Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

ในยุคที่เสียงของผู้บริโภคทรงพลังและดังชัดเจนยิ่งกว่าที่เคย การออกแบบที่อยู่อาศัยให้ครองใจผู้คนไม่ใช่เพียงแค่การผลิตภัณฑ์ที่ดีจากมุมมองของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังต้องใส่ใจในการ ‘ฟัง’ เสียงของความต้องการที่หลากหลาย

พันธิตร ทองสำราญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (Chief of Marketing) และ ชโลทร ปะทะโม ผู้จัดการฝ่ายแบรนด์ (Head of Brand) บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) สองหัวเรือใหญ่เบื้องหลังการขับเคลื่อนแบรนด์ ‘สัมมากร’ สู่ยุคใหม่ภายใต้ความเชื่อมั่นว่า ‘ทุกเสียงต้องไม่ถูกละเลย’

 

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

 

ความต้องการที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อาจเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับใครบางคน เมื่อเสียงทุกเสียงถูกนำมารวมกันด้วยความใส่ใจ ผลลัพธ์ที่ได้คือโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในยุคปัจจุบันได้อย่างแท้จริง 

การพัฒนาองค์กรสู่ยุคใหม่ของสัมมากรเริ่มต้นจากการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและพร้อมรับฟังให้พนักงานทุกคน เพื่อนำไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เรื่องราวความใส่ใจของพวกเขายังได้รับการถ่ายทอดผ่านโฆษณา Hear for Your Home ที่สะท้อนถึงความตั้งใจในการฟังและเข้าใจทุกเสียง ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือสำคัญแค่ไหน
 

บ้านในฝันไม่ได้มีคำตอบเดียว 

เมื่อพูดถึงชื่อสัมมากร หลายคนอาจนึกถึงโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานถึง 54 ปี แต่ในยุคที่คำว่า ‘บ้านในฝัน’ ไม่ได้มีคำตอบเพียงหนึ่งเดียว หากแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดหลากหลาย ทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แบรนด์จึงต้องมุ่งสู่แนวคิด Customer-Centric เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง 
 

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

 

 

การออกแบบบ้านของไม่ได้เริ่มต้นที่ดีไซเนอร์หรือสถาปนิกเพียงอย่างเดียว พันธิตรเล่าถึงวิธีคิดที่อยู่เบื้องหลังการสร้างที่อยู่อาศัยของสัมมากร โดยยกตัวอย่างผ่านโครงการ Park Heritage บ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่ตั้งใจให้ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างแท้จริง 

 

“การสร้างที่อยู่อาศัยระดับ Super Luxury ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต ทำให้สัมมากรตีความถึงความหรูหราในมุมของการได้พักผ่อนและใช้เวลาร่วมกัน"

 

"แนวทางการออกแบบโครงการนี้จึงไม่ได้นำเสนอสิ่งที่เป็นแฟนตาซี หรือความเวอร์วังอลังการ แต่จะเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา ทั้งยังสามารถส่งต่อเป็นของขวัญให้ลูกหลานได้” 
 

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

 

Park Heritage คือบ้านระดับ Super Luxury โครงการที่สองของสัมมากรที่โดดเด่นด้านการเป็นบ้านเดี่ยวพื้นที่กว้างขวางใจกลางเมือง ออกแบบตามแนวคิด “Multidimensional Integration” โดยนำแรงบันดาลใจจากธรรมชาติมาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมและภูมิสถาปัตยกรรม (ART+ARCHITECH+NATURE) โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวตลอดทั้งโครงการ อีกทั้งการออกแบบบ้านสไตล์ Modern Classic ช่วยให้บ้านดูไม่เก่าไปตามกาลเวลา (Timeless design) และยังทำงานร่วมกับ “PIA” (PIA Interior Co., Ltd.) ด้านการออกแบบและตกแต่งภายใน ซึ่งให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่คนทุกรุ่นสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว สามารถส่งต่อให้กับคนในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น

 

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

 

Hear for Your Home

การตั้งใจรับฟังเสียงของลูกค้าเพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา ไม่เพียงแต่จะสร้างประสบการณ์ที่ดี หากยังสร้างความผูกพันระยะยาวที่ยากจะหาคู่แข่งมาทดแทน 

ความสามารถในการรับฟังจึงเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งของธุรกิจในปัจจุบัน 

ชโลทรเล่าถึงไอเดียของโฆษณา Hear for Your Home ที่สะท้อนถึงความพยายามของสัมมากรในการรับฟังและไม่ปล่อยผ่านเสียงเล็กๆ ของลูกค้าที่ไม่เคยมีใครได้ยิน 

 

“แบรนด์ไหนๆ ต่างก็พูดถึง Customer-Centric ธุรกิจไหนๆ ต่างก็บอกว่าพวกเขารับฟังลูกค้า แต่สัมมากรเราเชื่อมั่นในการรับฟังอย่างแท้จริง ซึ่งหมายถึงการฟังที่ทำให้เราได้ยินไปถึง Pain Point ที่ตลาดอาจไม่ได้พูดถึง หรือได้ยินถึงเสียงของความต้องการที่ไม่เคยถูกได้ยินมาก่อน” 

 

การรับฟังด้วยความใส่ใจ และการพัฒนาที่อยู่อาศัยด้วยความเป็นมืออาชีพแบบสัมมากรจะสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยออกมาในรูปแบบไหน รับชมได้ผ่านคลิป https://www.youtube.com/watch?v=U8ZbgJsXb1w

 

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

 

องค์กรต้องมีวัฒนธรรมของการรับฟัง 

กระบวนการรับฟังที่นำไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าไม่ได้เกิดขึ้นจากทีมขายหรือมาร์เก็ตติ้งเท่านั้น แต่ต้องเริ่มต้นจากทุกฝ่ายภายในองค์กร 

 

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

 

พันธิตรให้ความเห็นว่า “องค์กรยุคใหม่ต้องเป็นองค์กรของการรับฟังซึ่งกันและกัน ถ้าเสียงของพนักงานไม่ถูกปล่อยผ่าน ทีมงานทุกคนมีทักษะในการเปิดใจรับฟังและนำความคิดเห็นไปพัฒนาการทำงานจะส่งผลให้องค์กรของเรามีพลังในการไปรับฟังลูกค้าได้ดีมากขึ้น” 

“เพราะไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนก็มีส่วนร่วมในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้เมื่อมีทักษะของการฟังอย่างเข้าใจ” ชโลทรเสริม   

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนยอมรับว่า การเปลี่ยนผ่านองค์กรไปสู่ยุค Customer-Centric ไม่ง่าย โจทย์ท้าทายคือ ทำอย่างไรให้พนักงานที่มีความแตกต่างหลากหลายมีทักษะในการรับฟัง ไม่ด่วนตัดสิน และมองไปยังเป้าหมายเดียวกับองค์กร 


ผู้นำคือผู้ฟังและสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย 

การรับฟังอย่างเข้าใจและจริงใจเริ่มต้นจากผู้นำ 

ผู้นำต้องเป็นผู้สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและปลูกฝังวัฒนธรรมของการรับฟัง พันธิตรมองว่า 
“การเปลี่ยนแปลงหรือสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กรไม่อาจสำเร็จได้เพียงแค่การออกนโยบายแล้วเชื่อว่าทุกคนมุ่งไปสู่สิ่งเดียวกัน แต่ผู้นำต้องมีบทบาทในการริเริ่มสร้างบรรยากาศที่ดีที่ส่งเสริมให้ทุกคนกล้าเปิดใจ สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่ทำตัวเป็นหัวหน้าที่คอยจี้หรือจับผิดลูกน้อง”
 

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ

 

ผู้นำต้องไม่ติดกับดักอีโก้ของตัวเอง ชโลทรเสริม

 

“สำคัญมากที่ผู้นำจะต้องลดอีโก้ของตัวเองลง ไม่คิดว่าเราดีที่สุดหรือเก่งที่สุด"

 

ความจริงคือเราทุกคนที่ต่างมีความเชี่ยวชาญเป็นของตัวเอง และเราทุกคนกำลังร่วมกันทำงานที่มีความหมาย เป้าหมายคือ การทำให้ลูกค้าของสัมมากรทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด” 

 

“หัวหน้าควรพูดให้น้อยที่สุดและพูดเป็นคนสุดท้าย ที่สำคัญคือต้องไม่ลืมว่าคำพูดของเราในวันนี้กำลังจะสร้างหัวหน้าอีกเป็นสิบๆ คนในวันข้างหน้า"

 

"ถ้าเราอยากให้พวกเขาเติบโตเป็นหัวหน้าที่พร้อมรับฟังคนทุกฝ่าย เราต้องให้ความสำคัญกับการสร้างทักษะการเปิดใจรับฟังให้พวกเขานับตั้งแต่วันนี้” พันธิตรกล่าวทิ้งท้าย 

 

Hear for Your Home เมื่อสัมมากรสร้างบ้านจากเสียงของคุณ