาน รายละเอียดและคุณภาพของเสื้อนี่สุดยอดจริง ๆ!! เสียดายแค่ว่าร้านอยู่ที่โบลเดอร์ ซึ่งค่อนข้างไกลจากบ้านผม แต่โชคดีที่สามารถสั่งออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์ และทีมงานก็ดูแลเรื่องจัดส่งอย่างดีเสมอ”
— Antonio B.
“จิมเป็นคนที่น่ารักมากเลยครับ ยายของผมซื้อเสื้อยืดจากเขามานานเกือบ 30 ปีแล้ว พอดีตอนนั้นเราไปดูคอนเสิร์ตของ Donovan ที่ Boulder Theatre ก็เลยถือโอกาสไปเยี่ยมเขา (แน่นอนว่าเราขออนุญาตก่อนนะครับ)
จิมเป็นสุภาพบุรุษตัวจริง เราคุยกันหลายเรื่องเลยจนเกือบลืมเวลา ผมรู้สึกว่าเราน่าจะรบกวนเขามากไปด้วยซ้ำ แต่เขาและทีมงานก็ใจดีมาก พาเราชมโรงงานทั้งหมด พูดคุยกันแบบเป็นกันเองสุด ๆ
บริษัทนี้บริหารโดยคนที่มีหัวใจดี และเสื้อยืดของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ลวดลายต่าง ๆ บอกเล่าเรื่องราวได้ในตัวมันเอง และผมเชื่อว่าคนจากทุกกลุ่ม ทุกความเชื่อ น่าจะชื่นชอบเสื้อของเขา
ผมเคยแนะนำให้จิมลองขายเสื้อผ่าน Amazon ถึงแม้ว่าจะต้องแบ่งรายได้บางส่วนให้แพลตฟอร์ม แต่ผมว่าการได้ “เปิดโลก” ให้ผู้คนรู้จักงานของเขามากขึ้น จะเป็นประโยชน์อย่างมาก
ผมขออวยพรให้พวกเขาโชคดี ผลิตภัณฑ์ของเขาสวยงาม และผมคิดว่าโลกใบนี้น่าจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้มากกว่านี้อีกเยอะ”
— Patrick C.
“เมื่อไม่นานมานี้ฉันนั่งนึกถึงความหลังเกี่ยวกับโบลเดอร์—แม้จะไม่ได้แก่ขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่มาพักใหญ่แล้ว และเสื้อยืดเหล่านี้ก็นึกขึ้นมาในหัวทันที เมื่อพยายามนึกภาพว่าโบลเดอร์เคยมีหน้าตาแบบไหนในช่วงเวลาสุดท้ายของวัน
ฉันดีใจที่บริษัทนี้ยังคงอยู่ และยังคงผลิตงานสวย ๆ แบบที่พวกเขาทำมาตลอด
ถึงแม้ว่าตัวฉันเองจะไม่ได้มีเสื้อของพวกเขาอยู่แล้วในตอนนี้ แต่คิดว่าสามีของฉันน่าจะยังมีเสื้อที่เคยผลิตไว้สำหรับงานกิจกรรมต่าง ๆ อยู่บ้าง
คิดว่าเดี๋ยวคงต้องแวะเข้าไปดูซะหน่อย”
— Anna T.
แม้ว่าเสื้อที่รังสรรค์ด้วยใจของมอร์ริสอาจไม่ได้ประสบความสำเร็จเป็นเทน้ำเทท่า แต่เรื่องราวของเขา — นอกจากเป็นหนึ่งพลังในการใช้ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ต่อกรกับปัญหาสิ่งแวดล้อม — ก็ยังเป็นตัวอย่างที่งดงามของคนที่ยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อเสมอมา และมุ่งหน้าทำมันอย่างไม่ลดละ จนได้กลายเป็นเรื่องราวที่สวยงามบนเส้นทางการสร้างสรรค์ในแบบที่ จิม มอร์ริส ทำ
มันไม่ใช่แค่เรื่องของการที่ จิม มอร์ริส เชื่อมั่นในพลังของเสื้อยืด แต่มันคือเรื่องของการที่คน ๆ หนึ่งพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านความเชื่อมั่นที่แข็งกล้าของตนตลอดมา
ภาพ : Jim Morris Environmental T-Shirts | Facebook
อ้างอิง
'Internet's grandpa': Jim Morris spreads positivity, passion for environment | The Gazette
Jim Morris Environmental T-Shirt Company | yelp