21 พ.ค. 2566 | 15:30 น.
“ตอนเด็ก ๆ ผมอยากเป็นนักฟุตบอลมาก แต่ก็ต้องเก็บความฝันนั้นไป เพราะผมไม่มีวันเก่งพอที่จะใช้ฟุตบอลมาเลี้ยงตัวเอง จากความหลงใหลตรงนั้นเลยเปลี่ยนมาเป็นความสนใจด้านไอที”
เบน ฟรานซิส (Ben Francis) ชาวเมืองโซลิฮัลล์ ประเทศอังกฤษ เริ่มทำธุรกิจเล็ก ๆ ที่ห้องนอนของเขาขณะอายุ 19 ปีโดยมีคุณย่าคอยถ่ายทอดวิชาการตัดเย็บเสื้อผ้าให้ไม่ห่างกาย
“ผมเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่ง ซึ่งบอกตามตรงว่าบางอย่างผมได้เรียนรู้จากนอกห้องเรียนด้วยซ้ำ ตอนอายุ 17 ผมก็เลยสมัครคอร์สเรียนไอที เชื่อไหมว่ามันเหมือนโลกอีกใบ ผมไม่เคยเรียนรู้อะไรพวกนี้จากในห้องเรียนเลย แต่ผมเจอมันที่นี่ พวกเขาสอนให้ผมลงมือปฏิบัติไม่ใช่แค่เรียนตามตำราไปวัน ๆ”
เบน เกิดในปี 1992 ในครอบครัวที่สอนให้เขารู้จักถ่อมตัว และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เขาจึงเติบโตมาด้วยความอ่อนน้อมแต่ก็มีความแข็งกร้าวและมุ่งมั่นอยู่ในตัว เขาเป็นเด็กหนุ่มผู้ทำงานหนัก ตื่นเช้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแอสตัน (Aston University) สาขาธุรกิจและการจัดการ หลังเรียนเสร็จก็ขับรถส่งพิซซ่าต่อถึง 4 ทุ่มของทุกวัน และแวะเข้ายิมหลังส่งพิซซ่าถาดสุดท้ายเสร็จ เขาทำงานหนักมาโดยตลอดมีเพียงความฝันเดียว นั่นคืออยากเป็นเจ้าของธุรกิจ
ผลของพยายามไม่สูญเปล่า จากเด็กส่งพิซซ่าที่เรียนก็ไม่เก่ง อีกทั้งความสามารถด้านกีฬาก็ไม่เด่น แถมยังคิดการณ์ไกลอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ผลักให้เขากล้าที่จะลองผิดลองถูก เขาทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เริ่มแรกรับอาหารเสริมมาขายร่วมกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ‘ลูอิส มอร์แกน’ (Lewis Morgan) ผ่านทางออนไลน์ แต่เมื่อเทียบกับผลกำไรที่ได้รับนั้น กลับไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร เขาจึงพับโครงการดังกล่าว และเริ่มคิดหาทางทำธุรกิจตัวใหม่แทน
จากความรักในการออกกำลังกาย ทำให้เขามองเห็นช่องโหว่บางอย่าง นักเพาะกายบางคนสวมเสื้อผ้าที่ดัดแปลงกันเอง เพราะไม่มีแบรนด์กีฬาไหนสามารถทำให้เข้ากับสรีระของพวกเขาได้ อีกทั้งการดีไซน์เองก็ยังไม่โดดเด่น
ทันทีที่เห็น เขาตรงปรี่กลับบ้านขอให้คุณย่าช่วยสอนตัดเย็บเสื้อผ้าทันที แม้คุณย่าจะเป็นช่างเย็บผ้าม่านแต่เขารู้ดีว่าคงไม่มีช่างเย็บผ้าคนไหนยินดีสละเวลามาสอนเขาได้เท่ากับคนในครอบครัวอีกแล้ว
จากนั้น เบนและมอร์แกน ตัดสินใจร่วมกันลงทุนซื้อเครื่องเย็บผ้ามาใช้ เสื้อกีฬาตัวแรกทั้งคู่ก็เป็นคนทดลองใส่เอง เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง พวกเขาวางจำหน่ายเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ชื่อว่า Gymshark บนเว็บไซต์ ประจวบกับเขาเข้าใจเทรนโลกที่เปลี่ยนไป จึงได้ทำการทุ่มเงินลงทุนก้อนโต ส่งชุดออกกำลังกายไปให้กับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ (ในปี 2020 มอร์แกนขายหุ้นในส่วนของตัวเอง เป็นมูลค่าประมาณ 130 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง General Atlantic)
ผลตอบรับเข้ามาอย่างถล่มทลาย เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าแบรนด์กีฬาเล็ก ๆ ไร้ชื่อ แถมยังไม่มีพรีเซนเตอร์ชื่อดังมาร่วมโฆษณา มีเพียงอินฟลูเอนเซอร์มากหน้าหลายตาบนโลกออนไลน์ใส่ชุดออกกำลังกายของเขา จะสามารถแข่งกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ครองตลาดมานานอย่าง Nike และ Adidas ได้
กลยุทธ์ดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Gymshark เติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ยังเทียบไม่ได้กับการที่เขาตัดสินใจไปเช่าพื้นที่ภายในงาน BodyPower Expo ซึ่งรวมเหล่าคนรักการออกกำลังกายทั่วสหราชอาณาจักรมาไว้ที่เดียว
หลังจบงาน Gymshark มีรายได้ขยับอย่างก้าวกระโดดจาก 300-400 ดอลลาร์ต่อวันเป็น 50,000 ดอลลาร์ภายใน 30 นาที ส่วนบนเว็บไซต์ก็ขายหมดเกลี้ยง
เดือนสิงหาคม 2020 General Atlantic ได้ซื้อหุ้น 21% ของแบรนด์ไปในราคาเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ โดย Forbes ประมาณการมูลค่าของหุ้นส่วนที่เหลืออยู่ในความครอบครองของ Francis ว่ามีมูลค่ามากกว่า 900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นมูลค่าในระดับสตาร์ตอัปยูนิคอร์น
และนั่นทำให้เขากลายเป็น 1 ใน 3 มหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในสหราชอาณาจักร ขณะอายุเพียง 30 ปี
เบน ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยและพนักงานส่งพิซซา เพื่อทุ่มเวลาไปกับการพัฒนาแบรนด์ให้ออกมาดีที่สุด ปัจจุบันบริษัทของเขามีพนักงานราว 900 คน และชุมชน Gymshark ก็ขยายตัวไปเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการวางรากฐานของแบรนด์ไว้จนแข็งแกร่ง และลาออกจากตำแหน่งในปี 2015 เนื่องจากต้องการไปเรียนรู้ทักษะการเป็นผู้นำเพิ่มเติม ก่อนจะกลับมารับตำแหน่ง CEO อีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2021
ในปี 2022 เบน ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น MBE (Member of the Most Excellent Order of the British Empire) เป็นหนึ่งในนักธุรกิจเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญ คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
แนวทางการทำธุรกิจของเบนมีเพียงไม่กี่อย่าง นั่นคือ จงทำงานหนัก และอ่อนน้อมเข้าไว้ เพราะเขาเชื่อว่าการทำงานหนักไม่เคยทรยศใคร และอย่าลืมที่จะเปิดรับทุกโอกาส เพื่อให้ตัวเองได้เรียนรู้ทุกอย่างอย่างเต็มที่โดยไม่มีอีโก้มาคอยบดบัง
อ้างอิง
https://central.gymshark.com/article/the-official-gymshark-story