สวัสดีวันจันทร์: “ผมไม่เคยพ่ายแพ้ ผมเพียงแต่ชนะหรือเรียนรู้”

สวัสดีวันจันทร์: “ผมไม่เคยพ่ายแพ้ ผมเพียงแต่ชนะหรือเรียนรู้”

สวัสดีวันจันทร์: “ผมไม่เคยพ่ายแพ้ ผมเพียงแต่ชนะหรือเรียนรู้” โดย ‘เนลสัน แมนเดลา’

“ผมไม่เคยพ่ายแพ้ ผมเพียงแต่ชนะหรือเรียนรู้” 

นี่เป็นคำพูดอมตะของ ‘เนลสัน แมนเดลา’ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนระดับโลก ที่พยายามบอกพวกเราให้ก้าวไปข้างหน้า มองเห็นด้านดีของสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จงมองโลกในแง่ดีเข้าไว้

แต่ปัญหาคือประโยคนี้อาจถูกนำไปใช้หรือตีความได้หลายแบบ และบางคนดันตีความเข้าข้างตัวเองเกินงาม ทำให้เกิดความล้มเหลวผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไปไม่ถึงความสำเร็จเสียที เพราะคิดว่าตัวเองจะทำผิดเท่าไรก็ได้ โดยอ้างว่ามันคือการเรียนรู้!

หากเป็นเช่นนั้น คุณก็ควรจะถามตัวเองอีกครั้งว่า คุณได้เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นจริงหรือไม่? 

วันเริ่มต้นสัปดาห์แบบนี้เราเลยอยากชวนทุกคนมาพิจารณาใน 2 ข้อ เพื่อการเรียนรู้จากความผิดพลาด และหลีกเลี่ยงการทำผิดซ้ำไปซ้ำมา 

ข้อแรก คุณต้องแน่ใจว่าได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองจริง ๆ นั่นหมายความว่า คุณต้อง ‘ยอมรับ’ ความผิดพลาดของตัวเองก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้ความกล้าหาญในการยอมรับต่อหน้าคนอื่นหรือต่อหน้าสาธารณะเลยก็ได้ เพื่อให้คุณได้ตระหนักรู้ในตัวเองมากขึ้น 

หลังจากนั้นต้องพยายามหาต้นตอหรือสาเหตุของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อที่ครั้งต่อไปคุณจะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก 

ข้อสองคือ คุณต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่นด้วย เพราะว่าคุณไม่มีวันมีชีวิตอยู่ได้นานพอที่จะทำผิดพลาดไปเสียทุกเรื่องหรอก ฉะนั้นคุณต้องเรียนรู้จากคนอื่น หากคุณต้องการทางลัดในการประสบความสำเร็จ

ดูอย่างแมนเดลา ในช่วงปี 1950 ตอนกลางวันเขาทำงานเป็นทนายความ พอตกกลางคืนไปรับจ๊อบเป็นนักมวย ซึ่งทำให้เขาได้เรียนรู้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการมองหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ตรงหน้า แล้วปล่อยหมัดฮุคใส่เป็นอันจบฉากการต่อสู้ในคราเดียว 

การจับจุดอ่อนคู่ต่อสู้ อันที่จริงก็คือการเรียนรู้ความผิดพลาดของคนอื่นนั่นแหละ 

อีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนว่า แมนเดลาพยายามเข้าถึงใจของฝั่งตรงข้ามหรือ ‘ศัตรู’ คือช่วงที่เขาตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหากบฏ ในเรือนจำที่น่าหวาดหวั่น เขายังคงสงบนิ่งและเรียนรู้ศาสตร์การเข้าถึงหัวใจคนด้วยการเรียนภาษา วัฒนธรรม และพยายามผูกมิตรกับผู้คุม

ท้ายที่สุด เขาจึงกลายเป็นนักโทษทางการเมืองที่คนนิยมชมชอบ เพราะพูดภาษาอัฟริคานส์ได้อย่างไร้ที่ติ และเข้าถึงใจคนรากหญ้าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง 

แต่ถึงจะเป็นที่รักของคนหมู่มาก ชีวิตในเรือนจำของแมนเดลาก็ไม่ได้สุขสบาย หากแต่เขาก็ไม่เคยคิดทิ้งอุดมการณ์อันแรงกล้า และพยายามจะทำความรู้จักฝ่ายตรงข้ามให้แจ่มชัด เพราะรู้ว่าเป็นหนทางแห่งการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งวิถีดังกล่าวทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากศัตรู และนำมาสู่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่

“วินาทีนั้นผมจึงได้เข้าใจกระจ่างแจ้งกว่าครั้งใด ๆ ว่าการต่อสู้เพื่ออิสรภาพนั้นมิใช่การปลดปล่อยคนดำจากการเป็นทาส แต่เป็นการปลดปล่อยคนขาวจากความหวาดกลัว”

บนเส้นทางการต่อสู้ของ ‘เนลสัน แมนเดลา’ นั้น ไม่ได้สวยหรูหรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ เขายอมติดคุกนานถึง 27 ปี แต่ไม่มีวันไหนที่เขาคิดว่าตัวเองกำลังพ่ายแพ้ เขาทุ่มเทวันเวลาเหล่านั้นเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจทุกฝ่ายอย่างไม่ย่อท้อ จนนำไปสู่การยกเลิกนโยบายแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ และกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ได้มาจากระบอบประชาธิปไตย 

ขอให้เรื่องราวการต่อสู้และการเรียนรู้ของแมนเดลา เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของทุกคนในวันนี้นะคะ

 

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ
พาฝัน ศรีเริงหล้า