13 พ.ค. 2567 | 19:44 น.
‘บิลล์ เกตส์’ ไม่ได้เป็นเพียงต้นแบบในการทำธุรกิจ แต่ในแง่การใช้ชีวิต เขาก็สามารถตกผลึกความคิดได้อย่างแหลมคม
หลายคนทราบดีว่าอภิมหาเศรษฐีผู้นี้เรียนไม่จบปริญญาตรี เพราะเลือกจะออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หลังจากเข้าไปเรียนได้ 3 เทอม เพื่อไปเริ่มต้นบริษัท ‘ไมโครซอฟท์’
แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูง และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง แต่ก็ไม่บ่อยนักที่เขาจะไปกล่าว ‘สุนทรพจน์วันรับปริญญา’
กระทั่งเดือนพฤษภาคม 2023 เขารับหน้าที่นี้อีกครั้งที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น แอริโซนา ซึ่งนับเป็นการกล่าวสุนทรพจน์วันรับปริญญาครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยได้พูดถึง “5 คำแนะนำที่เขาอยากได้ยินในวันจบการศึกษา”
หนึ่งในข้อที่เราอยากหยิบยกมาให้อ่านกันในวันเริ่มต้นสัปดาห์แบบนี้ ไม่ได้หวังจะโบยตีให้มนุษย์งานทุกคนวิ่งไปสุดฝีเท้าเพื่อไปสู่เป้าหมาย หรือหมกมุ่นอยู่กับการทำงานจนเงยหน้ามาอีกที ความสัมพันธ์ระหว่างคนรอบข้างก็ขาดสะบั้นลงแล้ว…
สิ่งที่บิลล์ เกตส์ พูดเป็นข้อสุดท้ายในการกล่าวสุนทรพจน์วันนั้นคือ “ชีวิตมีอะไรมากกว่างาน”
เขาพยายามบอกทุกคนว่า การที่เรา ‘ผ่อนปรน’ ให้ตัวเองบ้าง ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคน ‘เกียจคร้าน’ จริงอยู่ที่การทำงานหนักอาจทำให้เราได้รับค่าจ้างเพิ่ม หรือเป็นบันไดไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในองค์กร “แต่คุณไม่ควรทำงานหนักจนต้องแลกกับการใช้ชีวิต”
เขายอมรับว่า เขาเรียนรู้เรื่องนี้ช้าเกินไป “ตอนที่ผมอายุเท่าคุณ ผมไม่เชื่อเรื่องวันหยุดพักผ่อน ผมไม่เชื่อเรื่องวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมไม่เชื่อว่าคนที่ทำงานกับผมควรต้องหยุด”
เขาบ้างานถึงขั้นคอยจับตาพนักงานไมโครซอฟท์ว่าใครมาทำงานสาย และใครออกไปก่อนเวลาบ้าง
กระทั่งเขากลายเป็นพ่อคน เขาจึงตระหนักว่า คุณค่าของชีวิตไม่ได้มีแค่เรื่องงาน
“อย่ารอนานเท่าผม จงใช้เวลาในการทะนุถนอมความสัมพันธ์ของคุณ เฉลิมฉลองความสำเร็จของตัวเอง และเพื่อกู้คืนจากความสูญเสีย หยุดพักเมื่อคุณต้องการ ทำให้คนรอบข้างสบายใจเมื่อพวกเขาต้องการเช่นกัน”
สวัสดีวันจันทร์ค่ะ