14 ธ.ค. 2566 | 17:00 น.
แด่...รักแรกที่จากไป
16 เดือนหลังจากรักแรกและภรรยาคนแรกของเขาจากไป ‘ริชาร์ด ไฟน์แมน’ (Richard Feynman) นักฟิสิกส์เชื้อสายอเมริกัน เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ บุคคลสำคัญที่ทำให้แมนฮัตตันโปรเจกต์ (Manhattan Project) โครงการลับของสหรัฐอเมริกาในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประสบความสำเร็จ เริ่มเขียนจดหมายถึงหญิงคนรักที่เสียชีวิตจากวัณโรค ขณะที่เธออายุเพียง 25 ปี
ชื่อเสียงของไฟน์แมนเป็นที่เลื่องลือ ไม่ใช่เพราะความฉลาดเกินมนุษย์ หากแต่เป็นความขี้เล่นของเขา ที่มักจะเข้ามาสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ชีวิตของคนติดตลกกลับมีเรื่องราวของรักแรกแสนเศร้า ที่แม้จะเป็นนักฟิสิกส์ที่เก่งกาจขนาดไหน ก็ไม่อาจยื้อชีวิตคนรักไว้ได้
‘อาร์ลีน กรีนบาม’ (Arline Greenbaum) คือชื่อของเธอคนนั้น เธอผู้ทำให้นักฟิสิกส์หนุ่มตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น เธอคนที่ทำให้เขาเห็นอนาคตว่าจะต้องแต่งงานกับคนนี้ และตั้งใจเรียนจบปริญญาเอก ด้านกลศาสตร์ควอนตัม มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้กลับมาใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่า เพราะด้วยเงื่อนไขของทุนมหาวิทยาลัย เขาไม่สามารถแต่งงานระหว่างเรียนได้ ไม่เช่นนั้นสิทธิทั้งหมดจะถูกตัด
ไฟน์แมนเรียนจบปริญญาเอกในปี 1942 แต่หญิงคนรักของเขาได้รับการวินิจฉัยว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง 2 ปี เวลาอันน้อยนิด กับความทุกข์ทรมานของเธอที่ทำให้เขาปวดร้าวทุกครั้งที่พบเจอ กรีนบามป่วยเป็นวัณโรค โรคที่คร่าชีวิตคนมานับไม่ถ้วน และมันก็กำลังจะพรากเธอไปจากไฟน์แมนเช่นกัน เขาจึงตั้งใจใช้เวลาทุกวินาทีร่วมกับเธอให้ได้มากที่สุด เริ่มจากการขอเธอแต่งงาน แม้จะได้รับเสียงคัดค้านจากพ่อแม่ของกรีนบาม เพราะพวกเขาไม่อยากให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นไปเพราะความสงสาร
“ฉันรู้สึกแปลกใจที่รู้ว่าการแต่งงานในลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย... ฉันว่ามันควรจะเป็นได้แล้วนะ” แม่ของกรีนบามพูดออกมาด้วยความขมขื่น เธอกลัว กลัวว่าทั้งหมดที่ไฟน์แมนทำไม่ได้มาจากความรู้สึกที่แท้จริง และมันอาจทำให้การแต่งงานครั้งนี้ติดเป็นตราบาปไปชั่วชีวิตเขา
พวกเขาแต่งงานโดยมีพยานรักเพียงแค่คนแปลกหน้าสองคนเท่านั้น แม้แต่จะจุมพิตเสร็จสิ้นพิธีก็ไม่สามารถทำได้ เพราะหญิงตรงหน้าของเขากำลังป่วย และป่วยหนักมากเสียด้วย ภาพถ่ายงานแต่งของทั้งคู่เรียบง่าย ไฟน์แมนฉีกยิ้มกว้าง ส่วนหญิงคนรักก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกันราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย
ขณะที่ความรักกำลังผลิบาน ประตูแห่งความตายก็ค่อย ๆ แง้มออกมาช้า ๆ ไฟน์แมนรู้ดีว่าภรรยาของตน มีเวลาเหลืออีกไม่นานนัก ระหว่างที่เขาติดภารกิจกอบกู้ชาติโดยเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมแมนฮัตตันโปรเจกต์ เพื่อไม่ให้ประเทศบ้านเกิดของเขาต้องล่มสลาย แต่อีกครึ่งชีวิตของเขากำลังจะจากไป
ระหว่างปฏิบัติภารกิจ ไฟน์แมนยังคงเขียนจดหมายถึงคนรักทุกวัน เขามักลงท้ายทุกครั้งว่าเขาคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ เธอคือผู้หญิงที่แกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอ
“ถึงจะมีบางครั้งที่คนแกร่งอย่างคุณจะอ่อนไหวไปบ้าง แต่มันก็เหมือนกับภูเขาน้ำแข็ง เราไม่รู้หรอกว่าภายใต้ความเข้มแข็งนั้นมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง หากไม่มีคุณ ชีวิตผมคงว่างเปล่า... ผมพบว่ามันยากขึ้นทุกทีที่ต้องเขียนจดหมายบอกกับคุณแบบนี้
“แต่...ผมรักคุณ และจะรักไม่มีวันเปลี่ยน”
ถึงจะพยายามใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยรักษาหญิงคนรักมากแค่ไหน แต่สุดท้ายเวลานั้นก็มาถึง เธอจากไปในวันที่ 16 มิถุนายน 1945 ขณะอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น ความรักวัยเด็กถึงคราวปิดฉากลง แต่ใจของไฟน์แมนไม่เคยหยุดรักเธอแม้แต่วินาทีเดียว
และนี่คือจดหมายรักของเขา ถึง ‘เธอ’ รักแรกที่ยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
17 ตุลาคม 1946
ถึง อาร์ลีนที่รัก
ผมรักคุณที่รัก...
ผมรู้ว่าคุณชอบได้ยินคำนี้มากแค่ไหน แต่ผมไม่ได้เขียนมันเพราะคุณชอบเท่านั้น แต่ผมอยากเขียนเพราะมันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจที่จะเขียนคำนี้ถึงคุณ
มันช่างยาวนานเหลือเกินตั้งแต่จดหมายฉบับสุดท้ายที่ผมเขียนถึงคุณ เกือบสองปีเห็นจะได้ แต่ผมรู้ว่าคุณคงไม่ถือโทษโกรธเคืองผมหรอกใช่ไหม? เพราะคุณเข้าใจผมดีกว่าใคร ผมดื้อดึงและมีเหตุผลเกินกว่าจะเขียนจดหมายถึงคุณ คนที่จากไป มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ภรรยาที่รักของผม คุณก็รู้ว่าผมมักจะทำอะไรช้า และปล่อยให้เวลาในอดีตล่วงเลยมานานจนเกินไป ผมอยากจะบอกว่าผมรักคุณ ผมอยากจะรัก และหวังว่าจะรักคุณแบบนี้ตลอดไป
ผมพบว่ามันยากเหลือเกินที่จะเข้าใจว่าการรักคุณ ทั้ง ๆ ที่คุณตายจากไปแล้วมันจะมีความหมายอะไร แต่ผมยังคงต้องการคำปลอบโยนจากคุณ ผมอยากให้คุณกลับมารักและดูแลผม ผมอยากจะคุยทุกปัญหาที่เจอมาทั้งวันกับคุณ ผมอยากจะทำอะไรอีกสักเล็กน้อยร่วมกับคุณ ผมไม่เคยคิดถึงสิ่งนี้เลย จนกระทั่งคุณจากผมไป...
ผมคิดว่าเราจะมีเวลาร่วมกันมากกว่านี้ แต่เราจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเวลาเหล่านั้นไม่เคยมาถึง ผมเคยคิดนะว่าผมอยากจะเริ่มเรียนเย็บผ้ากับคุณ หรือจะเรียนภาษาจีนกับคุณดีนะ
ผมเพิ่งรู้ว่ามันยากเหลือเกินที่จะเข้าใจคำว่ารัก หลังจากคุณตายจากไป มันจะไปมีความหมายอะไรในเมื่อวันนี้คุณไม่อยู่กับผมแล้ว แต่ผมยังต้องการสัมผัสไออุ่นจากคุณอยู่นะที่รัก ผมอยากดูแลคุณ อยากให้คุณรักและอยู่ดูแลผม ผมอยากจะเถียงกับคุณด้วยเรื่องไร้สาระ อยากจะทำอะไรอีกหลายอย่างด้วยกัน
แต่ตอนนี้ผมทำมันไม่ได้เลยสักอย่าง ผมอยู่คนเดียวโดยไม่มีคุณข้างกาย คุณคนที่มีความปราดเปรื่อง คุณคนที่ชอบทำอะไรบ้า ๆ ด้วยกัน ทำให้โลกของผมเปลี่ยนไป
ตอนที่คุณป่วย ผมรู้ว่าคุณกังวล เพราะคุณไม่สามารถทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำได้ และไม่สามารถให้สิ่งที่ผมต้องการได้เช่นกัน แต่คุณไม่ต้องกังวลหรอกที่รัก อย่างที่ผมบอกคุณตั้งแต่ตอนนั้น มันไม่มีความจำเป็นเลยจริง ๆ เพราะผมรักทุกอย่างที่เป็นคุณ และตอนนี้มันก็ยิ่งกระจ่างชัดขึ้นว่าผมรักคุณมากเหลือเกิน
ผมอยากให้คุณอยู่ตรงนี้กับผมมากเหลือเกิน คุณคนที่ตายไปแล้วนั้นดีกว่าทุกคนที่ผมเคยรู้จักมาทั้งชีวิตเสียอีก
ผมรู้ว่าคุณจะบอกว่าผมนั้นโง่แค่ไหนที่ยังอยู่ตรงนี้ ยังเฝ้าคิดถึงคุณอยู่ไม่ไปไหน ผมรู้ว่าคุณอยากให้ผมมีความสุขและไม่ต้องการขวางทางกับรักครั้งใหม่ในชีวิตผม แต่ผมพนันได้เลยว่า คุณจะแปลกใจที่ผมไม่คบหากับใครเลยตั้งแต่คุณจากไป (ผมมีแต่คุณที่รัก) ที่รัก, ผมทำใจไม่ได้จริง ๆ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมหยุดคิดถึงคุณไม่ได้ ผมพบเจอผู้หญิงมากหน้าหลายตา ผมไม่อยากอยู่คนเดียวก็จริง แต่ผมไม่อาจปันใจไปจากคุณได้เลยสักครั้ง
คุณคือรักเพียงหนึ่งเดียวของผม
ผมรักภรรยาของผมมากเหลือเกิน แต่เธอจากไปแล้ว
ป.ล. ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ส่งจดหมายนี้ไปให้นะ ผมไม่รู้ว่าที่อยู่ใหม่ของคุณอยู่ที่ไหนน่ะ
เรื่อง : วันวิสาข์ โปทอง
อ้างอิง :
Love After Life: Nobel-Winning Physicist Richard Feynman’s Extraordinary Letter to His Departed Wife
Richard Feynman’s Love Letter to His Wife, Sixteen Months After Her Death
No Other Love: Heart-Wrenching Letters from Richard Feynman to His Late Wife, Arline