14 ต.ค. 2566 | 20:27 น.
- ‘อินบาร์ ลีเบอร์แมน’ (Inbar Liberman) วีรสตรีชาวอิสราเอล ที่ตัดสินใจช่วยชุมชนคิบบุตช์ (kibbutz) จากกลุ่มฮามาส
- เธอถูกยกย่องให้เป็น ฮีโร่หญิงที่อายุเพียง 25 ปี แต่ตัดสินใจเด็ดขาดแจกจ่ายอาวุธเพื่อต่อสู้ จนสังหารสมาชิกฮามาสได้ 25 คน
มีคนพูดกันว่าสถานการณ์มักสร้างวีรบุรุษ หรือวีรสตรี เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือประเทศอะไร เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศอิสราเอล เมืองที่มีประชากรอาศัยร่วมกันอย่างสงบสุขเพียง 700 ชีวิต แต่(เกือบ) ดับสูญไปกับความกระหายเลือดของกลุ่มก่อการร้ายที่พยายามรุกรานความสงบสุขนั้น
หญิงสาวชาวอิสราเอลที่ชื่อว่า ‘อินบาร์ ลีเบอร์แมน’ (Inbar Liberman) เธอมีหน้าตาสวย มีรอยยิ้มที่เปล่งประกาย แต่จิตใจเธอเต็มไปด้วยความกล้าหาญ และเด็ดเดี่ยวแม้ว่าเธออายุได้เพียง 25 ปีเท่านั้น
อินบาร์ ถูกยกย่องให้เป็น ‘วีรสตรี’ ที่สามารถช่วยชาวคิบบุตช์ (kibbutz) หรือชาวบ้านในนิคมเกษตรได้ทั้งหมู่บ้านจากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮามาส เธอเรียกสติทุกคนในวันที่ถูกโจมตีด้วยการจัดตั้งหน่วยสังหารติดอาวุธ และลงปฏิบัติการโจมตีกลับกับกลุ่มฮามาส หลังจากที่เธอแจกจ่ายอาวุธให้ฝ่ายตั้งรับ แทนที่จะรอความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว
ด้วยความที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียงหยิบมือ จำนวนทีมรักษาความปลอดภัยที่พร้อมสแตนบายมีเพียง 12 คน เมื่อ อินบาร์ รับรู้ได้ว่ากำลังถูกปิดล้อมและสุ่มโจมตี เธอสามารถวิ่งจากบ้านหลังหนึ่ง ไปยังบ้านอีกหลังหนึ่ง เพื่อมอบอาวุธให้กับเจ้าของบ้าน และจัดแจกตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ให้กับพวกเขาให้อยู่ประจำที่ทั่วทั้งคิบบุตช์
นอกจากนี้ อินบาร์ ได้รวบรวมเด็กและผู้หญิงทั้งหมดในหมู่บ้านมาซ่อนในพื้นที่ปลอดภัยอย่างรวดเร็ว
การตัดสินใจของอินบาร์ครั้งนั้น สามารถสังหารสมาชิกกลุ่มฮามาสได้ถึง 25 คน ในระหว่างที่ชุมชนคิบบุตช์ถูกปิดล้อมนานถึง 4 ชั่วโมง โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือ ถูกลักพาตัว ถือเป็นการตัดสินใจที่เฉียบคมและกอบกู้สถานการณ์ได้อย่างสง่างาม
หนึ่งในผู้อาศัยในชุมชนแห่งนั้น ‘อิลิต ปาซ’ ได้พูดถึงอินบาร์ ว่าการดำเนินการของเธอเด็ดขาดและน่าทึ่งมาก และสามีของเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยเตรียมความพร้อม ซึ่งเดาว่าน่าจะรับคำสั่งให้รอการช่วยเหลือก่อน
อิลิต ปาซ เล่าว่า “ถึงคำสั่งมาแบบนั้น แต่ว่าอินบาร์ ตัดสินใจไม่รีรอและกระโจนลงมือปฏิบัติจริง การดำเนินการตั้งแต่เนิ่น ๆ ของเธอช่วยป้องกันการบาดเจ็บล้มตายได้หลายสิบคนจากการโจมตีครั้งนี้”
ขณะเดียวกัน Maariv Daily หนังสือพิมพ์ภาษาฮีบรู ได้ยกย่องการกระทำของ อินบาร์ ว่าเมื่อทุกอย่างจบลง ผู้หญิงคนนี้จะได้รับรางวัล Israel Prize เพื่อเชิดชูเรื่องราวความกล้าหาญของเธอ และเชื่อว่าจะเป็นเรื่องราวที่ฝังอยู่ในตำนานของอิสราเอลต่อไปหลายชั่วอายุคน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกหมู่บ้านในอิสราเอลที่โชคดีเช่นนี้ เพราะยังมีพื้นที่อีกมากที่ถูกโจมตี ลักพาตัว และยิงระยะกระชั้นชิด แม้ตัวเลขล่าสุดยังไม่นิ่งแต่ก็มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2,000 คนในความขัดแย้งนี้ ขณะเดียวกัน อิสราเอลยังให้คำมั่นด้วยว่า จะทำลายพื้นที่ตรงฉนวนกาซาให้ราบคาบ ดังนั้น ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะยังคงทะยานขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ อิสราเอลได้สั่งระงับการส่งอาหาร เชื้อเพลิง และยา ในพื้นที่ฉนวนกาซาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นการตอบโต้อย่างหนึ่งต่อการรุกรานอิสราเอลจนเกิดการนองเลือดขึ้น
เรื่องราวและความเจ็บปวดนี้ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสมีการสู้รบทำสงครามกันมาแล้ว 4 ครั้ง นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ยึดอำนาจในฉนวนกาซาเมื่อเกือบ 15 ปีที่แล้ว และยังดูท่าทีแล้วไม่น่าจะจบลงเร็ว ๆ นี้แน่นอน
ภาพ: Social Media/Getty/Alamy
อ้างอิง: