Front Page: ใครเป็นชู้ใคร ยังฟ้องได้หมด แถมฟ้องได้ไม่เกี่ยงเพศ เพื่อความเท่าเทียม

Front Page: ใครเป็นชู้ใคร ยังฟ้องได้หมด แถมฟ้องได้ไม่เกี่ยงเพศ เพื่อความเท่าเทียม

Front Page ขอย้ำให้ทุกคนรู้ว่า ใครเป็นชู้ใคร ยังฟ้องได้หมด แถมฟ้องได้ไม่เกี่ยงเพศ เพื่อความเท่าเทียม

ใครเป็นชู้ใคร ยังฟ้องได้หมด แถมฟ้องได้ไม่เกี่ยงเพศ เพื่อความเท่าเทียม 

หากใครที่อ่านข่าวจากพาดหัวผ่าน ๆ ที่ว่า “ศาลรธน.สั่งยกเลิก กม.ฟ้องชู้” หรือ “ต่อไปจะฟ้องชู้ไม่ได้แล้ว” หรือกระทั่งว่า “กฎหมายฟ้องชู้ขัดรัฐธรรมนูญ” หากไม่เข้าไปอ่านเรื่องราวดี ๆ อาจจะเข้าใจไปเช่นนั้น 

เรื่องการฟ้องชู้ ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กำหนดไว้ ในมาตรา 1523 วรรคสองว่า “สามีจะเรียกค่าทดแทนจาก ผู้ซึ่งล่วงเกินภริยา ไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่น ที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้”  

อ่านจบ จะเข้าใจได้ทันทีว่า สามีจะเรียกค่าทดแทนจากใครเพศไหนก็ได้ ที่มาล่วงเกินภริยา ในทำนองชู้สาว แต่ถ้าเป็น ฝ่ายภริยาจะเรียกค่าทดแทนได้เฉพาะ ‘หญิงอื่น’ ที่มาแสดงตนโดยเปิดเผย เท่านั้น 

ตรงนี้เองที่ กฎหมายมีปัญหา คือขัดต่อความเสมอภาคความเท่าเทียม ที่ฝ่ายสามีฟ้องได้ไม่เลือกหน้า ในขณะที่ ฝ่ายภริยา ฟ้องได้เฉพาะ ‘หญิงอื่น’ หากเป็นเพศอื่น ๆ ที่มาเกาะแกะกับสามีตัวเอง ฟ้องไม่ได้ 

เมื่อเห็นว่า กฎหมายน่าจะมีปัญหา ทางผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย (เป็นหนึ่งในอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อเห็นว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ให้เสนอเรื่อง พร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ) 

เมื่อผู้ตรวจการส่งเรื่องไป ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัย จากนั้นก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสอง ดังกล่าว ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญตามมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสาม และกำหนดบังคับให้คำวินิจฉัยมีผลเมื่อพ้น 360 วันนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย 

(เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสาม ระบุว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพ และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลจะกระทำมิได้) 

และนี่เอง เป็นที่มาของการแก้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ดังนั้น ภริยาจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากใครที่เป็นชู้ก็ได้ จะเป็นชาย หรือ หญิง หรือ LGBTQ ฟ้องได้หมด 

กฎหมายที่แก้จะมีผล เมื่อครบ 360 วัน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาและผูกพันทุกองค์กร ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการแก้ไขกฎหมายตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 

สรุปอีกครั้ง กฎหมายฟ้องชู้ยังอยู่ครบถ้วน แถมเพิ่มความเสมอภาค ใครเป็นชู้ใคร ยังฟ้องได้หมด แถมฟ้องได้ไม่เกี่ยงเพศ เพื่อความเท่าเทียม 

 

เรื่อง: เสาวลักษณ์ สวัสดิ์กว้าน