11 ม.ค. 2567 | 10:50 น.
“เขาไม่เคยหนักสำหรับผม เขาเป็นน้องชายของผม”
ย้อนกลับไปในปี 2014 ภาพของ ‘โนอาห์ อัลดริช’ (Noah Aldrich) ในวัย 8 ขวบ กำลังเข็น ‘ลูคัส อัลดริช’ (Lucas Aldrich) น้องชายที่เกิดมาพร้อมโรคผิวสมองเรียบ (Lissencephaly) โรคที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการทำให้เขาไม่สามารถพูด เดิน หรือกลืนอาหารได้เหมือนคนปกติทั่วไป ในรายการแข่งขันไตรกีฬา ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา กลายเป็นที่พูดถึงทั่วโลกออนไลน์
เพราะอาการป่วยของลูคัส ทำให้พี่ชายอย่างเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้น้องชายเพียงคนเดียว มีชีวิตที่สุขที่สุด แม้ตัวเองจะต้องเข็นน้องไปร่วมทำกิจกรรมนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เล่นสกี และไปดิสนีย์แลนด์
โนอาห์ ไม่อยากให้น้องชายอยู่แต่ในบ้าน เขารู้ดีว่าวิธีที่จะทำให้ชีวิตของน้องชายยืนยาว คือ การพาน้องออกไปใช้ชีวิต
“พวกเขาตัวติดกันตลอด สายสัมพันธ์ของทั้งคู่แนบแน่นจนอดทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันใจไม่ได้ และถ้าคุณสังเกต คุณจะเห็นว่าทุกครั้งที่โนอาห์เดินเข้ามาในห้องของลูคัส สายตาของเขามักเป็นประกายทุกครั้งที่เห็นพี่ชาย”
ความผูกพันระหว่างคู่พี่น้องทำให้ ‘ไบรอัน อัลดริช’ (Brian Aldrich) และ ‘อาลิซซา อัลดริช’ (Alissa Aldrich) มีกำลังใจที่จะดูแลลูกชายทั้งสองให้มีชีวิตที่ดีที่สุด แม้พวกเขาจะรู้ดีว่าอายุไขของลูกชายคนเล็กจะไม่ยืนยาวเท่าคนทั่วไป แต่พวกเขายังมีความหวัง ความหวังที่จะเห็นลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการ โดยมีพี่ชายคอยอยู่เคียงข้างไม่ห่างกาย
โนอาห์ ก็คิดเช่นเดียวกับพ่อและแม่ เขาอยากให้น้องชายมีชีวิตที่ดีที่สุด การลงแข่งไตรกีฬาด้วยกันกับน้อง จึงเป็นอีกหนึ่งความฝันที่เขาอยากจะทำร่วมกัน
เด็กชายวัย 8 ขวบไม่รอช้า ทันทีที่เขาเห็นป้ายประกาศรับสมัครผู้เข้าร่วมแข่งขันไตรกีฬารายการ YMCA Kid เขารีบบอกพ่อกับแม่ว่า ขอพาน้องชายเข้าร่วมการแข่งขันด้วย แม้พวกเขาจะกังวลถึงความหนักหน่วงในการแข่งขันที่มีทั้งวิ่งทางไกล 1 ไมล์ (ประมาณ 1.6 กิโลเมตร) ปั่นจักรยาน 3 ไมล์ (ประมาณ 4.8 กิโลเมตร) ไปจนถึงว่ายน้ำอีก 200 เมตร แต่สายตาที่เป็นประกายของโนอาห์ทำให้พวกเขายอมตกลงอนุญาตให้โนอาห์และลูคัสเข้าร่วมการแข่งขันในที่สุด
“ผมให้ลูคัสอยู่ในแพระหว่างที่แข่งว่ายน้ำ ให้เขานั่งในรถเข็นแล้วผมก็เข็นเขาไประหว่างวิ่ง ตอนที่ปั่นจักรยาน ผมก็ให้เขานั่งในรถเข็นแล้วผูกเชือกไว้กับตัวรถ
“ผมอยากทำมัน เพราะลูคัสทำเองไม่ได้ ลูคัสไม่สามารถแม้แต่จะเล่นกีฬาอะไรได้ด้วยตัวเอง นี่ก็เลยเป็นเหมือนสิ่งที่เราสามารถทำด้วยกันได้”
ทุกครั้งที่โนอาห์และลูคัสฝึกซ้อมด้วยกัน สิ่งที่พี่ชายอย่างเขากลัวที่สุดคือทำให้น้องชายบาดเจ็บ “ผมไม่สนว่าจะชนะการแข่งขันไหม ผมสนแค่ว่าน้องชายของผมปลอดภัย นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผม”
ทั้งคู่จบการแข่งขันในเวลา 54 นาที ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้คนรอบสนาม โนอาห์ได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นแล้วว่า เด็กชายวัย 8 ขวบที่มีกำลังแขนและขาอันน้อยนิด สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้มากเพียงใด
“เราภูมิใจในตัวลูกชายมาก พวกเขาทำได้ดีที่สุดเท่าที่เด็กจะทำได้ ผมและภรรยาได้แต่สนับสนุนลูก ๆ ให้ทำในสิ่งที่พวกเขาอยากทำ เพราะผมไม่รู้ว่าลูคัสจะมีชีวิตไปจนถึงวันไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการแข่งครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของลูคัสไหม ผมไม่รู้อะไรเลย รู้เพียงแค่ว่าสิ่งที่พวกเขาทำด้วยกันมอบความกล้าหาญในการใช้ชีวิตให้กับผม”
ปัจจุบัน โนอาห์และลูคัสยังคงแข่งไตรกีฬาด้วยกัน ถึงเรื่องราวของพวกเขาจะเคยโด่งดังเมื่อสิบปีก่อน แต่เชื่อว่าทุกครั้งที่ย้อนกลับมาอ่าน เรื่องราวของคู่พี่น้องไตรกีฬายังคงทำให้โลกใบนี้สวยงามอยู่เสมอ และอีกหนึ่งคำพูดติดปากของโนอาห์ คือ เขาไม่เคยเหนื่อยเลยที่อยู่กับลูคัส เพราะน้องชายของเขาคือสิ่งที่ดีที่สุดในโลก
“ผมชอบทุกอย่างของลูคัส น้องชายของผมเจ๋งที่สุดในโลก!”
เรื่อง : วันวิสาข์ โปทอง
ภาพ : Noah and Lucas Aldrich - Triathlon brothers / Facebook
อ้างอิง
Noah and Lucas Aldrich - Triathlon brothers
The Brotherly Love That Conquers Triathlons
An 8-Year-Old Boy Carried His Disabled Brother Through An Entire Triathlon
He ain’t heavy, he’s my brother: 8-year-old boy carries disabled brother through triathlon