โรเบิร์ต คิโยซากิ: นักเขียนพ่อรวยสอนลูก ‘ไลฟ์โค้ชรุ่นใหญ่’ ชายผู้เชื่อมั่นในบิตคอยน์

โรเบิร์ต คิโยซากิ: นักเขียนพ่อรวยสอนลูก ‘ไลฟ์โค้ชรุ่นใหญ่’ ชายผู้เชื่อมั่นในบิตคอยน์

‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ (Robert Kiyosaki) นักลงทุนและนักเขียนหนังสือขายดี ‘พ่อรวยสอนลูก’ (Rich Dad Poor Dad) ออกมาให้คำแนะนำนักลงทุนให้รีบกอบโกยบิทคอยน์ เพราะเขาเชื่อว่านี่คือทรัพย์สินที่ดีที่สุดในช่วงเวลาไม่แน่นอน

คนส่วนใหญ่พูดว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ ถ้าไม่สำคัญแล้วทำไมถึงยอมทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ?

สำหรับนักอ่านที่ชอบอ่านเรื่องการลงทุน หลายคนคงเคยเห็นหนังสือชื่อว่า ‘พ่อรวยสอนลูก’ (Rich Dad Poor Dad) เล่าเรื่องเกี่ยวกับโลกของการเงินและการลงทุน โด่งดังจนถูกตีพิมพ์หลายภาษา ส่งให้ตัวผู้เขียนอย่าง ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ (Robert Kiyosaki) เป็นที่รู้จักเพราะงานเขียนของตัวเอง แต่ตอนนี้มุมมองชื่นชมของนักอ่านหลายคนเริ่มเปลี่ยนไปเป็นระแวดระวัง เพราะหนังสือที่แนะนำการใช้ชีวิตให้ร่ำรวย ดันลืมบอกเรื่องการล้มละลายที่ตัวเองเคยสร้างวีรกรรมเอาไว้ให้โลกธุรกิจ

มีคนกล่าวว่า คิโยซากิเป็นนักธุรกิจพ่วงการเป็น ‘ไลฟ์โค้ช’ ที่มีจังหวะชีวิตไม่ต่างจากไลฟ์โค้ชคนอื่น ๆ บนโลก เริ่มด้วยการเขียนหนังสือจนติดอันดับขายดี มียอดขายมากกว่า 26 ล้านเล่มทั่วโลก เอาตัวเองออกสื่อมากขึ้น สร้างภาพลักษณ์ให้ทั้งคนที่อ่านหนังสือและไม่ได้อ่านรู้จักตัวตน แสดงให้คนเห็นว่าตัวเองประสบความสำเร็จแทบทุกด้าน มีงานเขียน มีหน้ามีตา มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ควบคู่กับการเปิดชั้นเรียนสำหรับผู้สนใจอยากประสบความสำเร็จเหมือนกับคิโยซากิ ที่มีตั้งแต่เรียนฟรีจนถึงเสียเงินครั้งละหลายสตางค์

โรเบิร์ต คิโยซากิ: นักเขียนพ่อรวยสอนลูก ‘ไลฟ์โค้ชรุ่นใหญ่’ ชายผู้เชื่อมั่นในบิตคอยน์

คิโยซากิถือเป็นนักธุรกิจที่มีชั้นเชิงยอดเยี่ยม ดูจากกรณีการยื่นขอล้มละลายของบริษัท Rich Global LLC ที่เขาเป็นเจ้าของ ทว่ากลับให้บริษัทยื่นล้มละลาย เพราะโดนคำสั่งศาลให้บริษัทจ่ายเงินกว่า 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 745 ล้านบาท แก่บริษัท The Learning Annex ซึ่งเขาเลือกขอล้มละลายแทน

การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนับสิบ ๆ ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากการเบี้ยวข้อตกลงของคิโยซากิ เมื่อเขาเริ่มเขียนหนังสือพ่อรวยสอนลูก เขาได้ตกลงกับบริษัท The Learning Annex ว่า จะให้บริษัทเป็นผู้วางแผนการขาย ประชาสัมพันธ์หนังสือ และจัดตารางการออกงานออกสื่อ โดยทั้งสองฝ่ายจะแบ่งเปอร์เซ็นต์จากรายได้ของหนังสือ พอพ่อรวยสอนลูกโด่งดังไปทั่วโลกจนสร้างกำไรกว่า 400 ล้านดอลลาร์ นักเขียนชื่อดังกลับไม่แบ่งเปอร์เซ็นต์ตามตกลง ซ้ำยังเปิดบริษัท Rich Global LLC เพื่อบริหารจัดการหนังสือของตัวเอง

การละเมิดข้อตกลงไม่จ่ายเงินให้บริษัทพาร์ทเนอร์ แถมยังเปิดบริษัทเพื่อจัดการทุกอย่างเองอย่างเบ็ดเสร็จทำให้บริษัท Rich Global LLC ถูกสั่งฟ้อง คนที่รู้จักโลกการเงินและวงการธุรกิจเป็นอย่างดีย่อมไม่อยากเสียเงินมหาศาลไปง่าย ๆ คิโยซากิหาทางเลี่ยงด้วยการเริ่มกระจายเงินของตัวเองออกจากบริษัท ทำให้เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัทพบว่ามีเงินเหลืออยู่เพียงไม่กี่ล้านเหรียญ และเมื่อเงินไม่พอจ่ายก็ต้องยื่นขอล้มละลาย

แม้ชื่อเสียงของเขาจะเริ่มกลายเป็นชื่อเสีย คนค่อนแคะเขาว่าเป็นนักธุรกิจที่สอนคนอื่นแต่กลับล้มละลายเสียเอง แต่แท้จริงแล้วการล้มละลายที่ว่าเป็นเพียงแค่ ‘บริษัทของคิโยซากิ’ ไม่ใช่ ‘การล้มละลายส่วนบุคคล’ หรือพูดง่าย ๆ คือตัวของเขาไม่ล้มละลาย ยังมีทรัพย์สินจำนวนมากไม่ได้น้อยไปกว่าเดิมเท่าไหร่ และเขายังมีธุรกิจอื่น ๆ อยู่อีกมาก ทำให้คนบางส่วนมองว่าการล้มละลายครั้งนี้ของบริษัท Rich Global LLC เป็นการล้มบนฟูกที่ไม่เจ็บตัว ถือเป็นเทคนิคที่นักธุรกิจส่วนใหญ่นิยมทำเมื่อไม่อยากจ่ายเงิน

โรเบิร์ต คิโยซากิ: นักเขียนพ่อรวยสอนลูก ‘ไลฟ์โค้ชรุ่นใหญ่’ ชายผู้เชื่อมั่นในบิตคอยน์

นักธุรกิจมีชื่อหลายคนต่างเคยยื่นขอล้มละลายด้วยกันทั้งนั้น เห็นได้ชัดอย่างเพื่อนร่วมวงการของคิโยซากิอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ นักธุรกิจใหญ่ที่กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เคยยื่นขอล้มละลายถึง 4 ครั้ง ปลดพันธะหนี้โดยแจ้งแก่ศาลว่าบริษัทไม่มีทรัพย์สินมากพอ (แต่ส่วนตัวก็ยังร่ำรวยมหาศาลเหมือนเดิม) ซึ่งคิโยซากิแค่นำบริษัท Rich Global LLC ที่มีทรัพย์สินเหลือเพียงไม่กี่ล้านแปรสภาพเป็นเงิน และจ่ายหนี้ให้บริษัท The Learning Annex โดยไม่ต้องควักเนื้อตัวเอง

แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็นนักธุรกิจที่เคยล้มละลาย หนังสือหลายเล่มของคิโยซากิก็ทำให้คนอ่านหลายคนประสบความสำเร็จในการเล่นหุ้นหรือทำธุรกิจ แม้จะมีชื่อเสียแต่ปัจจุบันเขาก็ยังเปิดคลาสการเรียนการสอนธุรกิจและการเงินสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ และก็ยังคงมีคนพอใจที่จะสมัครเข้าคลาสอยู่พอสมควร

ราวกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2023 คิโยซากิได้ให้คำแนะนำแก่เหล่านักลงทุนเหมือนอย่างเคย ครั้งนี้เขาโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมกับระบุว่า นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะใช้ดอลลาร์เพื่อซื้อทองคำ แร่เงิน และบิตคอยน์มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเงินที่แท้จริง ต่างจากเงินดอลลาร์ที่นับวันจะเสื่อมราคาลงเรื่อย ๆ แม้ว่าบิตคอยน์จะเคยสั่นคลอนความไว้วางใจของเหล่านักลงทุนมานับไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งก็สามารถกลับมาผงาดและมีมูลค่าสูงกว่าเดิมเสมอ

เมื่อย้อนกลับไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คิโยซากินับว่าเป็น ‘โปรบิตคอยน์’ เอนเอียงและสนับสนุนบิตคอยน์ชนิดที่มองว่าเงินดอลลาร์คือสกุลเงินที่ไม่จีรังยั่งยืน และพร้อมล่มสลายได้ทุกเมื่อ เขาเชื่อว่าไม่มีทรัพย์สินใดมั่นคงเทียบเท่ากับบิทคอยน์อีกแล้ว

“ผมชอบบิตคอยน์ ถึงจะไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับมันมากนัก แต่ผมก็ปลื้มใจไม่น้อยที่ได้ซื้อมันตอนราคายังแตะเลขหลักหก” ออกมาสัมภาษณ์ผ่านรายการ Kitco News ในเดือนเมษายน 2021 ซึ่งเขาได้ทิ้งคำทำนายไว้ให้เหล่านักลงทุนเพิ่มเติมว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าราคาบิตคอยน์อาจพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.2 ล้านดอลลาร์

แม้ว่านั่นจะเป็นบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมาแล้วถึง 2 ปีด้วยกัน แต่จากการติดตามข่าวคราวของเขาผ่านทางโซเชียลมีเดีย ก็พบว่าทุกครั้งที่เขาโพสต์ข้อความให้คำแนะนำ ‘บิตคอยน์’ คือตัวเลือกการลงทุนอันดับต้น ๆ ที่เขาหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง ซึ่งดูเหมือนว่าใจของเขายังคงยึดมั่นและศรัทธาในสกุลเงินดิจิทัลตัวนี้ไม่เสื่อมคลาย

เห็นได้จากบทสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2023 คิโยซากิ ออกมาพูดผ่านรายการ Kitco News ว่า “ผมกำลังซื้อบิตคอยน์ เพราะหมดความเชื่อมั่นในสกุลเงินจอมหลอกลวงอย่างดอลลาร์!”

เหตุผลหลักที่ทำให้ความเชื่อมั่นในสกุลเงินดอลลาร์ของคิโยซากิลดต่ำลง ถึงขนาดออกมาพูดว่าจะไม่เชื่อมั่นในดอลลาร์อีกแล้วนั้น เป็นเพราะว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาได้พิมพ์เงินมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ นับเป็นจำนวนมหาศาลที่ถูกอัดฉีดเข้าสู่เศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากการระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น

นี่คือสัญญาณเตือนกลาย ๆ ว่าเงินดอลลาร์กำลังอ่อนตัวลง และจะมีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง อาจนะไปสู่การล่มสลายของสกุลเงินดอลลาร์ รวมถึงอาจก่อให้เกิดการตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ เขาจึงพร่ำบอกนักลงทุนเสมอว่า ให้เชื่อมั่นในทองคำ แร่เงิน และบิตคอยน์!

“ยุคที่เงินดอลลาร์เคยมีความมั่นคงเหมือนทองคำได้จบลงแล้ว เพราะตอนนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินครั้งใหม่ ซึ่งผมมีความกังวลว่าอีกไม่นานยุคที่เคยเรืองรองทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ คงถึงคราวล่มสลาย”

อย่างไรก็ตามทุกอย่างมีสองด้านเสมอ ไม่ใช่ทุกคนที่ซื้อหนังสือมาอ่านหรือฟังคำแนะนำของเขาแล้วจะร่ำรวยได้ดั่งใจ หรือบางคนยอมเสียเงินหลักแสนเพื่อเข้าคลาสสอนรวยแล้วจะรวยอย่างหวังได้จริง ๆ ดังนั้น การระมัดระวังในการลงทุนและอ่านอย่างมีวิจารณญาณ อย่าติดกับดักความสำเร็จที่ไลฟ์โค้ช (บางคน) พยายามสร้างให้เห็น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เหมือนอย่างโรเบิร์ต คิโยซากิ เคยกล่าวไว้ว่า “ต้องรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

 

เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์ 

 

หมายเหตุ: เนื้อหานี้กองบรรณาธิการปรับปรุงข้อมูลและเรียบเรียงขึ้นใหม่จากบทความ โรเบิร์ต คิโยซากิ: นักเขียนพ่อรวยสอนลูก ‘ไลฟ์โค้ชรุ่นใหญ่’ กับการล้มละลายที่ไร้บาดแผล โดย ตรีนุช อิงคุทานนท์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2020

 

ที่มา