10 มี.ค. 2566 | 14:35 น.
- จากเด็กขี้อายมาก แค่เพื่อนมองหน้าก็ร้องไห้ สู่ผู้นำหญิงแกร่งแห่งอาณาจักร The Mall group
- แม้จะเรียนจบสายเภสัชศาสตร์ แต่การสานต่อธุรกิจครอบครัว และต้องพยายามเรียนรู้ให้หนัก ทำให้ทุกวันนี้ ‘แอ๊ว - ศุภลักษณ์ อัมพุช’ ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ก่อนมาเป็น ‘แอ๊ว - ศุภลักษณ์ อัมพุช’ หญิงเหล็กที่เป็นแม่ทัพของศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงมากมายในประเทศไทย เธอเคยเป็นเด็กที่ขี้อายมากมาก่อน ซึ่ง The People จะพาไปรู้จักกับมุมของ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ หรือน้อยมาก ๆ ที่มีคนรู้
Stories of the Month ซีรีส์ใหม่โดย The People บอกเล่าเรื่องราวน่าสนใจในแต่ละเดือน ที่เราจะมีประเด็นพิเศษมาให้ติดตามแบบไม่ซ้ำกัน สำหรับเดือนมีนาคม 2023 มาพร้อมเรื่องราว ‘ผู้นำหญิงเก่ง’ ของไทย
โลกยุคปัจจุบันที่เปิดกว้าง บวกกับความสามารถและศักยภาพที่แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ณ ตอนนี้เราจะได้เห็น ‘ผู้หญิง’ จำนวนไม่น้อยก้าวเข้าสู่บทบาทในฐานะ ‘ผู้นำ’ ควบคู่ไปกับการสวมบทบาทอื่น ๆ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนหรือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กร สังคม และประเทศมากขึ้น
ติดตามเรื่องราวของ ‘ผู้นำหญิงเก่ง’ ของไทย ซึ่งแนวคิดของพวกเธออาจจุดประกายไอเดียหรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน เพื่อนำมาเป็นแนวทางการใช้ชีวิตหรือสร้างความสำเร็จให้กับตัวเอง โดยในเดือนนี้ The People ได้เลือก ‘ผู้นำหญิงเก่ง’ ของไทยมานำเสนอ สัปดาห์ละ 1 คน
‘ศุภลักษณ์ อัมพุช’ วิสัยทัศน์ที่ได้รับการยกย่อง
ปัจจุบันเราต่างคุ้นเคยกับเส้นทางความสำเร็จของ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ทั้งยุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ธุรกิจที่ค่อนข้างได้รับการยกย่องและเป็น role model ของคนกลุ่มใหญ่ในเรื่องของการบริหารคนและธุรกิจที่อยู่ในมือ
เธอเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เป็นเจ้าของและผู้พัฒนาโครงการศูนย์การค้าเดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรี่ยม, ดิ เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน และอีกหลายโครงการที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ เช่น โครงการดิ เอ็มสเฟียร์ และเดอะแบงค็อก มอลล์
ด้วยตำแหน่งประธานกรรมการของ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ถือว่าได้รับหน้าที่โดยตรงในการกำหนดทิศทางในการบริหารศูนย์การค้าเพื่อผลักดันให้ทุกโครงการเกิดขึ้นและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
หลักการคิดและวิสัยทัศน์ของเธอที่ยึดถือมาตลอดก็คือ ‘ความกล้าที่จะทำ’ และต้องทำ ‘สิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ’ พูดง่าย ๆ คือ เล็ก ๆ ศุภลักษณ์ไม่ทำต้องใหญ่เท่านั้น
ซึ่งเส้นทางความสำเร็จของ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ที่ทุกคนเห็นกระจ่างชัดก็คือรางวัลต่าง ๆ ที่เธอได้รับที่ผ่านมา เช่น ในปี 2565 เธอได้รับเกียรติสูงสุดในการเข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นอัศวิน ‘The National Order of the Legion of Honor at the rank of Knight (Ordre Nationale de la Légion d’Honneur – Chevalier ออร์กเดรอะ นาซิอ็องนาล เดอ ลา เล จิอง ดอนเนอร์ก - เชอวาลิเอ )’ แต่งตั้งโดยประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในฐานะที่เป็นผู้ที่ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมแบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศสในไทย
นอกจากนี้ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ยังได้รับเลือกจากนิตยสาร Fortune ให้เป็น ‘Iron Butterfly: นักธุรกิจหญิงเก่งของเอเชีย’, บุคคลแห่งปี (Person of the Year 2015) จากนิตยสารไทยแลนด์ แทตเลอร์, รางวัล ‘นักบริหารสตรีดีเด่น; จากสมาคมผู้ค้าปลีกห้างสรรพสินค้า, รางวัล ‘มหิดลทยากร’ จากสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล, รางวัล ‘นักธุรกิจสตรีตัวอย่างและนักวิชาชีพสตรีตัวอย่าง’ จากสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย และรางวัล ‘นักธุรกิจสตรีดีเด่นโลก’ (LWEW) จาก THE STAR GROUP
ยังมีอีกหลายรางวัลที่ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ได้รับเพราะทุกคนต่างเห็นความมุ่งมั่นของเธอ เช่น รางวัล ‘สตรีผู้ประกอบการผู้มีผลงานโดดเด่น’ (Outstanding ASEAN Women Entrepreneurs Award 2015) โดยสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น
ตระกูลอัมพุช(เกือบ) วางมือเพราะแข่งไม่ไหว
จุดเริ่มต้นแรก ๆ เลยคือ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ เคยเป็นเด็กที่ขี้อายมากส่วนหนึ่งเพราะว่าคุณแม่เสียไปตั้งแต่เด็กจึงเป็นเด็กเก็บตัว แค่เพื่อนมองหน้าก็ร้องไห้แล้ว (บทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งจากรายการสุริวิภา เมื่อหลายปีก่อน)
พอโตขึ้นมาจากเด็กที่เรียนไม่ค่อยเก่ง คุณพ่อ ซึ่งเป็นคนที่บอกให้เรียนอย่างเดียว เรียนให้เก่ง ส่วนหนึ่งอาจเพราะว่าฐานะครอบครัวในตอนนั้นไม่ดีนัก แอ๊ว - ศุภลักษณ์ จึงขยันมากไปไหนก็พกหนังสือไปด้วย จนโตขึ้นมาเป็นเด็กเรียนเก่ง เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากมหาวิทยาลัยมหิดล และระดับปริญญาโท สาขาวิชาเภสัชอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเพอร์ดู จากประเทศสหรัฐอเมริกา
แอ๊ว - ศุภลักษณ์ เริ่มทำงานที่แรกกับ บริษัท แอตแลนติก จำกัด ในตำแหน่งผู้แทนการขาย และเคยเป็นอาจารย์ประจำ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
หลังจากนั้นเธอตัดสินใจกลับมาช่วยที่บ้าน ซึ่งต้องบอกว่า สถานการณ์ของธุรกิจครอบครัวในตอนนั้นไม่ดีนัก คุณพ่อเริ่มรู้สึกว่าแข่งขันไม่ไหวจึงอยากจะวางมือ และขายกิจการต่อให้กับบริษัทอื่น
แต่ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ยืนยันว่าจะขอสานต่อธุรกิจที่บ้านให้ดีขึ้น ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้เรียนจบบริหารมาเลย
“จบการศึกษาด้านเภสัชศาสตร์แต่มาทำธุรกิจรีเทล เพราะเห็นว่าเป็นธุรกิจที่ดี เกิดประโยชน์มากมาย มีการพัฒนาประเทศ”
แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ตัดสินใจกลับมาบริหารธุรกิจของครอบครัวในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายการค้า บริษัท เดอะมอลล์ ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จำกัด ซึ่งเธอบอกในรายการสุริวิภาว่า แรก ๆ ที่เข้าไปช่วยงานที่บ้านคุณพ่อบอกให้ไปเดินดูห้างสรรพสินค้าอื่น เช่น เซนทรัล และไปดูรายละเอียดว่าในห้างฯ เขามีอะไรวางขายบ้าง ทำแบบนั้นอยู่หลายเดือนช่วงเตรียมตัว
“ช่วงที่เริ่มต้นในตำแหน่งผู้จัดการด้วยอายุเพียง 23-24 ปี เราพยายามสร้างเครดิตให้ตัวเองมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น จึงไปเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยมหิดล จากนั้นก็ต้องพยายามเรียนรู้งานให้หนัก เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ แต่อาจจะเพราะห้างฯ เราเล็กมากในตอนนั้นจึงทำให้ร้านค้าที่มาเปิดก็ไม่ปรับสบความสำเร็จ”
ท้ายที่สุด เดอะมอลล์ ราชดำริ ที่สร้างขึ้นโดย ‘ศุภชัย อัมพุช’ คุณพ่อของแอ๊ว - ศุภลักษณ์ ก็ปิดตัวลงเพราะว่าขนาดเล็กกว่าห้างฯ อื่น และอยู่ทำเลใจกลางเมืองซึ่งรู้สึกว่าแข่งขันไม่ได้ พอตกผลึกทางความคิดได้ก็พบว่า ‘ชานเมือง’ ยังไม่มีคู่แข่ง เป็นย่านที่อยู่อาศัย และน่าจะประสบความสำเร็จได้
กลยุทธ์ของ เดอะ มอลล์ ในตอนนั้นครอบครัวตระกูลอัมพุช ได้ปรึกษากันและสรุปที่ตรงโมเดลใหม่ของห้างฯ ต้องขยายใหญ่กว่าเดิม เป็นห้างฯ ที่ไม่ใช่แค่คนมาซื้อของ แต่มีโรงภาพยนตร์, ลานไอซ์สเก็ต มีความบันเทิงอื่น ๆ อยู่ในห้างฯ ด้วย ถือว่าเดอะ มอลล์ เป็นผู้บุกเบิกโมเดลนี้เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครทำ
แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ได้พูดย้ำมาตลอดว่า “ถ้าเราอยากเป็นผู้นำ เราต้องกล้าคิด กล้าทำ โดยต้องเรียนรู้ พัฒนา และศึกษาอย่างดีด้วย คุณพ่อสอนเสมอว่า ความคิดเหมือนเส้นผมบังภูเขา เพราะบางคนก็คิดออกบางคนคิดไม่ออก”
ด้วยแนวคิดนี้ของ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ย้อนไปในยุคเริ่มต้นของเดอะ มอลล์ สาขาที่ 2 เธอมีความฝันว่าอยากจะเห็นห้างฯ สักที่หนึ่งที่อยู่ใจกลางเมืองและมีชื่อเสียงมาก ๆ ในยุคที่เธอบริหาร นั่นจึงเป็นที่มาของการสร้าง ‘สยามพารากอน’ หลังจากที่มีเดอะ มอลล์ มาแล้วกว่า 9 สาขา
“อยากทำศูนย์การค้าที่เป็นของคนไทย คนไทยทำเอง เพราะสมัยก่อนลำบากมากเวลาเดินทางไปต่างประเทศ เพราะแทบจะไม่มีใครรู้จักประเทศไทย ส่วนคนที่รู้จักก็มองผู้หญิงไทยเป็นอีกแบบหนึ่ง”
จนมาวันนี้ความฝัน ความหวัง และความมุ่งมั่น ทำให้ แอ๊ว - ศุภลักษณ์ ประสบความสำเร็จอย่างมากเกินที่ตัวเธอเองจินตนาการได้ ทั้งเส้นทางชีวิตบางส่วน ความคิดมุมมองเรื่องการทำธุรกิจ จนมาถึงรางวัลต่าง ๆ ที่เชิดชูผู้หญิงคนนี้ ถือได้ว่าเธอเปรียบเสมือนเป็นบุคคลต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจอื่นได้อีกมาก ทั้งอุตสาหกรรมค้าปลีกและอุตสาหกรรมอื่นด้วยเช่นกัน
ภาพ: The Mall Group
อ้างอิง: