21 ก.พ. 2568 | 15:35 น.
KEY
POINTS
‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ ที่ว่าด้วยเรื่องการต่อสู้และอุดมการณ์ของก๊วยเจ๋ง นักรบผู้ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องและปกป้องแผ่นดินในยุทธภพ
มังกรหยก นวนิยายกำลังภายในถูกแต่งขึ้นโดย ‘กิมย้ง’ ในช่วงปี 1957-1959 ก่อนจะนำมารวมเล่ม และถูกนำมาสร้างเป็นละครและภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้ง
แต่ละเวอร์ชัน แต่ละปี ก็มีเส้นเรื่องที่ให้ความสำคัญกับตัวละครแต่ละตัวแตกต่างกันออกไป สำหรับ ‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ หรือมังกรหยกในเวอร์ชัน 2025 กำกับโดยฉีเคอะ ที่เน้นการต่อสู้และแนวคิดของก๊วยเจ๋ง ตัวละครหลักของเรื่อง ที่ออกท่องยุทธภพเพื่อตามหา ‘อึ้งย้ง’ หญิงที่เขารัก ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์และเส้นทางที่ต้องเลือกเดิน
มากกว่านั้น นี่คือการแสดงครั้งสำคัญของ ‘เซียวจ้าน’ นักแสดงจีนที่มีแฟนคลับทั่วโลก และสำหรับคนไทย ‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ ถือเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายของทีมพากย์ ‘พันธมิตร’ ตำนานของวงการพากย์หนังของไทย
เพราะ 'มังกรหยก' ไม่ใช่เพียงแค่ภาพยนตร์กำลังภายในที่หลายคนรอคอย แต่เป็นภาพสะท้อน คุณธรรม ความกล้าหาญ ความรัก และการเติบโต ที่มีอยู่ ทั้งโลกยุทธภพและโลกแห่งความเป็นจริง
‘ก๊วยเจ๋ง’ คือ ตัวละครหลักของเรื่อง ชายที่ดูเหมือนจะหัวทึบ แต่ก็ฝึกฝนตนเองจนกลายเป็นนักสู้กำลังภายในอันดับต้น ๆ ของเมือง
เขาเป็นลูกชายของพ่อแม่ที่เป็นชาวจีน แต่พ่อถูกฆ่าระหว่างสงคราม แม่จึงพาตัวเขามาพักพิงที่มองโกล และเจกิส ข่านก็ยังเอ็นดูเขาเหมือนลูกจนรับเป็นบุตรบุญธรรม
แต่ถ้าย้อนกลับไปยังวันแรกที่ก๊วยเจ๋งลืมตาดูโลก เขาเกิดมาในช่วงที่บ้านเมืองกำลังโกลาหล หรืออยู่ใน ‘กลียุค’ นั่นคือ ประเทศจีนกำลังมีเหตุการณ์ ‘จิ้นคัง’ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดตกต่ำของราชวงศ์ซ่งและสะท้อนความอ่อนแอของกองทัพ
คำถามต่อมา คือ ทำไมถึงเรียกว่ากลียุค หรือ เป็นความอัปยศของชาวจีน
ไล่เรียงกันตามประวัติศาสตร์ ในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิซ่งฮุยจง (宋徽宗) ราชสำนักถูกขุนนางฉ้อฉล ทำให้ราชวงศ์ซ่งอ่อนแอลง เกิดกบฏชาวนา แม้ว่ารัฐบาลจะปราบกบฏได้ แต่กองทัพได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ช่วงเวลาเดียวกัน ราชวงศ์ซ่งก็ถูกอาณาจักรจินรุกราน อำนาจที่เคยมีมาก็เริ่มสั่นคลอน และปี ค.ศ. 1127 (พ.ศ. 1670) กรุงไคเฟิง เมืองหลวงของซ่งเหนือ ก็ถูกกองทัพจิน ยึดได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ซ่งสองพระองค์ ได้แก่ จักรพรรดิฮุ่ยจง (宋徽宗) และ จักรพรรดิจินจง (宋欽宗)พร้อมราชวงศ์และขุนนาง ถูกจับเป็นเชลยศึก ประชาชนที่เหลือต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
สุดท้ายจักรพรรดิยอมเขียนหนังสือยอมแพ้ ยอมก้มหัวในจักรพรรดิของอาณาจักจิน เมื่อเสร็จพิธีถึงยอมปล่อยตัวกลับบ้านเกิด แต่ไม่นาน กองทัพจินก็มารุกรานอีกครั้ง ครั้งนี้ พวกเขาเรียกร้องค่าปฏิกรรมสงครามจำนวนมหาศาล ประกอบด้วย ทอง 10 ล้านตำลึง, เงิน 20 ล้านตำลึง, ผ้าไหม 10 ล้านพับ นอกจากนี้ กองทัพจินยังเรียกร้อง ล่อและม้า 7,000 ตัว และ หญิงสาว 1,500 คน ซึ่งแม้แต่สนมของจักรพรรดิก็ถูกส่งไปเป็นเครื่องบรรณาการ
ถึงจะดูเป็นเรื่องปกติ แต่นี่คือการปล้นอย่างถูกกฎหมายและเป็นการทำให้ต้องยอมจำนน
จักรพรรดิถูกจับ เมืองหลวงแตก และยังต้องใช้ชุดชาวจินอีก สิ่งเหล่านี้คือบาดแผลที่บาดลึกสุดใจของชาวซ่ง
แล้วหนึ่งในพิธิที่ดูอัปยศที่สุด คือ พิธี "เฝียนหยาง" (牵羊礼) ผู้หญิงที่เป็นชาวซ่ง ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดินี เจ้าหญิง สนม หรือข้าราชบริพารจะต้องสวมชุดเผ่าหนี่เจินร่วมสักการะเทพเจ้าและสุสานของกษัตริย์จิน ที่นับเป็นการหยาทมเกียรติราชวงศ์ซ่งอย่างรุนแรง
อีกทั้งยังมีบันทึกทางประวัติศาสตร์ ระบุว่า จักรพรรดินีจู (朱皇后) ทนรับความอับอายไม่ไหว จึงฆ่าตัวตายในคืนวันเดียวกัน ขณะที่เหล่านางสนมและข้าราชบริพารหญิงส่วนใหญ่ถูกบังคับให้เป็นนางบำเรอ หรือถูกส่งไปทำงานในหอคณิกาของชนเผ่าจิน
นี่คือเบื้องหลังกลียุค ห้วงเวลากำเนิด ‘ก๊วยเจ๋ง’ ชายที่พร้อมปกป้องคนที่รักและแผ่นดินเกิดของตัวเองด้วยการออกท่องยุทธภนที่เต็มไปด้วยสงครามและการแลกชีวิต
เอาตรง ๆ ก็ต้องยอมรับว่า ในมังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ หรือ มังกรหยกเวอร์ชัน 2025 ก๊วยเจ๋งเป็นคนที่เก่งกาจ มีความสามารถ และฆ่าไม่ตาย
ถึงจะต้องเลือกพรากจาก ‘อึ้งย้ง’ หญิงที่เขารักและทำให้เขาเรียนรู้ชีวิตในโลกอันกว้างใหญ่ แต่เขาไม่เคยลังเลหรือกลัวการลงไปท่องยุทธภพที่เต็มไปด้วยสงคราม เลือด และความตายเลยสักนิด
ก๊วยเจ๋งเวอร์ชัน 2025 ความสามารถค่อนข้างจะโดดเด่นจนใคร ๆ ก็ยอมรับ เป็นคนที่กษัตริย์มองโกลอยากให้แต่งงานกับลูกสาว และเป็นลูกชายที่อยากให้ขึ้นมานำทัพ
แต่ก๊วยเจ๋งตอบกลับพ่อบุญธรรมว่า “คนที่กล้าและเด็ดเดี่ยวในสงคราม นั่นคือ วีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่”
มากกว่านั้นเขาเองก็ไม่สามารถทรยศบ้านเกิดของตัวเองได้ รวมถึงยังสะท้อนคติขงจื๊อแบบจีน เพราะขงจื๊อพูดถึงความเป็นวีรบุรุษไว้ 4 ประการ ได้แก่
1. ความเมตตา - วีรบุรุษต้องปกป้องประชาชน
2. ความยุติธรรม - วีรบุรุษต้องยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง
3. ความจงรักภักดี - วีรบุรุษต้องซื่อสัตย์ต่อบ้านเกิด
4. ความกล้าหาญ - วีรบุรุษต้องไม่กลัวการเสียสละ
รวมถึงถ้าจินตนาการถึงภาพวีรบุรษ ก๊วยเจ๋งก็เป็นตัวละครที่ตอกย้ำความสมบูรณ์แบบของการเป็นวีรบุรุษในสายตาคนจีน วันที่มองโกลเลือกยกทัพไปโจมตีเมือง… และต้องผ่านเมืองซ่งใต้ ก๊วยเจ๋งคือคนฮั่นที่กล้าไปเจรจากับมองโกลให้ถอยทัพ และเลือกที่จะปกป้องดินแดนจีนกับมองโกลไปพร้อม ๆ กัน
เขารู้ดีว่า อำนาจแปลว่าการมีเขตแดนทั่วสารทิศ แต่การเป็นวีรบุรุษที่แท้จริงผ่านสายตาของก๊วยเจ็ง คือ การเปิดรับความหลากหลาย เผชิญความขัดแย้ง และอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
“วีรบุรุษที่แท้จริง ไม่ใช่การไปทั่วสารทิศ แต่เป็นคนที่ดูแลและห่วงใยคนอื่น นั่นคือ วีรบุรุษที่แท้จริง” ก๊วยเจ๋งบอกกับพ่อบุญธรรม
ดังนั้น หากจพะูดถึงนิยามความกล้าหาญของก๊วยเจ๋ง คงบอกได้ว่าเป็นความเด็ดเดี่ยวที่ยังคงนึกถึงคนที่อยู่ข้างหลัง เป็นต้นแบบของความสามัคคีและความรักที่มีต่อแผ่นดิน
เพราะไม่ว่าอย่างไร ทุกสงครามและความขัดแย้งต่างเกิดความสูญเสีย…
เพราะสุดท้ายแล้ว วีรบุรุษที่แท้จริง… ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เป็นคนที่ยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นภาพยนตร์จีนกำลังภายในเรื่องสุดท้ายที่จะพากย์เสียงภาษาไทยโดยทีมพันธมิตร
และเขาก็พากย์ได้สนุก บางจังหวะก็เข้มข้นเต็มไปด้วยความมัน บางจังหวะก็เศร้า บางจังหวะก็ตลกจนผู้ชมขำกันทั้งโรงภาพยนตร์
แต่งานเลี้ยงก็ย่อมมีวันเลิกรา
โต๊ะ พันธมิตร เจ้าของเสียงพากย์ภาษาไทยระดับตำนาน บอกว่า เขารอช่วงเวลานี้มาตลอด ช่วงเวลาที่จะมีภาพยนตร์สักเรื่องที่ทีมพากย์พันธมิตรทุกรุ่นจะได้มาทำงานร่วมกันอีกครั้ง
“มันคือที่สุดของพันธมิตร ของผมเลยว่า ต้องลาด้วยหนังเรื่องนี้ เพราะมันยิ่งใหญ่ ทำแบบสมภาคภูมิ ดีใจมาก ๆ ที่ได้รับเกียรติจาก Sony Pictures ให้ทำหนังเรื่องนี้ โดยการรวบรวมของสมาชิกพันธมิตรรุ่นเก่าคลาสสิคกับรุ่นใหม่ไฟแรงในหนังเรื่องเดียวกัน มาเจอกันเกือบ 20 ชีวิต
“ผมภูมิใจและดีมากที่อยู่มาถึงวันนี้ ผมดูแลอันนี้มาถึงตรงนี้ได้ ถ้าเหมือนรถเมล์ รถไฟ เราก็คงไม่ตกขบวน ไม่ตกราง ถึงเวลาก็เข้าป้าย เข้าอู่อย่างสมศักดิ์ศรีกับหนังเรื่องนี้”
ถึงวันนี้ทีมพากย์พันธมิตรจะกำลังจะกลายเป็นตำนาน แต่โต๊ะ พันธมิตรเองก็บอกว่า เขาไม่ต้องการสิ่งใด แต่อยากให้คนรุ่นถัดไปจดจำว่า ยุคหนึ่งประะเทศไทยมีนักพากย์รูปแบบนี้ นักพากย์ที่พากย์ด้วยใจ และละเอียดทุกขั้นตอน
“แค่อยากให้คนรู้ว่าในยุคหนึ่งเคยมีคนพากย์ไทยแบบนี้ พากย์ไทยที่ไม่ได้พูดตามหน้าหนังอย่างเดียว ในอนาคต ถ้าคุณอยากจะรู้ว่า อดีตพ่อแม่เราเคยดูยังไง มันสนุกยังไงพันธมิตร หยิบหนังเก่าๆ มาดู ลองศึกษาดูว่า วิธีพากย์หนังให้มีชีวิตจิตใจ มีความบันเทิงให้คนดูต้องทำอย่างไร”
ความยาวตลอดเกือบ 3 ชั่วโมง มังกรหยก 2025 ได้สะท้อนแนวคิดรากฐานของจีน และการแสดงคุณภาพของนักแสดงทุกคน
โดยเฉพาะ ‘เซียวจ้าน’ ที่ครั้งนี้เลือกรับบท ‘ก๊วยเจ๋ง’ ทำให้เรานึกถึง ‘เว่ยอิง’ หรือ ‘เว่ยอู๋เซียน’ จากซีรีส์ยอดนิยมอย่างปรมาจารย์ลัทธิมาร เห็นความไม่กลัวในการแสดงของเขา ยังไม่นับรวมกับ ‘จวงต๋าเฟย’ ที่มารับบทอึ้งย้ง ถ่ายทอดตัวละครผ่านสายตาได้เป็นอย่างดี
ยังไม่นับรวมกับภาพที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ การคิดทุกฉาก ทุกคำพูดอย่างพิถีพิถัน และรับประกันความมันของทุกฉากบู๊จาก ‘ฉีเคอะ’ ผู้กำกับหนังชาวฮ่องกง ที่เคยกำกับผลงานมามากมาย อย่างเช่น ‘โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า’ ‘โหด เลว ดี’ และ ‘คู่โหดมหาประลัย’
และเราก็เชื่อว่าภาพยนตร์มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ จะเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่ชวนคนรุ่นเก่าที่รักหนังจีนกำลังภายใน คนรุ่นใหม่ที่หลงรักวัฒนธรรมจีนและเซียวจ้านมาชมผลงานระดับตำนานนี้ไปด้วยกัน
มังกรหยกได้สอนเราว่า ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่พละกำลังหรือชัยชนะ แต่อยู่ที่หัวใจที่กล้าจะรักและเคารพทั้งบ้านเกิดและแผ่นดินอื่น นั่นคือมรดกที่จะถูกส่งต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
ภาพ : Sony Pictures
อ้างอิง
‘มังกรหยก 2025’ การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของ ‘ฉีเคอะ’ / กรุงเทพธุรกิจ