05 มี.ค. 2568 | 14:12 น.
KEY
POINTS
หากถามว่าใครคือนักแข่งมอเตอร์ไซค์ MotoGP ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ชื่อที่หลายคนนึกถึงต้องมี ‘เดอะ ด็อกเตอร์’ วาเลนติโน รอสซี แชมป์ 9 สมัย แบ่งเป็นรุ่น 125cc 1 สมัย, 250cc 1 สมัย และ MotoGP อีก 7 สมัย ไอดอลของนักบิดยุคใหม่ทั่วโลก, ‘จิอันโคโม อคอสตินี’ ผู้กวาดแชมป์รุ่น 500cc และ 350cc มาครองถึง 15 สมัย, ‘ไมค์ เฮลวูด’ ราชาความเร็วชาวอังกฤษ, ‘มิค ดูฮาน’ เจ้าบัลลังก์จากยุค 90 และ ‘จอห์น เซอร์ที’ ผู้ไม่เพียงขับรถ 2 ล้อเก่ง แต่ยังควบรถ F1 จนได้แชมป์โลกอีกด้วย
อีกคนที่ขาดไม่ได้เลยคือ ‘มาร์ค มาร์เกซ’ นักบิดมหัศจรรย์จากแคว้นคาตาลุนญา ประเทศสเปน เจ้าของแชมป์โลก 8 สมัย แบ่งเป็นรุ่น 125cc 1 สมัย, Moto2 1 สมัย และ MotoGP อีก 6 สมัย เขาเป็นนักแข่งเพียงคนเดียวในปัจจุบันที่สามารถเทียบชั้นตำนานได้อย่างไม่มีข้อแม้ หลังสร้างปรากฏการณ์ความเหนือชั้นมาตั้งแต่ก้าวขาขึ้นสู่ศึกมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่เมื่อปี 2013 แล้ว
เมื่อ มาร์เกซ เปิดตัวกับทีม ‘Repsol Honda’ ขณะนั้นเขาอายุเพียง 20 ปี แต่ทุกคนที่เห็นเขาวาดลวดลายอยู่หลังคันเร่งต่างพบว่า นี่ไม่ใช่แค่ ‘รุคกี’ หรือนักแข่งหน้าใหม่หน้าละอ่อนที่ต้องใช้เวลาปรับตัวในการแข่งขัน แต่เป็นปีศาจจำแลงมาเพื่อแซงหน้าทุกคนจนฝุ่นตลบ เขาโชว์ฟอร์มโหดถึงขั้นคว้าชัยชนะได้ถึง 6 สนาม คว้าแชมป์โลกมาครองได้เหนือนักแข่งที่มีประสบการณ์มากกว่าหลายเท่า
โดยหากไม่นับเรซที่แข่งไม่จบหรือโดนปรับแพ้ด้วยเหตุผลทางเทคนิค ปีนั้นเขาไม่เคยเข้าเส้นชัยต่ำกว่าอันดับ 3 เลย และกลายเป็นคนแรกนับตั้งแต่ ‘เคนนี โรเบิร์ตส์’ เมื่อปี 1978 ที่ขึ้นสู่ยอดบัลลังก์ได้ตั้งแต่ยังเป็นรุคกี
พรสวรรค์อันล้นเหลือของ ‘เด็กระเบิด’ ผู้นี้สะท้อนผ่านลีลาการขี่อันเร็วแรงทะลุนรก ไม่ว่าจะตามหลังคู่แข่งมากเพียงใด เขาก็จะทะยานไล่แซงให้ได้ แม้ช่องจะแคบเพียงใด หากเห็นโอกาสเพียงนิดเดียว ก็จะทะลวงเข้าใส่โดยไม่ลังเล
หรือบางครั้งเมื่อเห็นเขาไล่จี้นักแข่งคนข้างหน้ามาติด ๆ แต่ยังแซงไม่ได้เสียทีก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไป เพราะเขาอาจหลอกล่อให้คู่แข่งตายใจ พอรู้ตัวอีกทีก็โดนแย่งแชมป์ไปครองอย่าไม่เชื่อสายตา
นอกจากความบ้าระห่ำแล้ว สไตล์การขี่ของมาร์เกซ ยังโดดเด่นจากการพัฒนาเทคนิคการเข้าโค้งแบบ ‘Elbow Down’ หรือการเอี้ยวตัวเลี้ยวให้มอเตอร์ไซค์อยู่ในองศาที่ต่ำที่สุดกับพื้นสนาม ชนิดว่าข้อศอกสัมผัสพื้นได้ ซึ่งช่วยให้ทำเวลาได้ดีขึ้นกว่าปกติ เขาอาจไม่ใช่คนแรกที่ริเริ่มวิธีเลี้ยวแบบนี้ แต่เป็นคนที่ทำให้มันแพร่หลายไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตามการเข้าโค้งแบบ Elbow Down ก็ทำให้เขาล้มในรอบซ้อมบ่อยครั้ง แลกมากับการช่วยให้เขาเรียนรู้ขีดจำกัดของรถและสนาม และเมื่อถึงเวลาแข่งจริง เขาจะสามารถรีดประสิทธิภาพรถได้สูงสุดโดยไม่พลาดแบบเดิมอีกแล้ว
หลังคว้าแชมป์ MotoGP สมัยแรกเมื่อปี 2013 มาร์เกซยังคงสร้างผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่อง ในเวลาเพียง 7 ฤดูกาล เขากวาดแชมป์โลกเพิ่มอีก 5 สมัย คว้าชัยชนะรวมกันถึง 56 ครั้ง โดยฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือปี 2019 เมื่อเขากดชัยชนะคนเดียวไป 12 สนาม และไม่เคยจบต่ำกว่าอันดับ 2 ตลอดทั้งปี
ชัยชนะที่แฟน MotoGP จดจำได้ขึ้นใจเกิดขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเขาแซง ‘ฟาบิโอ ควอตาราโร’ นักแข่งรุคกีจากทีม ‘Yamaha’ ในโค้งสุดท้าย ไม่เพียงจะชนะในสนามนั้น แต่ยังปิดบัญชีคว้าแชมป์โลก MotoGP สมัยที่ 6 มาครองท่ามกลางเสียงเชียร์กึกก้องของแฟน ๆ
ภาพการฉลองแชมป์ด้วยการเล่นสนุกเกอร์หน้า Grandstand สนามช้างในวันนั้น แสดงให้เห็นถึงความ Work Hard - Play Hard ของเขา แม้บางคนอาจเบื่อหน่ายกับการผูกขาดชัยชนะ แต่ยากจะปฏิเสธว่าลีลาทั้งในและนอกสนามของเขานั้นโดดเด่นอย่างไม่มีใครเทียบได้
นับจากนั้น ผู้คนทั่วโลกต่างเชื่อว่าเขาจะทำลายสถิติทุกอย่างที่ตำนานเคยสร้างไว้ ไม่มีใครคิดว่านี่คือจุดสูงสุดในอาชีพของเขา เพราะเส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...
หากใครติดตามชีวิตของ มาร์ค มาร์เกซ จะพบว่าเขาคือนักแข่งมากพรสวรรค์ ไม่ว่าจะขี่รถมอเตอร์ไซค์สเปคไหน รุ่นไหน เขามักจะทำเวลาได้ดี และเข้าเส้นชัยก่อนใครเสมอ เขาทำให้ทุกคนเห็นว่ามอเตอร์ไซค์เปรียบเสมือนอวัยวะอีกชิ้นของร่างกายที่สั่งได้ดังใจ ไม่ว่าจะลงแข่งขันในระดับชั้นไหน ก็พร้อมจะเอาชนะทุกคนเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่มีพุ่งทะยานสู่ฟ้า มันย่อมมีวันร่วงลงมาเสมอ และฝันร้ายที่ไม่มีใครคาดคิดก็มาถึงในวันที่ 19 กรกฎาคม 2020 ในการแข่งขันสนามเปิดฤดูกาลที่เฆเรซ (Jerez) ประเทศสเปน หลังโควิด-19 ระบาดทำให้ฤดูกาลเริ่มช้ากว่าปกติหลายเดือน
ขณะพยายามไล่ตาม ควอตาราโร่ ที่นำห่างไปไม่ไกล รถของมาร์เกซกลับออกอาการพยศ ดีดเขาเขาตีลังกาหลายตลบร่วงลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง แม้ทุกคนจะคุ้นชินกับการล้มของเขา แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ผิดวิสัยเห็นได้ชัด เมื่อแชมป์เก่าทำได้แค่ลุกขึ้นนั่งแล้วกุมแขนด้วยความเจ็บปวด
ผลการตรวจพบว่ามาร์เกซกระดูกต้นแขนขวาแตก ทำให้ต้องพักรักษาตัวตลอดฤดูกาล 2020 รวมถึงต้องผ่าตัดอีกหลายครั้งเพื่อแก้ไขอาการติดเชื้อที่เกิดขึ้นภายหลัง
เท่านั้นยังไม่พอ การบาดเจ็บของมาร์เกซยังเปิดเผยให้เห็นปัญหาที่ Honda ซุกซ่อนไว้มานาน นั่นคือเมื่อรถแข่งของทีมประสบปัญหาด้านประสิทธิภาพอย่างหนัก ตัวรถขาดเสถียรภาพ ควบคุมยาก เป็นผลจากการพัฒนารถให้เข้ากับสไตล์การขี่ของเขามานานหลายปี และยิ่งเมื่อขาดมาร์เกซไป ก็เท่ากับขาดข้อมูลสำคัญในการพัฒนารถสำหรับฤดูกาลต่อ ๆ ไปด้วย
หลังหายเจ็บกลับมาในฤดูกาล 2021 แม้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดของรถแข่ง แต่ด้วยพรสวรรค์อันล้นเหลือ ต่อให้รถที่มีจะควบคุมยากเพียงใด เขายังสามารถรีดศักยภาพรถขั้นสูงที่ไม่มีใครคาดคิดออกมาได้ พารถที่ไม่ควรติดอันดับต้น ๆ เข้าไปต่อกรในกลุ่มผู้นำได้หลายเรซ เขายังไว้ลาย คว้าชัยได้ถึง 3 สนาม
อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเองยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ ยิ่งทำให้อาการบาดเจ็บกำเริบจนต้องพักแข่งหลายครั้ง การติดอยู่ในวงจร ‘กลับมาแข่ง – บาดเจ็บ - พัก’ บั่นทอนจิตใจของเขามหันต์ ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้แฟน ๆ ต้องกุมพระแน่น เมื่อต้องเห็นนักแข่งที่เคยประสบความสำเร็จสูงสุดถูกกระชากลงมาอยู่ในจุดต่ำสุด และต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อกลับสู่อันดับ 1 อีกครั้ง
หลังเผชิญสถานการณ์อันยากลำบากมาหลายปี ในเดือนตุลาคม 2023 เจ้าของหมายเลข 93 ได้ประกาศช่าวช็อค อำลาทีม Repsol Honda หลังร่วมงานกันมายาวนาน 11 ฤดูกาล เพื่อย้ายไปสร้างตำนานบทใหม่กับทีม ‘Gresini Racing’ ทีมเล็ก ๆ ในอาณาจักรของค่ายมหาอำนาจยุคใหม่อย่าง ‘Ducati’ พร้อมเป็นทีมเมทกับ ‘อเล็กซ์ มาร์เกซ’ น้องชายของเขาเอง
แม้การย้ายทีมจะเป็นเรื่องปกติในวงการมอเตอร์สปอร์ต แต่การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน เพราะเขาและ Honda เปรียบเสมือนสัญลักษณ์คู่กัน ภาพความสำเร็จที่ผ่านมา และความสัมพันธ์อันเหนียวแน่น ทำให้ยากจะจินตนาการภาพมาร์เกซในชุดแข่งสีอื่นนอกเหนือจากสีส้ม
และน่าเศร้าที่บทสรุปของมาร์เกซกับ Honda ในฤดูกาล 2023 ยังจบลงอย่างขมขื่น ด้วยคะแนนรวมเพียงอันดับที่ 14 และยังแข่งเรซปิดฤดูกาลที่วาเลนเซียไม่จบ เพราะประสบอุบัติเหตุหลังปะทะกับ ‘ฆอร์เก มาร์ติน’ จากทีม ‘Prima Pramac Racing’ การตีลังกาหน้าฟาดพื้นอย่างจังอีกครั้ง เป็นภาพที่สะท้อนช่วงเวลาอันยากลำบาก 3 - 4 ปีสุดท้ายของเขากับทีมได้อย่างชัดเจน
หากปี 2020 - 2023 คือยุคมืด การย้ายมาอยู่ทีมใหม่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ ที่คงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้ได้อีก และถึงแม้จะอยู่ในชุดแข่งสีฟ้าอ่อนของ ‘Gresini’ แต่มาร์ค มาร์เกซ ยังมีลีลาการควบม้าเหล็กที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เช่นเดิมไม่ต่างกับเมื่อ 10 ปีที่แล้วเลย
หนึ่งในสิ่งที่แสดงถึงความยอดเยี่ยมของมาร์เกซ คือการที่เขาพารถของ Gresini ที่ใช้เครื่องยนต์ GP23 รุ่นเก่าของ Ducati เมื่อปี 2023 ลงแข่ง เสียเปรียบนักแข่งหลายคนใน MotoGP ที่ได้ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ แต่ด้วยพรสวรรค์และประสบการณ์ เขาสามารถพารถคันนี้ขึ้นโพเดียมได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งคว้าชัยชนะครั้งแรกได้ที่สนามอารากอน (Aragón) ประเทศสเปน
และรวมแล้วปีนั้นเขาเข้าเส้นชัยคนแรกได้ถึง 3 ครั้ง ก่อนจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 ในตารางแชมป์โลก เป็นรองเพียง ฟรานเชสโก ‘เปกโก’ บัญญาญา จากทีม Ducati และฆอร์เก มาร์ติน จาก ‘Prima Pramac’ ซึ่งใช้รถ GP24 รุ่นใหม่กว่าตลอดฤดูกาล
เมื่อมาร์คทำให้โลกเห็นว่าเขาคนดีคนเดิมกลับมาแล้ว ทีมโรงงาน Ducati จึงตัดสินใจดึงตัวสุดยอดแชมป์โลกมาร่วมทีมในฤดูกาล 2025 แม้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก เพราะต้องเลือกระหว่างมาร์เกซกับมาร์ติน ผู้ที่ต่อมาคว้าแชมป์โลก MotoGP ประจำปี 2024 และไม่ว่าจะเลือกใคร ก็ต้องเสียนักแข่งระดับท็อปไปอย่างแน่นอน แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว การมีหมายเลข 93 อยู่ในทีมจะช่วยผลักดันความสำเร็จในระยะยาวมากกว่า และนั่นทำให้เขาขึ้นมาเป็นทีมเมทของ บัญญาญา แชมป์โลก MotoGP 2 สมัยจนได้
การมี ‘เสือสองตัว’ อยู่ในถ้ำเดียวกันย่อมมีความเสี่ยงจะเกิดความขัดแย้ง มาร์เกซยอมรับว่าหากเป็นเมื่อก่อน มันอาจเป็นปัญหาสำหรับคนเลือดร้อนอย่างเขา แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผ่านทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุดมาแล้ว ทำให้เขารับมือความท้าทายครั้งนี้ด้วยความใจเย็น แล้วมุ่งความสนใจไปที่การแข่งขันและการพัฒนาความเร็วของรถให้ดีที่สุดแทน
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา MotoGP กลับมาแข่งขันฤดูกาลใหม่ และประเดิมสนามแรกที่สนามช้างฯ จังหวัดบุรีรัมย์ ท่ามกลางอากาศร้อนระอุถึง 38 องศา แต่อาจเรียกได้ว่าฟอร์มของมาร์เกซในชุดสีแดงใต้แบรนด์ Ducati น่าจะร้อนระอุยิ่งกว่า เพราะนี่แทบจะเป็นสุดสัปดาห์ที่สมบูรณ์แบบของเขาก็ว่าได้
ราชันย์ในชุดแดงไม่เพียงทำเวลาดีที่สุดในรอบซ้อมแทบทุกรอบ แต่ยังได้ Pole Position หรือได้ตำแหน่งสตาร์ทอันดับ 1 จากนั้นยังชนะในการแข่ง Sprint Race 13 รอบ และปิดท้ายสัปดาห์อันยอดเยี่ยมด้วยชัยชนะในเรซหลักวันอาทิตย์หลังแข่ง 26 รอบ โดยมีน้องชายอย่าง อเล็กซ์ เข้าเส้นชัยอันดับ 2 และ บัญญาญา ตามมาในอันดับ 3
แม้จะมีช่วงหนึ่งที่มาร์คปล่อยให้อเล็กซ์แซงขึ้นหน้าไปก่อน แล้วตัวเขาเองค่อย ๆ ทำเวลาไล่จี้ไม่ห่างจากกันเท่าไหร่ ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาความดันลมยาง หากเขาไม่ผ่อนความเร็วลงเลย ต่อให้เข้าเส้นชัยที่ 1 แบบขาดลอย ก็อาจถูกปรับแพ้ได้ ดังนั้นจึงแก้เกมด้วยการถอยลงไปอยู่ที่ 2 ค่อย ๆ บริหารสถานการณ์อย่างใจเย็นอยู่ด้านหลังคนคุ้นเคย จนพอเหลืออีกเพียง 3 รอบสุดท้ายถึงค่อยเร่งเครื่องแซงน้อยชายหายยาวเข้าเส้นชัย
ภาพการฉลองหลังรับธงตราหมากรุกที่ไทยครั้งนี้ อาจไม่ได้สุดเหวี่ยงเหมือนตอนคว้าแชมป์ที่บุรีรัมย์เมื่อปี 2019 แต่ก็ปลุกภาพความเกรียงไกรที่ทุกคนอาจหลงลืมไปแล้วให้กลับมาอีกครั้ง ชัยชนะครั้งนี้คือ Statement ที่ประกาศให้โลกรู้ว่า นักสู้อย่างเขาไม่เคยหมดไฟ ถึงเวลาเจ้าแห่งความเร็วตัวจริงกลับมาทวงบัลลังก์คืนแล้ว!
ชัยชนะที่บุรีรัมย์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ ซึ่งยังเหลืออีกถึง 21 สนามถึงจะรู้ว่าใครคือแชมป์ตัวจริง
ยังไม่มีใครรู้ว่าพอถึงสนามสุดท้าย ใครจะเป็นแชมป์กันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนๆ MotoGP รู้แน่นอนก็คือ มาร์ค มาร์เกซ จะไม่หยุดบิดคันเร่ง และเขียนตำนานของตัวเองบนหลังรถ 2 ล้อที่รัก พร้อมท้าทายทุกขีดจำกัดที่โลกนี้โยนเข้าใส่ต่อไป
เรื่อง: ปารณพัฒน์ แอนุ้ย
ภาพ: กองประชาสัมพันธ์ กกท.
อ้างอิง:
MotoGP.com. “Strategic Masterclass Sees Marc Marquez Double up in Buriram Stand-Off.” MotoGP, 2 Mar. 2025, www.motogp.com/en/news/2025/03/02/strategic-masterclass-sees-marc-marquez-double-up-in-buriram-stand-off/520430. Accessed 5 Mar. 2025.
Gripping Stories. “Bridgestone Moments: Marquez - Rookie World Champion in MotoGP.” Gripping Stories, grippingstories.com/people-of-bridgestone/bridgestone-moments/bridgestone-moments-marquez-rookie-world-champion-in-motogp/. Accessed 5 Mar. 2025.
Crash.net. “Marc Marquez Admits He Was ‘Three Laps Away’ from Tyre Pressure Penalty in Thai MotoGP.” Crash.net, www.crash.net/motogp/news/1064547/1/marc-marquez-admits-he-was-three-laps-away-tyre-pressure-penalty-thai-motogp. Accessed 5 Mar. 2025.
Wikipedia Contributors. “Marc Márquez.” Wikipedia, The Free Encyclopedia, Wikimedia Foundation, en.wikipedia.org/wiki/Marc_M%C3%A1rquez. Accessed 5 Mar. 2025.
Sports Illustrated. “Marc Marquez Addresses Honda Struggles and Potential Move Regrets.” Sports Illustrated, www.si.com/onsi/racing/motogp/motogp-marc-marquez-addresses-honda-struggles-and-potential-move-regrets-01jb2rxznvv7#:~:text=Marc%20Marquez%20has%20opened%20up,aboard%20an%20underperforming%20Honda%20RC213V. Accessed 5 Mar. 2025.
Cycle World. “MotoGP Insights: Marc Marquez and That Elbow.” Cycle World, 26 Apr. 2013, www.cycleworld.com/2013/04/26/motogp-insights-marc-marquez-and-that-elbow/. Accessed 5 Mar. 2025.