The People Talk : สุนทรพจน์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ของอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี

The People Talk : สุนทรพจน์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ของอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี

The People Talk : สุนทรพจน์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ของอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี

**สุนทรพจน์สารเนื่องในวันปีใหม่ของอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรี เยอรมนี เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2020

“ภารกิจที่โรคระบาดนี้ทิ้งไว้ตรงหน้าเรายังหนักหนาสาหัส เจ้าของธุรกิจ ลูกจ้าง พนักงานฟรีแลนซ์ และศิลปินต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง ในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ซึ่งมิใช่ความผิดของพวกเขาเองแม้แต่น้อย รัฐบาลกลางจะไม่ละทิ้งพวกเขา”

ปี 2021 วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศเยอรมนีของอังเกลา แมร์เคิล กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 16 พอดี แมร์เคิลคือผู้นำที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ให้เป็นสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 10 แล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นนายกฯ มาหลายสมัย แต่ในทางปฏิบัติแล้ว เยอรมนียังอยู่ในสถานะพี่ใหญ่แห่งสหภาพยุโรป (EU) อยู่กลาย ๆ ด้วย ‘หญิงเหล็กแห่งยุโรป’ คือฉายาที่เธอได้รับ ด้วยผลงานที่สร้างแรงกระเพื่อมทั้งต่อประเทศและบริบททางการเมืองทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับผู้อพยพลี้ภัยมากกว่า 1 ล้านคน การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเงิน การแก้ปัญหาตัวเลขคนว่างงานที่ได้รับอานิสงค์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากการส่งออกสินค้าได้เป็นอันดับ 1 ของยุโรป ซึ่งหากย้อนไปเมื่อครั้งที่เธอขึ้นดำรงตำแหน่งแล้วต้องบอกเลยว่า เป็นช่วงที่ทั้งเยอรมนีและสหภาพยุโรปเกิดวิกฤตอย่างรุนแรง แนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของประเทศจึงไม่เพียงแต่ส่งผลเชิงบวกกับคนเยอรมันเท่านั้น แต่ด้านปัญหาหนี้สินของประเทศในสหภาพยุโรปอย่างกรีซ หรือข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนในขณะนั้น แมร์เคิลยังรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุมด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้เธอได้รับความนิยมทั้งจากฝั่งอนุรักษ์นิยม-เสรีนิยม จนครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกันมากถึง 4 สมัย และเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา อังเกลา แมร์เคิล ได้กล่าวสุนทรพจน์พรปีใหม่ในฐานะผู้นำประเทศเหมือนทุกปี แต่ครั้งนี้อาจจะแตกต่างตรงที่ปีนี้เยอรมนีเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับวิกฤตจากโควิด-19 อย่างหนักหน่วง สารปีใหม่จึงเต็มไปด้วยคำขอบคุณ ความหวัง และแรงศรัทธาของผู้นำประเทศในยามวิกฤต ที่ต้องการส่งไปถึงประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ที่กำลังทำหน้าที่กันอย่างสุดความสามารถ ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการกล่าวในฐานะนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งสุดท้ายด้วย นี่คือสุนทรพจน์ฉบับเต็มของอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี 4 สมัย   พี่น้องประชาชนที่รัก, ปีที่ผ่านมาหนักหนาสาหัสสำหรับพวกเรายิ่งนัก ปี 2020 โลกของเราถูกโจมตีด้วยสิ่งที่เราคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง ไวรัสที่เราไม่เคยรู้จักได้บุกเข้าสู่ร่างกายและชีวิตของเรา มันจู่โจมเราในส่วนที่เป็นมนุษย์มากที่สุด ทั้งการสัมผัสใกล้ชิด การสวมกอด การพูดคุยกัน การเฉลิมฉลอง ไวรัสได้เปลี่ยนพฤติกรรมธรรมดาให้กลายเป็นความเสี่ยง และเปลี่ยนมาตรการการป้องกันที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อนให้กลายเป็นเรื่องปกติ 2020 ปีแห่งโรคระบาดเป็นปีแห่งการเรียนรู้ ในฤดูใบไม้ผลิเราต้องตอบสนองต่อไวรัสโดยที่เราแทบไม่มีความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับมันเลย เราต้องตัดสินใจในจุดที่เราทำได้แค่เพียงหวังว่า เราจะทำได้อย่างถูกต้อง การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสเป็นความท้าทายและวิกฤตทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจครั้งหนึ่งในรอบศตวรรษ เป็นวิกฤตการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่เรียกร้องความทุ่มเทของเราทุกคน และอาจจะมากเกินไปสำหรับพวกเราหลายคน ข้าพเจ้าทราบดีว่า การรวบรวมความพยายามครั้งประวัติศาสตร์นี้ต้องการความเชื่อมั่นและความอดทนอย่างมหาศาลในส่วนของท่าน และสิ่งนี้ยังต้องดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ในเวลาช่วงท้ายสุดของปีที่ไม่ยอมผ่อนปรนนี้ เราควรที่จะได้หยุดพักหายใจสักเฮือกหนึ่ง และเพื่อแสดงความอาลัย เราในฐานะสังคมต้องไม่ลืมว่า มีผู้คนมากมายที่สูญเสียคนรัก และไม่สามารถอยู่ใกล้กับคนรักของพวกเขาได้ในชั่วโมงสุดท้ายของชีวิต ข้าพเจ้ามิอาจบรรเทาความเจ็บปวดนั้นได้ แต่ข้าพเจ้าจะภาวนาและระลึกถึงพวกเขาในเย็นวันนี้ ข้าพเจ้าได้แต่คิดถึงความเจ็บปวดของผู้ที่สูญเสียคนรักและโดนพรากชีวิตจากโคโรนาไวรัสไปว่า พวกเขาต้องเจ็บปวดเพียงไหน หรือผู้ที่ยังต้องต่อสู้กับผลข้างเคียงของความป่วยไข้ที่ยังหลงเหลือ เมื่อข้าพเจ้าได้เห็นกลุ่มคนที่ปฏิเสธว่ามีไวรัสอยู่จริง ทฤษฎีสมคบคิดนั้นไม่เพียงแต่เป็นอันตรายและเป็นเท็จ พวกเขายังเหยียดหยามและโหดร้ายต่อผู้คนที่กำลังทนทุกข์ทรมานด้วย 2020 เป็นปีแห่งความกังวลและความไม่แน่นอน แต่ก็ยังเป็นปีที่ผู้คนมากมายทุ่มเทและก้าวข้ามไปไกลโดยไม่ต้องการร้องขอความเห็นใจใด ๆ เราได้เห็นสิ่งเหล่านี้จากเหล่าแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล และสถานดูแลอื่น ๆ เราได้เห็นสิ่งนี้ในเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเราซึ่งพบว่า ตนเองกลายเป็นศูนย์กลางของการสู้ศึกสงครามกับไวรัส เราได้เห็นมันในความทุ่มเทอุทิศตนของบุนเดิสแวร์ (กองป้องกันสหพันธ์ เป็นกองทัพของรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี) ที่ได้คอยให้การสนับสนุนไปยังทุกมุมของประเทศและทุกเวลา ผู้คนนับไม่ถ้วนช่วยให้ชีวิตของเรายังดำเนินต่อไปได้แม้จะเกิดโรคระบาดขึ้น ในซูเปอร์มาร์เก็ตและรถขนส่ง ในไปรษณีย์ บนรถโดยสารประจำทางและรถไฟ สถานีตำรวจและศูนย์ดูแลเด็กเล็ก ที่โบสถ์ และในกองบรรณาธิการข่าว ข้าพเจ้ายังรู้สึกขอบคุณในวินัยของประชาชนส่วนใหญ่ที่แสดงให้เห็นจากการสวมหน้ากากและรักษาระยะห่างทางสังคม สำหรับข้าพเจ้า นี่คือเครื่องแสดงถึงความสามารถที่เราจะอยู่ในสังคมแห่งมนุษยธรรมได้ การคิดถึงผู้อื่น ความตระหนักรู้จักยับยั้งใจเมื่อจำเป็น และความรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่กว้างใหญ่กว่าตัวเรา ทัศนคติเช่นนี้ในส่วนของประชาชนนับล้านคนช่วยเราอย่างมากให้ก้าวผ่านโรคระบาดมาจนถึงวันนี้ และจะยังคงจำเป็นต่อไปในปีใหม่ แต่ข้าพเจ้ายังมีความหวัง และในไม่กี่วันที่ผ่านมา ความหวังได้แสดงออกบนใบหน้าของผู้ที่ได้รับวัคซีน นั่นคือ คนที่มีอายุมากที่สุดในหมู่พวกเรา ผู้ที่เฝ้าดูแลพวกเขา และเหล่าพยาบาลที่อยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก ไม่ใช่แค่ในเยอรมนีแต่ตลอดทั้งยุโรปและทั่วโลก ผู้ได้รับวัคซีนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทีละขั้นตอน ทีละก้าว กลุ่มวัยและอาชีพอื่นจะเข้าร่วมกันไปจนกว่าวัคซีนจะมีเพียงพอสำหรับทุกคนที่ต้องการ ข้าพเจ้าเองก็จะเข้ารับวัคซีนเมื่อคราวของข้าพเจ้ามาถึง อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ามีความหวังคือ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี ชุดทดสอบโคโรนาไวรัสที่เชื่อถือได้ ได้รับการพัฒนาคิดค้นขึ้นที่นี่ครั้งแรก และเช่นเดียวกับวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติในยุโรปและอีกหลายส่วนของโลกนั้นออกมาจากการคิดค้นของบริษัทเยอรมัน และกำลังได้รับการผลิตในความร่วมมือระหว่างเยอรมนี -สหรัฐอเมริกา อูเกอร์ ซาฮีน (Uğur Sahin) และ โอซเลม ตูเรชี (Özlem Türeci) จากไมนซ์ (คู่สามีภรรยานักวิจัย ผู้พบวัคซีนโควิด-19 รายแรก) ได้บอกข้าพเจ้าว่า มีผู้คนจาก 60 ประเทศทั่วโลกกำลังทำงานให้บริษัทของพวกเขา ข้าพเจ้าคิดว่าคงไม่มีตัวอย่างที่ดีไปกว่านี้แล้วที่จะพิสูจน์ว่า การร่วมมือของยุโรปและนานาชาติให้ผลดีอย่างไร เป็นความแข็งแกร่งจากความหลากหลายซึ่งนำพาเราให้ก้าวไปข้างหน้า ภารกิจที่โรคระบาดนี้ทิ้งไว้ตรงหน้าเรายังหนักหนาสาหัส เจ้าของธุรกิจ ลูกจ้าง พนักงานฟรีแลนซ์ และศิลปินต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง ในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ซึ่งมิใช่ความผิดของพวกเขาเองแม้แต่น้อย รัฐบาลกลางจะไม่ละทิ้งพวกเขา การสนับสนุนจากรัฐบาลในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนกำลังช่วยเหลือพวกท่านอยู่ กฎสำหรับการทำงานชั่วคราวที่ปรับปรุงแล้วกำลังมีผลบังคับใช้ มาตรการเหล่านี้จะช่วยรักษาตำแหน่งงานไว้ให้ได้ แต่โรคระบาดโคโรนาไวรัสเป็นทุกสิ่งสำหรับปีใหม่นี้หรือ? ไม่ใช่เช่นนั้น แม้แต่ก่อนการระบาดใหญ่ โลกที่เราอาศัยอยู่ก็ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหยั่งลึกถึงแก่นแกนเช่นกัน สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่เยอรมนีจะต้องทุ่มเทกำลังและความสร้างสรรค์ทั้งมวล เพื่อคิดค้นพัฒนาแนวคิดที่มั่นคงสำหรับอนาคต สำหรับเศรษฐกิจของเรา ความคล่องตัวในการใช้ชีวิตของเราต้องเป็นมิตรกับสภาพภูมิอากาศ สำหรับทุกคนในเยอรมนี ที่จะได้รับประโยชน์จากคุณภาพชีวิตที่เท่าเทียมและความเป็นธรรมในโอกาสการศึกษา สำหรับเราในฐานะชาวยุโรป เพื่อยืนหยัดตนเองได้ในโลกาภิวัตน์ ในโลกดิจิทัล พี่น้องประชาชนที่รัก, คงกล่าวเป็นอื่นไปมิได้ว่า นี่คือวันคืนและสัปดาห์ที่ยากลำบากของเรา และจะยังคงเป็นเช่นนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง ในอนาคตล้วนขึ้นอยู่กับเราทุกคนที่จะตัดสินใจว่าเราจะก้าวผ่านโรคระบาดนี้ไปได้อย่างไร นี่เป็นฤดูหนาวที่ยากลำบาก และยังเป็นเวลาอีกยาวนาน เรายังห่างไกลจากจุดสิ้นสุดนัก เรารู้วิธีที่จะต่อสู้กับไวรัสได้ นอกจากวัคซีน เครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดอยู่ในมือของเรา เมื่อเราทุกคนปฏิบัติตามกฎ เราทุกคนจะผ่านมันไปด้วยกัน สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึงเรื่องส่วนตัวบางประการ เรากำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในอีก 9 เดือนข้างหน้า และข้าพเจ้าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งแล้ว วันนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งสมาพันธรัฐเนื่องในวันปีใหม่เป็นครั้งสุดท้าย คงจะไม่เกินจริงไปนักหากข้าพเจ้าจะบอกว่า เราไม่เคยประสบกับปีที่ยากลำบากเท่าปีนี้มาก่อนเลยตลอด 15 ปีที่ผ่านมา และไม่เคยที่จะได้กล่าวทักทายปีใหม่ด้วยความหวังมากเช่นนี้ แม้ว่าจะยังมีความกังวลสงสัยใด ๆ ก็ตาม และข้าพเจ้าขอให้ท่านและครอบครัวจงมีสุขภาพแข็งแรง มีความมั่นใจ และเปี่ยมไปด้วยพรปีใหม่ 2021   ที่มา https://www.bundeskanzlerin.de/.../merkel... เรียบเรียงโดย: พิราภรณ์ วิทูรัตน์