Super Doctor K ซูเปอร์ฮีโร่ที่แท้จริงนั้นใส่เสื้อกาวน์

Super Doctor K ซูเปอร์ฮีโร่ที่แท้จริงนั้นใส่เสื้อกาวน์

Super Doctor K การ์ตูนเกี่ยวกับหมอที่ดีมาก ๆ เรื่องหนึ่งในวงการการ์ตูนญี่ปุ่น ว่าด้วยนายแพทย์ชื่อ ไซโจ คะสึยะ (西城カズヤ) เป็นหมออัจฉริยะที่เก่งไปหมดทุกเรื่อง ฝีมือผ่าตัดระดับเทพเจ้า

เรื่องนี้ไม่ได้ดังมากเท่ากับพวกการ์ตูนฮิต ๆ อย่าง Dragon Ball, Saint Seiya, Sailor Moon ฯลฯ ก็จริง แต่เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับหมอที่ดีมาก ๆ เรื่องหนึ่งในวงการการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องนี้มี 2 ภาคที่ใช้ตัวละครเดียวกัน ภาคแรกชื่อ Super Doctor K ตีพิมพ์รายสัปดาห์ในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ Weekly Shōnen Magazine (週刊少年マガジン) ของญี่ปุ่น ตั้งแต่ ค. ศ. 1988-1996 และมีการพิมพ์รวมเล่มเป็นเรื่องของตัวเองทั้งหมด 44 เล่มด้วยกัน ส่วนอีกภาคใช้ชื่อว่า Doctor K ที่ตีพิมพ์รายสัปดาห์ในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ Weekly Shōnen Magazine เช่นกัน ตั้งแต่ ค. ศ. 1996-1998 และพิมพ์รวมเล่มทั้งหมดอีก 10 เล่ม เนื้อเรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับนายแพทย์คนหนึ่งที่ชื่อ ไซโจ คะสึยะ (西城カズヤ) ซึ่งเป็นหมออัจฉริยะที่เก่งไปหมดทุกเรื่อง ฝีมือผ่าตัดระดับเทพเจ้า เก่งทั้งสมอง, ทรวงอก, ช่องท้อง, แขน, ขา, ช่องปาก เรียกว่าเก่งการแพทย์ครบทุกวิชาเอกของหมอเลยก็ว่าได้ แต่ตระกูลของคะสึยะนั้นเป็นตระกูล “หมอในเงามืดของสังคม” มาตลอด คือเป็นหมอทั้งตระกูลที่ถ่ายทอดความรู้ทางการแพทย์กันหลายชั่วอายุคนมาแต่โบราณที่มีวิทยาการล้ำหน้ากว่าหมอในยุคเดียวกันอยู่เสมอ และมีจุดยืนมั่นคงมากในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จึงมักมีความขัดแย้งกับขุนนางทุจริต, ยากูซ่า, นักการเมือง, ผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน และถูกหมายเอาชีวิตอยู่เป็นประจำ ดังนั้นตระกูลนี้จึงไม่เพียงมีฝีมือแพทย์ที่สูงส่ง แต่คนในตระกูลจะต้องถูกฝึกศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงมาตั้งแต่เด็ก ฝึกพลังกล้ามเนื้อและพลังจิตใจจนสูงส่งระดับเหนือมนุษย์ คะสึยะสามารถแบกหลังคาอิฐและปูนในตึกที่ถล่มได้ด้วยตัวคนเดียว, มีร่างที่ทนพิษได้มากกว่าคนปกติ, กลั้นหายใจได้นานกว่าคนปกติ, มีเพลงเตะที่เตะทะลุกำแพงคอนกรีตได้, สามารถผ่าตัดตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ยาสลบ เพราะใช้การหายใจทำสมาธิแทน, ควบคุมการเต้นของหัวใจและชีพจรตัวเองได้, สามารถควบคุมกล้ามเนื้อของตัวเองให้ดันกระสุนให้เลื่อนไปส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้ผ่าตัดง่ายขึ้นได้, สามารถใช้อุปกรณ์การแพทย์แทนอาวุธได้ เช่น ใช้มีดผ่าตัดเป็นอาวุธขว้างเหมือนลี้คิมฮวงฤทธิ์มีดสั้น ฯลฯ สารพัดจะเหนือมนุษย์ คะสึยะจึงมีกล้ามเนื้อแข็งแกร่งราวเหล็กไหล รูปร่างสูงใหญ่มากกว่า 190 เซนติเมตร และมีฝีมือในศิลปะการต่อสู้ระดับเทพเจ้า ให้นึกถึง “เคนชิโร่” ในหมัดเทพเจ้าดาวเหนือที่เป็นหมอ จะนึกภาพของคะสึยะออกในทันที เพราะเคนชิโร่และคะสึยะคือหนึ่งในผู้สถาปนาการ์ตูนสาย K นั่นเอง เมื่อคะสึยะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแพทย์อันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น คือมหาวิทยาลัยเทโตะ (帝都大学 (ซึ่งไม่มีอยู่จริง เพราะเป็นชื่อสมมุติที่ฮิตในการ์ตูนและละครญี่ปุ่นหลายเรื่อง) คะสึยะก็ตัดสินใจดำเนินรอยตามพ่อของตัวเอง ที่ดำเนินรอยตามบรรพบุรุษ คือหายสาบสูญไปจากวงการแพทย์เบื้องหน้า แล้วใช้ชีวิตเป็นหมอในเงามืดของสังคมแทน โดยใช้สมญาว่า Doctor K เป็นหมอแบบฟรีแลนซ์ รับรักษาคน รับผ่าตัดไปทั่ว ใครมีเงินจ่ายไหวก็ยินดีรับค่าจ้างแพงสุดโหด ใครไม่มีเงิน ให้แค่แอปเปิ้ลถุงหนึ่ง Doctor K ก็ยินดีรับไว้ ไม่เลือกคนไข้ ไม่เลือกรายได้ Doctor K ชอบใส่เสื้อคลุมสีทะมึนดูเหมือนคนจิตทราม แต่จริง ๆ ในเสื้อคลุมมีอุปกรณ์การแพทย์สารพัดชนิดซ่อนไว้ที่สามารถนำมาเป็นอาวุธได้ด้วย เนื้อเรื่องในช่วงแรกยังเน้นไปที่ความสามารถเหนือมนุษย์ของ Doctor K แต่ระหว่างที่พัฒนาเนื้อเรื่อง ก็เริ่มมีความขบขันในบางตอน และมีความเครียดหนักหน่วงในหลายตอน วิจารณ์ปัญหาในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น เช่น ปัญหาขาดแคลนพยาบาล, ปัญหาหมอทุจริต, ปัญหาการใช้อำนาจในทางมิชอบของอาจารย์หมอในวิทยาลัยแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำตัวละครเอกอีกหลายตัวที่เป็น “หมอธรรมดา” ที่ไม่ได้เก่งยอดมนุษย์แบบ Doctor K แต่ Doctor K ก็เป็นเสมือนตัวตนในอุดมคติที่คอยชี้แนะทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้หมอและพยาบาลทุกคนในเรื่องได้ทำงานเพื่อคนไข้ตามครรลองที่ควรจะเป็น และได้พัฒนาตัวเองทั้งในวิชาชีพและในการเลือกทางเดินชีวิต นอกจากได้ความรู้ทางการแพทย์แล้ว ยังมีฉากต่อสู้ที่สนุกเร้าใจ เพราะ Doctor K ไม่เคยแคร์ใคร หลายคนที่คิดลอบทำร้าย Doctor K ก็ถูกกระทืบกันไปหลายราย บางรายก็กลายเป็นมิตรสหายที่สนิทสนมกันก็มี บางรายก็กลายเป็นศัตรูตลอดชีวิตก็มี และยังได้ความรู้จากวงการต่าง ๆ มากมาย เพราะ Doctor K ตระเวนรักษาไปทั่ว ทั้งไปต่างประเทศเพื่อรักษาโรคระบาด, ไปรักษาทหารในฐานะแพทย์สนาม, เป็นครูสอนสุขศึกษาในโรงเรียนมัธยม, เป็นโค้ชให้นักกีฬาทั้งเบสบอล วอลเลย์บอล หรือนักวิ่ง ก็มี, ยังมีการตามไปรักษาคนไข้เก่าของพ่อที่พ่อทิ้งบันทึกไว้, รับผ่าตัดแปลงโฉมให้คนอื่น, รับทำศัลยกรรมเสริมความงาม, รักษาพ่อครัวชาวฝรั่งเศส, รักษานักทำซูชิ, ผ่าตัดนักเต้นบัลเลต์ในอวกาศ ฯลฯ คือเรียกว่าอ่านการ์ตูนหมอแล้วได้ความสนุกจากหลากหลายวงการทั่วโลกกันเลย พร้อมฉากบู๊แสนสนุก เป็นการ์ตูนที่ได้ทั้งความบันเทิงและสาระ เสียอย่างเดียวตอนจบของภาค 2 คือ Doctor K จบเศร้าไปมาก…… อ่านเรื่องนี้แล้ว ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทีมแพทย์และพยาบาลทุกคนที่อุทิศตัวสู้กับโรคร้ายเพื่อมนุษยชาติ อยากให้ลองหามาอ่านกันดู