11 ก.พ. 2563 | 11:03 น.
- ‘เซียวจ้าน’ เริ่มต้นเส้นทางบันเทิงจากสายนักร้อง ก่อนโด่งดังจากผลงานซีรีส์ ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’
- ซีรีส์ ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ออกอากาศได้ลุล่วงครบ 50 ตอน แม้จะมีเนื้อหาเชิง Boy Love ที่รัฐบาลจีนเคยจับตา กระแสของเรื่องนี้ทำให้ชื่อเสียงของเขาขยายมาถึงไทยด้วย
หากนับย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ชื่อ ‘เซียวจ้าน’ ยังเป็นเพียงคำเรียกขานของนักร้องหนุ่ม หน้าตาดี ที่มีดีกรีเป็นหนึ่งในผู้ชนะการประกวดร้องเพลงของเวที X-FIRE เท่านั้น แต่เวทีนี้ก็ถือเป็นเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางเข้าสู่วงการบันเทิงของเขาอย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา
เซียวจ้าน ได้รับคัดเลือกให้เดบิวต์เป็นศิลปินวง X NINE ร่วมกับสมาชิกอีก 8 คนในปี 2016 ในตำแหน่ง ‘นักร้องนำ’ แต่เขายังต้องใช้เวลาบนเส้นทางนี้อีกหลายปี กว่าจะเข้าใกล้ความโด่งดังอย่างที่เป็นในตอนนี้
“ถ้าให้พูดถึง 5 ปีที่แล้ว วงการบันเทิงคือโลกใบใหม่เลยครับ เรื่องราวมากมายอยู่นอกเหนือความรู้ ความเข้าใจของผม อย่างตอนนั้นที่ผมเข้ามาแข่ง ผมเป็นผู้แข่งขันที่อายุมากแล้วครับ แล้วก็เข้ามาอยู่ในวงไอดอลวัยรุ่น”
เซียวจ้าน ให้สัมภาษณ์ใน People Magazine เพราะตอนนั้นเขาเริ่มเข้าสู่วงการตอนอายุ 23 ต่างจากไอดอลคนอื่น ๆ ในวงที่เริ่มต้นกันด้วยอายุน้อยกว่านี้มาก แต่นี่อาจเป็นข้อดี เพราะการเข้าวงการในช่วงวัยที่ผ่านโลกมาพอสมควรแล้ว ทำให้ทัศนคติการใช้ชีวิตของเซียวจ้านดำเนินไปในแนวทางที่เป็นผู้ใหญ่ เข้าใจตัวเอง เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ช้า ๆ แต่ชัดเจน มากกว่าคนอื่น ๆ
เซียวจ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า เขารักการร้องเพลงมาตลอด แต่ก็ไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้และเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ เสมอ
ในปีถัดมาเขาจึงได้มีโอกาสชิมลางการแสดงครั้งแรก จากเรื่อง Super Star Academy ซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่กับการแสดงนำของเขา
หลังจากนั้น เขายังคงได้รับบทรองตามมาอีกหลายเรื่อง จนเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นอีกนิด ในบทท่านอ๋องพระรองแสนดีจากเรื่อง ฮ่องเต้ที่รัก Oh! My Emperor ในปี 2018 นอกจากนี้ยังมีเรื่อง สัประยุทธ์ทะลุฟ้า (Fights Break Sphere) มหัศจรรย์รัก จ้าวหมาป่า (The wolf) ที่ถ่ายทำเสร็จนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ออนแอร์จนถึงตอนนี้
ในที่สุดโอกาสการรับบทนำอีกครั้งก็เป็นของเซียวจ้าน เมื่อเขาได้รับการทาบทามให้มาแคสติงบท ‘เว่ยอู๋เซียน’ ในซีรีส์เรื่อง ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed) ที่ดัดแปลงจากบทประพันธ์นวนิยายชายรักชายอันโด่งดัง เรื่อง Mo Dao Zu Shi - ม๋อเต้าจู่ชือ ของโม่เซียงถงซิ่ว
แต่ใครจะรู้ว่าเขาเกือบพลาดโอกาสนี้ไป เพราะบริษัทต้นสังกัดไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่นักกับการรับเล่นซีรีส์แนว Boy Love หรือชายรักชาย และยิ่งอยู่ในประเทศจีน ที่รัฐบาลค่อนข้างเข้มงวดกับซีรีส์แนวนี้เป็นทุนเดิม เพราะก่อนหน้านั้นก็มีซีรีส์หลายเรื่องที่ถูกห้ามฉาย หลายเรื่องถูกดอง บางเรื่องฉายไม่จบ ยิ่งกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา แต่เซียวจ้าน คือคนที่ตัดสินใจกล้ารับบทนี้ด้วยตัวเอง และได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ปรมาจารย์ลัทธิมาร ออกอากาศได้ครบ 50 ตอน ท่ามกลางความลุ้นสุดตัวของแฟน ๆ ที่ติดตามเรื่องนี้ แต่ที่เหนือความคาดหมายมากกว่านั้น หลังออกอากาศจบความนิยมของซีรีส์ยังแผ่กระจายไปนอกประเทศจีน ส่งผลให้ชื่อเสียงของเซียวจ้าน นอกจากจะเป็นที่รู้จักในประเทศจีนแล้ว ยังมาถึงประเทศไทยด้วย หลังจากปรมาจารย์ลัทธิมารออกอากาศในประเทศไทยเมื่อปี 2019 กลายเป็นการจุดกระแสซีรีส์จีนในไทยให้กลับมาฮ็อตสุด ๆ อีกครั้ง จนทำให้เกิดแฮชแท็กติดเทรนด์อันดับ 1 ในช่วงที่ซีรีส์กำลังออนแอร์บนทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง และยังถูกเรียกร้องให้มีการจัดงานมีตติงกับเหล่านักแสดงนำในประเทศไทย จนบัตรหลายพันใบขายหมดเพียงไม่ถึง 30 นาที
จากความโด่งดังของซีรีส์เรื่องนี้ เลยกลายเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนในชีวิตของเซียวจ้าน และเป็นการเดินทางสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างเต็มตัว แม้ว่าเขาจะโด่งดังอย่างมากจากการแสดง แต่เซียวจ้านก็ยังไม่ทิ้งการร้องเพลงที่เขารัก เขาได้กลับมาร้องเพลงอีกครั้งในรายการ Our Song หลังจากพักไปทำตามความฝันด้านการแสดงอยู่พักใหญ่ และได้กล่าวในรายการตอนหนึ่งว่า
“ตอนนี้สิ่งที่รักและอยากทำคือการแสดง ส่วนการร้องเพลงคือความฝันที่ผมจะไม่มีวันยอมแพ้”
ตอนนี้เซียวจ้าน ได้รับการยอมรับทั้งเรื่องการร้องเพลง และการแสดงที่โดดเด่น จนได้รับคำกล่าวชื่นชมจากสื่อหลายสำนัก ทั้งหมดยิ่งทำให้กระแสความนิยมในตัวเขาเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด จากนักร้องนอกสายตา ก้าวมาสู่การเป็นนักแสดงชั้นนำของจีน จนได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้ายอดนิยม ทั้งแบรนด์ในจีน หรือแม้แต่แบรนด์อินเตอร์ ต่างก็ต้องการตัวเซียวจ้านมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ เขากลายเป็นภาพที่อยู่บนชั้นวางเครื่องครัว ของใช้ประจำบ้าน เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ไปจนถึงเครื่องประดับ หรือแม้แต่เครื่องสำอาง
ล่าสุด (2020) เขายังกลายเป็น Brand Ambassador ให้แบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำระดับโลกอย่าง Estée Lauder จนกระตุ้นยอดพรีออเดอร์ในแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมา ได้เป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่แบรนด์เบียร์ระดับโลกอย่าง Budweiser หลังจากเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์เป็นเซียวจ้าน ก็ทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น ไปในทิศทางเดียวกับกระแสในโซเชียลมีเดียที่เพิ่มมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ของแบรนด์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนสื่อในประเทศจีนอย่าง National Business Daily ได้จัดอันดับให้เซียวจ้านเป็นเซเลบฯ ฝ่ายชายที่มีมูลค่าทางธุรกิจสูงสุดในไตรมาส 3 ของปี 2019
และยังถูกตอกย้ำอีกครั้ง ด้วยรางวัลล่าสุด (2020) ที่เขาได้รับคือ “ศิลปินผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี” ด้วยคะแนนโหวตท่วมท้นกว่า 1.5 หมื่นล้านคะแนน ในงาน Tencent Entertainment White Paper Awards 2019 ไปเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2019 อีกด้วย
นับจากปีที่แล้ว จนถึงปีนี้ (2020) จัดได้ว่าเป็นปีทองของเซียวจ้าน อย่างแท้จริง ชื่อของเขาจากที่เคยถูกจดจำอยู่บ้างในฐานะนักร้องเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้กลายเป็นชื่อที่แทบทุกคนในประเทศจีนต้องรู้จัก
ไม่ใช่แค่ในฐานะซูเปอร์สตาร์สุดฮ็อตของจีนเท่านั้น แต่เซียวจ้าน ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความพยายามที่ไม่ย่อท้อต่อความฝัน และส่งผลให้เราเห็นผ่านความสำเร็จอันโด่งดังของเขา ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศจีน แต่ยังข้ามน้ำข้ามทะเลมายังประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่น ๆ ทั่วภาคพื้นเอเชียอีกด้วย
เรื่อง: สถิตย์ ณ กูซู
อ้างอิง: