11 ก.ค. 2567 | 18:36 น.
เพราะ ‘นักแต่งเพลง’ คือหนึ่งบุคลากรสำคัญของระบบนิเวศเพลงไทย การเข้าถึงสิทธิและผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม คือจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเพลงไทยสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 The People มีโอกาสได้เข้าร่วมงานฉลองครบรอบ 30 ปี บริษัท ลิขสิทธิ์ดนตรี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MCT องค์กรนักแต่งเพลงไทยที่มีเป้าหมายเพื่อการพิทักษ์ผลประโยชน์ทางลิขสิทธิ์ สนับสนุนให้นักแต่งเพลงสามารถดูแลและบริหารสิทธิในงานสร้างสรรค์ของตนเองได้
งานจัดขึ้น ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมสวิสโซเทล รัชดา กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Celebrating 30 Years of Music Excellence and Building Our Future Together บอกเล่าเรื่องราวการสร้าง MCT ที่ริเริ่มเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน จากวันที่การสร้างความเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ของนักแต่งเพลงยังเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากไม่ได้ให้ความสนใจ สู่วันที่ทุกคนเข้าใจ ไว้ใจ และองค์กรเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
“กว่าจะมาถึงวันที่องค์กรเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เรียกได้ว่า MCT ต้องเดินทางผ่านร้อนผ่านหนาว โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เผชิญขวากหนามมากมาย” อาจารย์วิรัช อยู่ถาวร กรรมการผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ย้อนเล่าถึงวันวาน
การก้าวสู่ทศวรรษต่อไปของ MCT ได้ปักหมุดหมาย พาอุตสาหกรรมเพลงไทยให้เติบโตไปข้างหน้า โดยเฉพาะนักแต่งเพลงที่อยู่ต้นน้ำของอุตสาหกรรม พร้อมทั้งจับมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนนำเทคโนโลยีเครื่องไม้เครื่องมือล้ำสมัยเข้ามาพัฒนาให้ระบบนิเวศนี้น่าอยู่และเอื้อให้ทุกคนมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น โดยสามารถติดตามมูลค่าจากการจัดเก็บค่าสิทธิที่ได้จัดสรรให้สมาชิกนักแต่งเพลงตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันได้ทางเว็บไซต์ mct.in.th
งานนี้ยังเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของเพื่อนพ้องสมาชิกนักแต่งเพลงทั่วฟ้าเมืองไทย องค์กรเครือข่ายจากนานาประเทศ ที่บินลัดฟ้ามาร่วมแสดงความยินดี พร้อมให้คำมั่นสัญญาในการจับมือกัน ร่วมยกระดับเรื่องลิขสิทธิ์ดนตรีให้เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
นำโดย Mr.Benjamin Ng ตำแหน่ง Regional Director for Asia-Pacific จาก CISAC, Mr. Chu Ga Yeoul ประธานกรรมการ จาก KOMCA ประเทศเกาหลีใต้, JASRAC จากญี่ปุ่น, MUST จากไต้หวัน, MACP จากมาเลเซีย, VCPMC จากเวียดนาม, MACA จากมาเก๊า, FILSCAP จากฟิลิปปินส์, COMPASS จากสิงคโปร์, BUMA STEMRA จากเนเธอร์แลนด์ และ CASH จากฮ่องกง รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการดนตรี ที่ต่างให้ความสนใจ เดินทางมาร่วมฉลองกันอย่างคับคั่ง บรรยากาศของงานจึงห้อมล้อมไปด้วยความสุขและรอยยิ้มจากสมาชิกหลายร้อยชีวิตในอุตสาหกรรมดนตรี
นอกจากการเฉลิมฉลอง ในทุก ๆ ปี MCT จะจัดการประชุมสามัญประจำปีขึ้น และยังมีวาระสำคัญอย่างการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ที่จะมาสานต่อภารกิจของบริษัทจากคณะกรรมการชุดเดิมที่ครบวาระแล้ว
ผลการเลือกตั้ง ณฐพล ศรีจอมขวัญ ได้รับความไว้วางใจจากบรรดาสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร เป็นสมัยที่ 3 ร่วมกับคณะกรรมการทั้ง 11 ท่าน ได้แก่ ธารณ ลิปตพัลลภ คชภัค ผลธนโชติ ดนุภพ กมล ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ พงศ์จักร พิษฐานพร สุดเขต จึงเจริญ ตรัย ภูมิรัตน อิทธิพล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ต่อพงศ์ จันทบุบผา อรวรรณ วิรัตนโภคิน และ Ms.Jacqueline Chang
“ถ้าเปรียบกับชีวิตของคน MCT ในวัย 30 ปี คือคนที่เติบโตผ่านวัยเด็ก วัยรุ่น เข้าสู่วัยกลางคนแล้ว จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ระลึกถึงคุณงามความดีของครูเพลง คณะกรรมการบริหารในอดีตที่ผ่านมา ถึงวันนี้ ผมเชื่อว่า องค์กรเราได้สร้างประโยชน์ให้วงการเพลง และหวังว่าจะทำได้มากขึ้นไปอีกในอนาคต”
ก้อ ณฐพล ประธานกรรมการบริหาร ให้วิสัยทัศน์ต่อการขับเคลื่อนองค์กร พร้อมทั้งชวนแขกผู้มาร่วมงานดื่มอวยพรฉลองให้กับการพา MCT ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4
ช่วงที่เป็นไฮไลต์ของงาน สร้างรอยยิ้มและเสียงเชียร์จากผู้มาร่วมงานได้ไม่น้อยคือการเซอร์ไพรส์เปิดตัว ‘น้องมิวมิว - The Conductor’ มาสคอตตัวแทนองค์กร ที่สะท้อนแนวคิด ‘ALWAYS BESIDE YOU’ คอยอยู่เคียงข้างและสนับสนุนเพื่อนนักแต่งเพลง ติดปีกวงการเพลงไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล
จากนั้นเข้าสู่การประกาศรางวัล MCT Music Awards 2024 เพื่อแสดงความยินดีและเชิดชูเกียรติ ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกนักแต่งเพลง รางวัลแบ่งเป็น 5 สาขา ประกอบด้วย
ปิดท้ายด้วยการแสดงสุดพิเศษจาก ‘No One Else’ ที่ทางศิลปินได้ตั้งใจรังสรรค์ลิสต์เพลงขึ้นมา พร้อมทั้งนำเพลงของศิลปินที่ชื่นชอบมามอบความสุขในสไตล์หวาน ๆ ตามแบบฉบับของวง และยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ ชวนศิลปินผู้สร้างสรรค์เพลงดังแห่งยุค ‘ดาวหางฮัลเลย์’ อย่าง ‘ข้าว Fellow Fellow’ มาร่วมร้องเพลงของทั้งคู่ให้กลายเป็นเวอร์ชันสุดพิเศษ โมเมนต์แห่งความทรงจำที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากงานนี้
งานฉลองครบรอบ 30 ปีในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นก้าวแห่งความสำเร็จขององค์กรผู้ต้องการพิทักษ์สิทธิและผลประโยชน์ให้นักแต่งเพลงแล้ว ยังเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมเพลงไทย สะท้อนถึงความสามัคคีของคนในอุตสาหกรรมดนตรี ที่พร้อมใจส่งพลังขับเคลื่อนวงการเพลงไทยให้ก้าวหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืน