วิจัยกรุงศรี เผยบทวิเคราะห์เกมการค้าทรัมป์ระลอกใหม่ ในวันที่โลกสั่นสะเทือน ไทยเดินหมากอย่างไร?

วิจัยกรุงศรี เผยบทวิเคราะห์เกมการค้าทรัมป์ระลอกใหม่ ในวันที่โลกสั่นสะเทือน ไทยเดินหมากอย่างไร?

ทรัมป์พิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าจีน 10%, เม็กซิโก-แคนาดา 25% ส่งผลต่อการค้าโลก เศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดส่งออกโต 2.7% ได้ผลบวกเล็กน้อยจากการโยกฐานผลิตและส่งออกทดแทน

เศรษฐกิจโลก

โลกคลายความวิตกในช่วงสั้นหลังทรัมป์ยังไม่ปรับขึ้นภาษีศุลกากรในวงกว้าง แต่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อาจทวีความรุนแรง

 

สหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังเป็นบวกและความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย คาดหนุนเฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ภายหลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) หลายฉบับ อาทิ การถอนตัวจากข้อตกลงปารีส องค์การอนามัยโลก (WHO) และข้อตกลง Global Minimum Tax รวมทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน และการจัดการผู้อพยพผิดกฎหมาย

แม้ว่านายทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรในวงกว้าง แต่พิจารณาที่จะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ได้แก่ จีน ในอัตรา 10% เม็กซิโกและแคนาดา ในอัตรา 25% หากว่ายังไม่เร่งแก้ไขปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเฟนทานิลที่ถูกส่งเข้ามายังสหรัฐฯ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ขู่ที่จะจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อประเทศที่เกินดุลกับสหรัฐฯ อย่างมาก โดยเฉพาะสหภาพยุโรป ทั้งนี้ จากภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังเป็นบวก รวมถึงนโยบายของทรัมป์ที่จะหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ วิจัยกรุงศรีประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 มกราคมนี้

วิจัยกรุงศรี เผยบทวิเคราะห์เกมการค้าทรัมป์ระลอกใหม่ ในวันที่โลกสั่นสะเทือน ไทยเดินหมากอย่างไร?

ญี่ปุ่น

แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นทยอยฟื้นตัวแต่ความเปราะบางของภาคการผลิตและส่งออกอาจส่งผลให้ BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 17 ปีที่ 0.50% ในการประชุมเดือนมกราคม พร้อมส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อหากตัวเลขเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังเป็นไปตามคาดการณ์ นอกจากนี้ ในเดือนมกราคม ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ 48.8 หดตัวมากที่สุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่ภาคบริการขยายตัวมากสุดในรอบ 4 เดือนอยู่ที่ 52.1

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ สอดคล้องกับค่าจ้างและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้มีความต่อเนื่องท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าที่ลดลงในระยะสั้นหลังนายทรัมป์ ชะลอการปรับขึ้นภาษีศุลกากรในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม จากภาคการผลิตและส่งออกที่ยังคงซบเซาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า การแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่รุนแรงขึ้น รวมถึงความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นอาจยังเป็นข้อจำกัดในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น จากปัจจัยข้างต้น วิจัยกรุงศรีประเมินว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่นครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้

วิจัยกรุงศรี เผยบทวิเคราะห์เกมการค้าทรัมป์ระลอกใหม่ ในวันที่โลกสั่นสะเทือน ไทยเดินหมากอย่างไร? จีน

จีนเผชิญแรงกดดันทางการค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น เมื่อวันที่ 20-21 มกราคม นายโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศพิจารณาแผนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมกับจีน 10% และเม็กซิโก-แคนาดา 25% โดยอาจเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 มกราคม สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมาย Restoring Trade Fairness Act เพื่อยกเลิกสถานะ Permanent Normal Trade Relations (PNTR) ของจีน ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดภาษีนำเข้าขั้นต่ำจากจีน 35% สำหรับสินค้าทั่วไป และ 100% สำหรับสินค้ายุทธศาสตร์ โดยจะปรับเพิ่มเป็นขั้นบันไดตลอด 5 ปีข้างหน้า

วิจัยกรุงศรีประเมินว่าการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากจีน เม็กซิโก และแคนาดาของสหรัฐฯ รอบใหม่ จะทำให้การส่งออกและ GDP ของจีนลดลงจากกรณีฐาน -2.38% และ -0.08% ตามลำดับ ขณะที่สหรัฐฯ อาจได้ไม่คุ้มเสีย เนื่องจากการส่งออกและ GDP จะลดลงจากกรณีฐานมากกว่าจีนถึงประมาณ 4 เท่า นอกจากนี้ การยกเลิกสถานะ PNTR ของจีนอาจเร่งให้เกิดการแยกตัวทางเศรษฐกิจ (Decoupling) หรือทำให้เกิดการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานโลกในระยะข้างหน้าเร็วขึ้น ทั้งนี้ คาดว่า ในปี 2568 รัฐบาลจีนจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อชดเชยการส่งออกที่มีแนวโน้มอ่อนกำลังลง

วิจัยกรุงศรี เผยบทวิเคราะห์เกมการค้าทรัมป์ระลอกใหม่ ในวันที่โลกสั่นสะเทือน ไทยเดินหมากอย่างไร?

เศรษฐกิจไทย

การส่งออกในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงสู่ 2.7% จากปีก่อนที่ขยายตัวดีกว่าคาด ท่ามกลางความท้าทายจากความตึงเครียดทางการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น

ส่งออกเดือนธันวาคมขยายตัว 8.7% หนุนภาพรวมปี 2567 โตเกินคาดที่ 5.4% ส่วนปี 2568 คาดโตชะลอลงเหลือ 2.7% มูลค่าส่งออกในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 24.8 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ที่ 8.7% YoY ตามการเติบโตของการส่งออกสินค้าทุนและวัตถุดิบของไทยในเกือบทุกหมวด อีกทั้งยังขยายตัวในเกือบทุกตลาดส่งออกสำคัญ สำหรับภาพรวมในปี 2567 มูลค่าส่งออกรวมแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3 แสนล้านดอลลาร์ และขยายตัว 5.4% จากปีก่อน

การส่งออกในเดือนธันวาคมที่เติบโตดีต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายน (+8.2% YoY) ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากการเร่งนำเข้าของประเทศคู่ค้าเพื่อเตรียมรองรับกับความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ในระยะข้างหน้า สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยปี 2568 วิจัยกรุงศรีคาดการณ์ว่าจะเติบโตชะลอลงสู่ 2.7% โดยยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้าง อาทิ การลดลงของขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้า ประกอบกับความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น รวมทั้งการแข่งขันกับสินค้าจีนที่คาดว่าจะหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มเติม หากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยยังได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน (ล่าสุด IMF คาดจะเติบโต 3.3% จาก 3.2% ในปี 2567) รวมถึงการเติบโตในภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและกิจกรรมภาคท่องเที่ยวซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการสินค้าในบางรายการ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และสินค้าเกษตร เป็นต้น

วิจัยกรุงศรี เผยบทวิเคราะห์เกมการค้าทรัมป์ระลอกใหม่ ในวันที่โลกสั่นสะเทือน ไทยเดินหมากอย่างไร?

วิจัยกรุงศรีประเมินไทยอาจได้ผลเชิงบวกเล็กน้อยจากกรณีสหรัฐฯเรียบเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนเพิ่ม 10% และ 25% กับเม็กซิโกและแคนาดา ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ระกาศเตรียมพิจารณาปรับขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าทุกประเภทจากทั้ง 3 ประเทศข้างต้น โดยจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

การประเมินผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าโดยใช้แบบจำลองการวิเคราะห์การค้าโลก (Global Trade Analysis Project: GTAP) พบว่ากรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 10% และ 25% กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา อาจทำให้การส่งออกและ GDP ของไทย เพิ่มขึ้นจากกรณีฐาน +1.65% และ +0.05% ตามลำดับ แม้ว่าไทยอาจได้ประโยชน์จากการส่งออกทดแทนในบางอุตสาหกรรม รวมถึงการย้ายฐานการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษี แต่ผลบวกกระจุกตัวในบางกลุ่มสินค้าเท่านั้น และที่สำคัญผลลบกระจายไปยังหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ นโยบายการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์ยังมีความไม่แน่นอนและอาจสร้างความปั่นป่วนต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกอยู่เป็นระยะๆ จึงนับเป็นประเด็นความท้าทายที่สำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย

วิจัยกรุงศรี เผยบทวิเคราะห์เกมการค้าทรัมป์ระลอกใหม่ ในวันที่โลกสั่นสะเทือน ไทยเดินหมากอย่างไร?