‘L'Oreal’ องค์กรที่สนับสนุนความหลากหลายทุกรูปแบบ และเน้นการไม่แบ่งแยก

• ‘ลอรีอัล กรุ๊ป’ (L'Oreal Group) ติด 1 ใน 20 องค์กรชั้นนำ ด้านความหลากหลายและการรับความแตกต่างยอดเยี่ยม (Diversity and Inclusion) จากดัชนีรีฟินิทีฟ
• กรอบการทำงานของ ‘ลอรีอัล กรุ๊ป’ (L'Oreal Group) มี 4 เสาหลัก
• สวัสดิการของพนักงาน หนึ่งในตัวชี้วัดด้านความเท่าเทียมและหลากหลายของ ‘ลอรีอัล กรุ๊ป’ (L'Oreal Group)

เพราะ ‘ความหลากหลาย’ และ ‘ความเท่าเทียม’ เป็นประเด็นที่สังคมและหลายองค์กรในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากตระหนักถึงคุณค่าในความแตกต่างของแต่ละคน โดยองค์กรได้พยายามวางแนวทางบริหารและสร้างบริบทต่าง ๆ ภายในองค์กรเพื่อสนับสนุนความหลากหลาย และยอมรับความแตกต่างของคนในองค์กร ซึ่งไม่ได้หมายถึงเฉพาะ ‘เพศ’ เท่านั้น แต่รวมไปถึงเชื้อชาติ, วัฒนธรรม, ความบกพร่องทางร่างกาย และ ความคิดเห็น เป็นต้น

ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน Stories of the Month ซีรีส์ใหม่โดย The People จะบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจพร้อมกับเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘องค์กรแห่งความหลากหลาย’ ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีเรื่องราวพิเศษในด้านต่าง ๆ ให้ได้ติดตามกันอย่างไม่ซ้ำประเด็น

ในวันนี้ เราจะมาเล่าถึง ‘ลอรีอัล กรุ๊ป’ (L'Oreal Group) อีกหนึ่งองค์กรที่มีความโดดเด่นด้าน ‘ความหลากหลาย’ โดยจะมีรูปแบบการทำงานที่ครอบคลุม 4 เสาหลัก ซึ่งเราจะมาเล่าในบทความนี้

‘องค์กรแห่งความหลากหลาย’ : L'Oreal องค์กรที่สนับสนุนความหลากหลายทุกรูปแบบ

ลอรีอัล กรุ๊ป ถือว่าเป็นองค์กรที่เด่นชัดเรื่องการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ซึ่งในปี 2022 บริษัทติด 1 ใน 20 องค์กรชั้นนำระดับโลก ด้านความหลากหลายและการโอบรับความแตกต่างยอดเยี่ยม (Diversity and Inclusion) จากการจัดอันดับดัชนีรีฟินิทีฟ ซึ่งโดดเด่นด้านความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง ประจำปี 2565 (2022 Refinitiv Diversity & Inclusion Index)

ที่น่าสนใจอย่างมากเกี่ยวกับ ลอรีอัล กรุ๊ป เพราะมักจะย้ำวิสัยทัศน์อยู่บ่อย ๆ ว่า “เราพยายามเป็นบริษัทที่มีความหลากหลายมากเท่าผู้บริโภคของเรา” ซึ่งทีมงานของลอรีอัล พยายามช่วยกันตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่า “ทำไมเครื่องสำอางถึงไม่เข้ากับทุกเฉดสีผิว?” จะว่าไปนั่นก็คือรากฐานสำคัญสุดที่ทำให้พวกเขาพยายามบรรลุภารกิจ ‘Beauty for All’ ความงามเพื่อทุกคนให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น

ทั้งนี้ กลยุทธ์หลัก ๆ ของลอรีอัล กรุ๊ป ในเรื่องความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความไม่แบ่งแยก Diversity, Equity & Inclusion โดยมีกรอบการทำงานที่ครอบคลุม 4 เสาหลัก ก็คือ เพศสภาพ : เพื่อความเท่าเทียมของทุกเพศ, ภาวะทุพพลภาพ : การไม่แบ่งแยกต่อผู้พิการภายในบริษัท, ช่วงวัย : สามารถร่วมงานกันแม้จะต่างช่วงอายุได้ และ สถานะทางเศรษฐกิจสังคมและความหลากหลายของชาติพันธุ์ : เน้นที่ความหลากหลายของพนักงาน สร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันในการพัฒนาด้านอาชีพ

สำหรับ ลอรีอัล กรุ๊ป ที่ผ่าน ๆ มา จะเห็นชัดว่าเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับทุกคนและสำหรับเฉพาะบุคคล (Beauty for All & Beauty for Each) จุดยืนตลอดที่ทำธุรกิจก็คือ เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทั้งในด้านเพศ ช่วงอายุ สีผิว รูปลักษณ์ รวมไปถึงการทำงานกับ  KOL และพรีเซนเตอร์ ที่มีความหลากหลาย

เช่น พีพี กฤษฎ์ และ ยอร์ช ยงศิลป์ ที่เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ‘เมย์เบลลีน นิวยอร์ก’ ถือเป็นการลบภาพเดิม ๆ ของเครื่องสำอางที่ต้องเป็นหญิงแท้เท่านั้นผ่านพรีเซนเตอร์ได้ดีทีเดียว

ทั้งนี้ ลอรีอัล (ประเทศไทย) ในส่วนของการดำเนินธุรกิจ แบรนด์ในเครือ ลอรีอัล ประเทศไทย ปัจจุบันมีมากถึง 15 แบรนด์ด้วยกัน ซึ่งหลายคนก็อาจจะไม่รู้ว่าบางแบรนด์อยู่ในเครือของลอรีอัล กรุ๊ป ด้วย ได้แก่ ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่, เมย์เบลลีน นิวยอร์ก, ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี, คีลส์, ชู อูเอมูระ, อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์, อิท คอสเมติกส์, ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล, เคเรสตาส, ลา โรช-โพเซย์, วิชี่ และ เซราวี

 

สวัสดิการสนับสนุนความหลากหลาย

ไม่ใช่แค่แนวคิดหรือวิสัยทัศน์เท่านั้นที่น่าสนใจ เพราะว่า ‘สวัสดิการ’ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สะท้อนได้ว่าองค์กรนั้น ๆ สนับสนุนเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

โดย ลอรีอัล กรุ๊ป ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ‘สวัสดิการของพนักงาน’ ที่น่าสนใจหลายเรื่อง และค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องความเท่าเทียมและหลากหลาย ตัวอย่างเช่น

การไม่ใส่คำนำหน้าชื่อของพนักงานทุกคนในการสื่อสารภายในของบริษัท, ไม่มีการระบุเพศในการเปิดรับสมัครงานทุกตำแหน่งเพื่อเปิดรับทุกโอกาส นอกจากนี้ เพื่อนพนักงานยังสามารถทำประกันกลุ่มของบริษัทและซื้อบริการตรวจสุขภาพให้กับคู่ชีวิตได้ในราคาพิเศษ อีกทั้งยังสามารถใช้วันลาสำหรับอุปการะบุตรบุญธรรมกับคู่ชีวิตได้

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่ลูกของพนักงานโดยไม่คำนึงถึงเพศของผู้ปกครอง ทั้งนี้ พนักงานทุกคนยังได้รับความยืดหยุ่นในการทำงาน มีสวัสดิการวันหยุด Flex Leave 15 วัน ลาไปทำอะไรก็ได้ ซึ่งเพิ่มเติมจากวันลาพักร้อน 12 วัน รวมวันหยุดเริ่มต้นเป็น 27 วัน ซึ่งครอบคลุมถึงการลาไปผ่าตัดแปลงเพศด้วย

หลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับ ‘ลอรีอัล  กรุ๊ป’ มองว่าเป็นการส่งเสริมความหลากหลายอย่างมาก ทั้งยังให้ความสำคัญกับการเติบโตและได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมด้วย ซึ่งผลสำรวจ Pulse Survey ที่ผ่านมา ราว 90% ของพนักงานในองค์กรนี้รู้สึกว่าได้รับการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น และได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพจากคนในองค์กร นอกจากนี้ บริษัทมีการแต่งตั้งคณะทำงาน DE&I Committee เพื่อเป็นตัวแทนพนักงานในการให้ความเห็น และส่งเสริมการทำงานต่าง ๆ ในองค์กรด้วย

 

ภาพ : L'Oreal Group