สวัสดีวันจันทร์: “อย่าวางแผน แต่จงสร้างทางเลือก”

สวัสดีวันจันทร์: “อย่าวางแผน แต่จงสร้างทางเลือก”

สวัสดีวันจันทร์สัปดาห์นี้ ขอหยิบยกคำพูดของ ‘เจนนิเฟอร์ อนิสตัน’ ที่กล่าวว่า “ฉันมักจะพูดว่าอย่าวางแผน แต่จงสร้างทางเลือก”

“ฉันมักจะพูดว่าอย่าวางแผน แต่จงสร้างทางเลือก”

ไม่ใช่เฉพาะคนอย่างเรา ๆ หรอก ที่ต้องประสบพบเจอ ‘ความผิดหวัง’ และอะไรที่ไม่เป็นไปตาม ‘แผน’ ที่วางไว้ แม้แต่ ‘เจนนิเฟอร์ อนิสตัน’ เอง ถึงจะร่ำรวยและโด่งดังระดับโลก หลายต่อหลายครั้งชีวิตของเธอก็ไม่เป็นไปตามแผนเหมือนกัน

ที่ชัดสุดเห็นจะเป็นเรื่อง ‘ชีวิตรัก’ ของเธอกับ ‘แบรด พิตต์’ 

สองนักแสดงดาวรุ่งแห่งยุค 90s เข้าพิธีวิวาห์อย่างหวานชื่นเมื่อปี 2000 จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่เอิกเริกที่ย่านมาลิบู รัฐแคลิฟอร์เนีย มีสักขีพยานเป็นคนดังระดับแนวหน้าไปร่วมงาน 200 ชีวิต หรูหราฟู่ฟ่าถึงขั้นมีการทำกำแพงคาเวียร์เพื่อให้แขกได้กินกันแบบจุใจไม่อั้น กลายเป็นงานแต่ง Talk of the Town ที่ได้รับการจดจำและกล่าวขานจนถึงทุกวันนี้

แต่ถึงจะสวยหล่อเหมาะสมกับขนาดไหน ทุ่มเทปรนเปรอให้กับความรักครั้งนี้มากเพียงใด ความรักของทั้งคู่ก็สิ้นสุดลงภายในเวลาเพียง 5 ปี โดยทั้งคู่ตัดสินใจหย่าร้างกันในปี 2005 หลังจากฝ่ายชายไปถ่ายหนังเรื่อง ‘Mr. & Mrs. Smith’ กับนักแสดงสาวเจ้าเสน่ห์ ‘แองเจลินา โจลี’ 

กว่าเจนนิเฟอร์ อนิสตัน จะกลับมาสตรองและเป็นเพื่อนกับอดีตสามีได้อย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะในขณะที่อีกฝ่ายเริ่มต้นชีวิตรักครั้งใหม่อย่างดี๋ด๋า ฝั่งเจนนิเฟอร์ถึงขั้นต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อรับมือกับการแยกทาง แถมตอนนั้นยังได้รับการเสนอให้เล่นหนังเรื่อง ‘The Break-Up’ (เตียงหักแต่รักไม่เลิก) ซึ่งเป็นเหมือนตลกร้ายในชีวิตของเธอ เพราะหนังเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของอดีตคู่รักหวานแหววที่ยุติความสัมพันธ์กัน แต่ต่างคนต่างไม่มีใครยอมย้ายออกจากคอนโด และพยายามบีบให้อีกฝ่ายต้องย้ายออกไปแทน 

แม้พลอตเรื่องจะชวนให้นึกถึงความหลัง แต่เจนนิเฟอร์ก็ยอมรับเล่นหนังเรื่องนี้ ซึ่งท้ายที่สุดทำให้เธอเซอร์ไพรส์มาก เพราะประสบการณ์ในหนังเรื่องนี้ช่วยฮีลใจเธอได้พอสมควร 

“ในแง่หนึ่ง มันเป็นสิ่งที่ช่วยชำระล้างจิตใจ ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก หากมีคนเสนอหนังเรื่องนี้ให้ฉันเล่นในเวลาอื่น ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถบรรลุถึงระดับที่ฉันต้องการในฐานะนักแสดงหรือไม่”  

ภายหลังการหย่าร้างที่สั่นสะเทือนฮอลลีวูด อีก 5 ปีต่อมา เจนนิเฟอร์พบรักและแต่งงานอีกครั้งกับนักแสดงรุ่นน้อง ‘จัสติน เทอโรซ์’ แต่ก็จบลงด้วยการหย่าในเวลาเพียง 2 ปี   

แม้จะมีข่าวคราวความรักอีกหลายครั้งตามมา แต่มุมมองที่เธอมีต่อความรักก็เปลี่ยนไปตามประสบการณ์ที่เจอ และเธอเลือกค่อนข้างมากว่าจะให้ใครเข้ามาในใจของเธออีกครั้ง คนใกล้ตัวของเธอบอกว่า “การที่เจนนิเฟอร์รู้ว่าไม่ได้ต้องการผู้ชายมาอยู่ข้าง ๆ เพื่อความสุข นั่นเป็นการเติบโตครั้งใหญ่สำหรับเธอ เธออาจมีคืนที่เงียบเหงาบ้าง แต่เธอก็รู้สึกสงบสุขกับการอยู่คนเดียว เธอมั่นใจว่าความรักจะกลับมาอีกครั้ง”

เรื่องราวความรักของเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ให้แง่มุมอะไรหลายอย่างกับเรา ช่วงแรกเธออาจยอมรับและปรับตัวไม่ได้เช่นเดียวกับหลายคน ที่เผาเวลาไปกับการตีอกชกลม ร้องห่มร้องไห้ปานหัวใจแตกสลาย เมื่อเผชิญกับความรักที่ไม่เป็นไปตามวาดฝันไว้ แต่เมื่อมาถึงจุดที่ไม่สามารถรับมือได้เพียงลำพัง เธอก็ยอมรับความช่วยเหลือด้วยการเข้ารับการบำบัด และพยายามมองหาโอกาสจากความท้าทาย โดยเฉพาะการรับเล่นหนังที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นของคู่รัก 
 

ที่น่ายกย่องและเป็นแบบอย่างคือ เธอมองความสำเร็จด้านความรักในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม เธอไม่พยายามไขว่คว้าหาคนข้างกายอีกต่อไป เธอเคยให้สัมภาษณ์ด้วยซ้ำว่าไม่ได้คิดเรื่องการแต่งงานอีกแล้ว อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่หมดหวังที่จะมีความรักอีกครั้ง 

หวังว่าบทเรียนความรักที่ไม่เป็นไปตามแผนของ ‘เจนนิเฟอร์ อนิสตัน’ จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนไม่ถอดใจกับชีวิตที่ไม่เป็นไปตามหวัง หรืองานที่ไม่เป็นไปตามแผน เพราะเจอเข้ากับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่เหนือการควบคุม และจงมองหาโอกาสในการสร้าง ‘ทางเลือก’ ของตัวเองให้เจอโดยเร็ว เอาตัวเองออกมาจากสถานการณ์ที่ชวนให้ใจย่ำแย่ เพื่อเดินหน้าสร้างสรรค์งานดี ๆ ชีวิตที่ปกติสุข ให้ได้

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ
พาฝัน ศรีเริงหล้า