28 ม.ค. 2568 | 11:03 น.
“ใครก็ถือหางเสือได้ในยามที่ทะเลสงบ”
‘พับลิลิอุส ไซรัส’ นักปราชญ์ชาวโรมันผู้มีชีวิตที่น่าทึ่ง เขาเริ่มต้นจากการเป็นทาส แต่ด้วยปัญญาและความสามารถ ทำให้ได้รับอิสรภาพและกลายเป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียง ประโยคนี้ของเขาสะท้อนความจริงที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับภาวะผู้นำและการทำงาน
ออฟฟิศในวันที่ทุกอย่างราบรื่นนั้น ใคร ๆ ก็ทำงานได้ดี งานไหลลื่น เพื่อนร่วมงานยิ้มแย้ม ไม่มีอะไรให้กังวล เหมือนเรือที่แล่นในทะเลสงบ ไม่ว่าใครก็พาเรือไปถึงจุดหมายได้ ทุกคนดูเก่ง ทุกคนดูมีประสิทธิภาพ
แต่ชีวิตการทำงานไม่ได้สวยหรูแบบนั้นเสมอไป บางวันคุณอาจตื่นขึ้นมาพบว่าลูกค้าโวยวายเพราะงานมีปัญหา เพื่อนร่วมทีมลาป่วยกะทันหัน หัวหน้าสั่งงานด่วนที่ต้องเสร็จภายในพรุ่งนี้ ระบบล่มตอนจะส่งงานสำคัญ หรือโปรเจกต์ที่ทำมาหลายเดือนถูกยกเลิกกลางอากาศ
เข้าใจดีว่าช่วงเวลาแบบนั้นมันเหนื่อยและท้อ บางคนถึงขั้นคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ บางคนเลือกที่จะลาออก บางคนเก็บตัวและไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร บางคนระเบิดอารมณ์ใส่เพื่อนร่วมงาน ทุกคนล้วนมีวิธีรับมือกับความกดดันที่แตกต่างกันไป
จากงานวิจัยด้านจิตวิทยาของ ดร. แครอล ดเว็ค พบว่า คนเราแบ่งเป็นสองประเภท: พวกที่เชื่อว่าความสามารถเป็นสิ่งตายตัว (Fixed Mindset) และพวกที่เชื่อว่าเราพัฒนาได้เสมอ (Growth Mindset) ซึ่งมุมมองเหล่านี้มีผลอย่างมากต่อวิธีที่เรารับมือกับความท้าทายในที่ทำงาน
เมื่อเจอปัญหา คนกลุ่มแรกมักจะท้อแท้และยอมแพ้ง่าย เพราะพวกเขามองว่าความล้มเหลวคือการพิสูจน์ว่าตัวเองไม่เก่งพอ พวกเขามักพูดประโยคเหล่านี้กับตัวเอง: "ฉันมันไม่เก่งพอหรอก" "คนอื่นเขาเก่งกว่าฉัน" "ฉันคงทำไม่ได้" "งานนี้มันยากเกินความสามารถฉัน" "ฉันน่าจะลาออกไปหางานที่ง่ายกว่านี้"
ความคิดแบบนี้เป็นกับดักที่อันตราย เพราะมันทำให้เรากลัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ กลัวที่จะทำผิด และพลาดโอกาสในการพัฒนาตัวเองไปอย่างน่าเสียดาย
แต่คนกลุ่มที่สอง จะมองปัญหาเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา พวกเขาเชื่อว่า แม้วันนี้จะยังถือหางเสือไม่เป็น แต่ฝึกฝนเรียนรู้ไป ก็จะเก่งขึ้นได้ เวลาเจอปัญหา พวกเขาจะถามตัวเองว่า: "ฉันจะเรียนรู้อะไรได้บ้างจากความผิดพลาดครั้งนี้?" "ฉันจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร?" "มีวิธีแก้ปัญหานี้แบบไหนอีกบ้าง?" "ฉันจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ซ้ำได้อย่างไร?"
พวกเขามองว่าทุกปัญหาคือบททดสอบที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ทุกความผิดพลาดคือบทเรียนที่มีค่า และทุกความท้าทายคือโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนบางคนถึงรับมือกับวิกฤตในที่ทำงานได้ดีกว่าคนอื่น ไม่ใช่เพราะพวกเขาเก่งกว่า แต่เพราะพวกเขามีมุมมองต่อความท้าทายที่ต่างออกไป พวกเขาเข้าใจว่าการเติบโตในหน้าที่การงานไม่ได้มาจากความสามารถที่ติดตัวมาแต่เกิด แต่มาจากความพยายามที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ในฐานะคนทำงานด้วยกัน เข้าใจว่าบางครั้งมันไม่ง่ายเลยที่จะมองโลกในแง่บวกแบบนั้น โดยเฉพาะในวันที่ทุกอย่างดูแย่ไปหมด บางครั้งเราก็อยากจะยอมแพ้ อยากจะถอย อยากจะหนีปัญหา ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องปกติและเป็นมนุษย์มาก
แต่ลองคิดดูว่า ทุกครั้งที่คุณผ่านพายุลูกหนึ่งไปได้ คุณก็แข็งแกร่งขึ้น และพร้อมรับมือกับพายุลูกต่อไปมากขึ้น เหมือนนักเดินเรือที่ผ่านพายุมานับครั้งไม่ถ้วน จนรู้วิธีรับมือกับคลื่นลมทุกรูปแบบ
ลองถามตัวเองดู วันนี้คุณกำลังถือหางเสือในทะเลที่สงบ หรือกำลังเผชิญกับพายุในที่ทำงาน? และสิ่งสำคัญกว่านั้นคือ คุณเลือกที่จะมองมันเป็นอุปสรรค หรือโอกาสในการเติบโต?
เพราะสุดท้ายแล้ว ทะเลสงบไม่ได้ทำให้เราเป็นกัปตันที่เก่งขึ้น แต่เป็นพายุต่างหากที่จะพิสูจน์และหล่อหลอมให้เราเป็นผู้นำที่แท้จริง
สวัสดีวันจันทร์ค่ะ
พาฝัน ศรีเริงหล้า