26 ก.ค. 2566 | 18:00 น.
- ‘พาซอตติ’ (Pasotti) เริ่มวางขายครั้งแรกในปี 1956 โดย ‘เออร์เนสต้า พาซอตติ’ (Ernesta Pasotti) หญิงสาวที่หนีภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตั้งตัวในเมืองมิลาน อิตาลี ตั้งแต่อายุ 14 ปี
- พาซอตติวางขายกว่า 75 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ด้ามจับรูปสัตว์ และคริสตัล เพิ่มความหรูหราให้กับเจ้าของ
- ปัจจุบัน พาซอตติ อยู่ภายใต้การบริหารของ ‘นิโคลา เบโกตติ’ (Nicola Begotti) ทายาทรุ่น 3 หลานชายของเออร์เนสต้า
ก่อนที่ ‘พาซอตติ’ (Pasotti) จะกลายเป็นแบรนด์ร่มหรูหราแถมยังมีราคาสูงลิ่ว พาซอตติเคยเกือบล่มสลายมาก่อน เพราะตั้งแต่จีนผงาดขึ้นมาเป็นเจ้าอุตสาหกรรมหลายแห่งของโลก ‘ร่ม’ ก็ถูกตลาดจีนตีแตก จนทำให้หลายประเทศต้องปล่อยมือ ‘ยอม’ ให้สินค้าของจีนเข้ามามีอิทธิพลในบ้านตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ไม่ใช่กับครอบครัวพาซอตติ พวกเขาหมายมั่นไว้ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจแล้วว่า ร่มของพวกเขาจะต้องอยู่คู่อิตาลีและโลกนี้ไปตราบนานเท่านาน จึงเริ่มมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบด้ามจับ พัฒนาจนมาเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น ทั้งด้ามจับรูปทรงหัวสัตว์ ไปจนถึงการประดับประดาด้วยเพชรและคริสตัล เปลี่ยนจากร่มสุดแสนธรรมดาใช้กันแดดกันฝนไปเป็นเครื่องประดับที่แม้แต่ราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียยังต้องต่อคิวสั่งทำ
เพราะ ‘พาซอตติ’ ไม่ใช่แค่ ‘ร่ม’ หากแต่เป็นอุปกรณ์คู่กายที่ใครเผลอเข้ามาจับต้อง เป็นอันต้องตกอยู่ในมนต์สะกดของความพิถีพิถันของเหล่าช่างฝีมือจากอิตาลี
จากปี 1956 จนถึงปัจจุบัน ‘พาซอตติ’ ก็ยังคงรักษาคำพูดของพวกเขาไว้ได้ ทำไมร่มที่มีราคาถูกที่สุดอยู่ที่ 7,000 บาทถึงไม่จางหายไปตามกาลเวลา พวกเขาใจอะไรมัดใจคน นี่คือเรื่องราวเส้นทางการปั้นแบรนด์พาซอตติให้อยู่ยั้งยืนยง
หนีภัยสงคราม
“ครอบครัวเราเริ่มทำร่มมาตั้งแต่ปี 1956 แล้วล่ะ แม่ของฉัน ‘เออร์เนสต้า พาซอตติ’ (Ernesta Pasotti) เธอเป็นคนก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา ช่วงแรกบอกเลยว่ามันไม่ง่าย แม่กับพ่อต้องตื่นแต่เช้าเพื่อปั่นจักรยานไปส่งร่ม แต่ถ้าให้แบ่งหน้าที่จริง ๆ พ่อจะเป็นคนทำหน้าที่ขาย ส่วนแม่จะบริหารจัดการภายในบริษัทมากกว่า
“บริษัทเราก็เลยเหมือนเติบโตมาจากครอบครัวเล็ก ๆ ไปสู่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานกว่าหนึ่งร้อยคน แต่น่าเสียดายที่อุตสาหกรรมร่มมีการแข่งขันสูงเกินไป เราก็เลยต้องปรับลดขนาดลงเหลือพนักงานเพียง 17 คน และหันมาเน้นการผลิตร่มรุ่นลิมิเต็ดแทน”
‘อีวา จาโคมินิ’ (Eva Giacomini) ทายาทรุ่น 2 เล่าย้อนความหลังถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์ ที่มีต้นกำเนิดจากคอสเทลลูคซิโอ (Castelluccio) หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเมืองอุมเบรีย ตอนกลางของประเทศอิตาลี แม้ว่าในปัจจุบันเธอจะยกพาซอตติให้ ‘นิโคลา เบโกตติ’ (Nicola Begotti) ลูกชายของเธอเป็นผู้ดูแลแทน แต่ความผูกพันที่เธอมีต่อร่มพาซอตติยังคงสลักลึกอยู่ในความทรงจำ
เธอยังบอกอีกว่า แม่ของเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนาซีเยอรมันเคลื่อนกำลังพลเข้ามายึดครองอิตาลีตอนเหนือ ผู้ปกครองเมือง ณ เวลานั้นจึงต้องยอมจำนนและยกเมืองให้พวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เออร์เนสต้าเลยต้องทิ้งบ้านเกิดย้ายไปยังมิลานตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี
แต่ความหวังที่จะใช้ชีวิตอย่างปกติสุขของเออร์เนสต้ายังไม่มอดดับ เธอเฝ้ามองและหาทางกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาวปกติทั่วไปให้ได้เร็วที่สุด กระทั่งได้เข้าทำงานที่ร้านทำร่ม เธอเรียนรู้วิธีการสร้างร่มที่แข็งแรง สวยงาม และอัดแน่นไปด้วยความเอาใจใส่จากเหล่าช่างฝีมือมากประสบการณ์
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กสาวเริ่มมองเห็นภาพตัวเองในอนาคต และอนาคตที่ว่าก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม จากเด็กสาวพลัดถิ่น ล่วงเลยเข้าสู่วัย 27 ปี ‘พาซอตติ’ จึงถือกำเนิดขึ้นในปี 1956 ท่ามกลางเศษซากความฝันและความหวังของเออร์เนสต้า หญิงสาวผู้ไม่เคยหลงลืมความฝันของตัวเองแม้แต่วินาทีเดียว
จากร่มธรรมดา สู่แบรนด์ที่ราชวงศ์ซาอุฯ ยังต้องสั่งทำ
“ผมช่วยคุณแม่กับคุณยายทำร่มตั้งแต่อายุ 3 หรือ 4 ขวบนี่แหละ ผมเลยค่อนข้างมั่นใจว่า ตัวเองเข้าใจวิธีการขายร่มของครอบครัวเราตั้งแต่อายุยังน้อย
“ตอนนี้ผมยอมรับตามตรงเลยว่า ผมเข้ามารับช่วงต่อเพราะชอบทำร่มจริง ๆ”
นิโคลา เบโกตติ ทายาทรุ่น 3 ร่มพาซอตติที่บุคลิกภายนอกค่อนข้างขัดกับความละเมียดของร่มที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ไม่น้อย ทั้งเครื่องแต่งกายสีดำล้วน มาพร้อมท่าทางขึงขัง ทำให้ชายคนนี้ดูไม่ต่างจากนักร้องนำวงเฮฟวีเมทัลมากกว่าผู้บริหารร่มหรู
หากถามว่าพาซอตติมีชื่อเสียงขนาดไหน คงต้องยกตัวอย่างนักร้อง-นักแสดง ระดับแนวหน้าที่ตบเท้าเข้ามาใช้ร่มจากแบรนด์นี้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp), เมอรีล สตรีป (Meryl Streep) และเจนนิเฟอร์ โลเปซ (Jennifer Lopez) รวมถึงแม่ค้าเครื่องสำอางชื่อดังอย่าง ริฮานน่า (Rihanna)
นอกจากเหล่าคนดังที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงแล้ว เชื้อพระวงศ์ซาอุดีอาระเบียเองก็ยังโดนร่มพาซอตติ ‘ตก’ เข้าอย่างจัง เพราะความหรูหราที่หาใครเทียบได้ยาก แถมยังเป็นเครื่องประดับที่ไม่ทำให้รัศมีตกแม้มิลลิเมตรเดียว แต่กลับยิ่งส่งเสริมบารมีของผู้ถือให้โดดเด่นยิ่งกว่าเก่า
นี่ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เพราะการถือร่มที่ด้ามจับถูกประดับประดาด้วย Swarovski ส่องประกายระยิบระยับไปมา บางคันก็มีรูปหัวสัตว์แสดงความน่าเกรงขามคอยดึงดูดสายตา ซึ่งคงมีน้อยคนนักที่ไม่เผลอมองตาม
แต่พาซอตติไม่ได้เน้นที่ความหรูหราเพียงอย่างเดียวเท่านั้น พวกเขายังใช้ไม้เพียงชิ้นเดียว เพื่อให้โครงสร้างของร่มแข็งแกร่ง ทนทาน ไม่ใช่แค่เครื่องประดับราคาแพงที่ไร้ประโยชน์แต่อย่างใด
“เราพยายามศึกษาวัสดุและเนื้อผ้าชนิดใหม่ ๆ เพื่อให้ร่มของเราไม่ล้าสมัย แต่ไม่ใช่ว่าเราจะทิ้งตัวตนดั้งเดิมของเราไปนะ ผมอยากให้พาซอตติเป็นแบรนด์ที่ทันสมัยอยู่เสมอ เลยพยายามทดลองกับอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่ยังคงเคารพความงดงามของร่มที่คุณยายสร้างขึ้นมา เพราะมันได้พิสูจน์ให้ผมเห็นแล้วว่า ของอะไรที่ดีอยู่แล้ว มันจะยังไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา”
ร่มที่พยายามขายให้ได้ 40,000 คันต่อปี
ในปี 2013 ร่มพาซอตติสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่าสองล้านยูโร แม้จะเป็นสัดส่วนตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่พวกเขากลับมีคำสั่งซื้อจ่อแถวเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แต่นิโคลาในฐานะทายาทรุ่น 3 พยายามที่จะจำกัดปริมาณการสั่งซื้อให้ไม่เกิน 40,000 คัน เพราะเขาเชื่อว่าของที่ดีย่อมต้องใช้เวลาในการทำนานเป็นพิเศษ
ปัจจุบัน ร่มพาซอตติส่งออกไปขายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย แต่ 93% ของยอดขายในต่างประเทศ คือ ยุโรป อเมริกาเหนือ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน
“ในปี 2013 เราผลิตร่มจำนวน 800 คันให้กับธนาคารแห่งหนึ่งในรัสเซีย พวกเขาบอกว่าจะนำไปมอบให้กับลูกค้าวีไอพีของธนาคาร เราก็เลยเพิ่มข้อความพิเศษลงไป โดยเขียนว่า Pasotti for… เพื่อให้พวกเขารู้สึกเป็นเจ้าของร่ม มากกว่าเป็นแค่ของที่ได้รับจากธนาคาร
“นอกจากยุโรปแล้วก็ยังมีผู้ซื้อในประเทศไนจีเรีย คาซัคสถาน และโคลอมเบีย เรายังเปิดช็อปขายโดยตรงในอีก 75 ประเทศอีกด้วย”
พาซอตติจึงไม่ใช่แค่ร่มธรรมดา หากแต่เป็นเครื่องประดับคู่กายของเหล่าคนมีชื่อเสียง ที่จะช่วยเปลี่ยนฤดูฝนอันน่าหดหู่ใจ ให้กลายเป็นฤดูกาลที่สามารถปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองออกมา ผ่านร่มที่ใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างพาซอตติได้อย่างเต็มที่
ภาพ: Pasotti /Instagram
อ้างอิง
https://www.pasottiombrelli.com/en/pm-4-7
http://www.bacoluxury.com/pasotti-rock-generation-drives-old-family-business/
https://www.businesspeople.it/Lifestyle/Stile/Pasotti-Ombrelli-eleganza-sotto-la-pioggia-59796/