11 ต.ค. 2562 | 11:40 น.
เมื่อกล่าวถึงอมตะแห่งนิยายไตรภาค The Lord of the Rings ผลงานการประพันธ์โดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ที่กลายเป็นภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมแห่งคริสตทศวรรษ 2000s มีตัวละครหลายตัวโลดแล่นบนโลกแห่ง Middle Earth ที่หลายคนต่างนึกถึง เช่น เหล่าฮอบบิทผู้กล้าหาญ, พ่อมดนักสู้ แกนดาล์ฟ, ราชันผู้ยิ่งใหญ่ อารากอร์น หรือเทพบุตรเอลฟ์รูปงาม เลโกลัส ทั้งหมดคือพันธมิตรแห่งแหวนที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ผจญภัยไปด้วยกัน ความเสียสละ มิตรภาพ และความกล้าหาญคือหลักสำคัญที่นำพาให้นวนิยายแฟนตาซีเรื่องนี้อมตะและครองใจผู้อ่านและคนดูมาตลอดหลายสิบปี แต่หนึ่งในตัวละครที่แบ่งขั้วอย่างชัดเจน คือไม่ชอบก็เกลียดเลย เพราะความสุดโต่งในทุก ๆ ทาง และเป็นศูนย์กลางของเรื่องนี้นั่นก็คือ กอลลัม ภูติอัปลักษณ์ที่มีทั้งด้านอ่อนโยนและน่าขยะแขยง ภายใต้รูปลักษณ์อันแสนน่าหวาดกลัวยังมีหลายสิ่งที่ซุกซ่อนไว้ ไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดตัวละครตัวนี้ เราอยากให้คุณเปิดใจทำความรู้จักกับตัวละครตัวนี้อีกครั้ง... จุดกำเนิด ผู้ครอบครองแหวนผู้เดียวดาย “มันมาหาข้า ของรักของข้า สุดที่รักของข้า” เสียงครวญครางในถ้ำที่เปรียบเสมือนตู้เซฟอันซับซ้อนและลึกสุด อสูรร่างแคระเลือกเก็บกักตัวเองเอาไว้ให้ห่างไกลผู้คน เพียงหวังครอบครองแหวนไว้กับตัวนิรันดร์ แหวนที่หลอมรวมอำนาจ ความอมตะ และพลังแห่งปัญญาเอาไว้ในวงเดียว โดยแหวนเหล่านี้ได้ถูกหลอมรวมขึ้นจำนวน 19 วง 3 วงแรกมอบให้กับพวกเอลฟ์, ผู้เป็นอมตะ มีปัญญา และคุณธรรมสูงสุด 7 วงแด่เหล่าคนแคระ ผู้ช่ำชองงานเหมือง และงานช่างฝีมือ และ 9 วงเป็นกำนัลแด่เผ่าพันธุ์มนุษย์ ผู้ซึ่งใฝ่อำนาจยิ่งกว่าสิ่งใด แต่ยังมีแหวนอีกวงที่หลอมรวมขึ้นเพื่ออยู่เหนืออำนาจของแหวนทั้งปวง จนเกิดเป็นสงครามเพื่อเข่นฆ่าและแย่งชิง ผู้คนหลากเผ่าพันธุ์ต่างสังเวยชีวิตให้กับแหวนวงนี้มากมาย นอกจากความสวยงามจะเปล่งประกาย แต่มันยังฉายความโลภและความชั่วร้ายจากก้นบึ้งในใจคนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย จากวัน เป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนเป็นปี เป็นทศวรรษ เป็นศตวรรษ ประวัติศาสตร์กลายเป็นตำนาน ตำนานกลายเป็นเทพนิยาย จนกาลเวลาผ่านไป 2,500 ปี ไม่มีใครรู้เรื่องแหวนวงนั้นอีกเลย กระทั่งเมื่อโอกาสเหมาะผู้ครอบครองรายใหม่ก็ได้รับมันมาโดยบังเอิญ และจุดเริ่มต้นแห่งสงครามยื้อแย่งแหวนก็เริ่มต้นขึ้น สมีกัล ชาวฮอบบิทธรรมดาผู้มีชีวิตอันแสนสงบสุข หาเช้ากินค่ำร้องรำทำเพลงตามวิถีของเผ่าพันธุ์คนตัวเล็กที่แสนรื่นเริงเป็นเรื่องปกติ แต่แล้ววันแห่งการเปลี่ยนแปลงก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสมีกัลได้เดินทางไปตกปลาร่วมกับเพื่อนซี้ที่ชื่อดีเอโกล ระหว่างนั้นดีเอโกลเห็นวัตถุมีค่าประกายระยิบระยับอยู่ใต้ธารน้ำ เขาหยิบมันขึ้นมาและแสงแห่งความลุ่มหลงก็ส่องประกายให้ทั้งสองต้องห้ำหั่นเพื่อแย่งชิงกันเพื่อครอบครอง สุดท้ายสมีกัลก็แย่งชิงมันมาได้สำเร็จ แลกกับการเข่นฆ่าเพื่อนรัก ความหลงใหลนำมาสู่ความลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น สมีกัลอัปเปหิตัวเองออกจากหมู่บ้าน เดินทางไปอย่างไร้จุดหมายเพียงเพื่อหาที่ลับตา เพื่อที่ว่าจะไม่มีใครมาแย่งแหวนวงนี้ได้อีกต่อไป สมีกัลร่อนเร่ไปในป่า ข้ามภูเขาลูกที่ไกลลิบ ผ่านลำธารที่ทอดยาว เขาหลบหนีจนมั่นใจว่าไม่มีใครตามตัวเจอ สมีกัลเก็บตัวอยู่ในถ้ำอันมืดมิด ประทังชีวิตด้วยปลาสด ๆ ที่หลงว่ายเข้าไปในถ้ำ วันคืนผ่านไปอย่างหวาดระแวง แม้อำนาจของแหวนจะช่วยยืดอายุขัยจนใกล้เคียงกับคำว่าอมตะ แต่รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาเกือบ 500 ปี ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นอสูรกาย ผิวหนังแปรสภาพเหี่ยวย่น ตาที่โปนโตจนแทบไม่เหลือเค้าโครงของฮอบบิท ลมหายใจอันรวยริน และการถือครองแหวนเท่านั้นที่บ่งบอกถึงการมีชีวิตของเขา ความทรงจำทั้งหมดเลอะเลือนเหลือเพียงพันธกิจที่ผูกมัดตัวเขาไว้ จนกลายเป็นเพียงอสูรกายแคระแกร็นที่พูดได้เพียงคำว่า “กอลลัม” และ “ของรักของข้า” สมีกัลกลายร่างเป็นกอลลัมที่ความทรงจำมีเพียงการเก็บซ่อนแหวนไว้กับตัว แต่แล้วกอลลัมก็ทำแหวนหล่นหายไปในถ้ำ จนเขาควานหาแทบพลิกแผ่นดิน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ บิลโบ แบกกินส์ ฮอบบิทแห่งไชร์ เกิดพลัดหลงลงไปในถ้ำของกอลลัม แหวนที่กอลลัมทำหายส่งประกายแสงส่องให้บิลโบพบกับกอลลัม ผู้คิดร้ายหมายฆ่าบิลโบกินเป็นอาหารเพื่อประทังความหิว กอลลัมชวนเล่นทายปริศนา บิลโบจำยอมเล่นจนชนะ แต่กอลลัมกลับไม่รักษาสัญญา บิลโบจึงสวมแหวนล่องหน กระโจนผ่านเจ้ากอลลัมซึ่งนั่งขวางปิดทางออกอุโมงค์ไปจนได้ และมันเป็นจุดเริ่มต้นสู่สงครามแย่งชิงแหวน เมื่อหลายปีผ่านไปกอลลัมออกตามหาแหวนและพลาดท่าถูกมหาวายร้าย เซารอน จับตัวไปทรมาน และเอ่ยนาม บิลโบ แบกกินส์ การผจญภัยไล่ล่าวงแหวนแห่งมหาอำนาจจึงเริ่มต้นขึ้น โรคสองบุคลิก คนสีเทา และความดีที่ต่อสู้กับความชั่ว แม้โครงสร้างของนิยายที่ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน วางไว้คือการสร้างตำนานยุคใหม่ให้ทัดเทียมกับตำนานกรีกโรมัน ที่แสดงให้เห็นด้านขาวจัดดำจัดของตัวละคร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ตัวโทลคีนได้ประสบนั้น ก็ทำให้มุมมองของเขาเปลี่ยนไป คนดีย่อมมีร่องรอยแห่งความเลวร้ายแฝงอยู่ และคนชั่วเองก็มีด้านสว่างที่ไม่คาดคิดเช่นกัน กอลลัมคือหนึ่งในตัวละครที่โทลคีนสร้างสรรค์ให้อยู่กึ่งกลางระหว่างความดีงามและความชั่วร้าย ด้านมืดของ กอลลัม เปรียบได้ดั่งคนที่กระหายในอำนาจ สะท้อนภาพอัปลักษณ์ของคนที่หลงใหลและใฝ่ฝันจะครอบครอง ภาพที่เห็นได้ชัด คือการฆ่าเพื่อนรักเพียงเพื่อแย่งชิงแหวน และการกระหายในแหวนวงนั้นเองทำให้เขากลายร่างเป็นอสูรอันอัปลักษณ์ มันก็สะท้อนได้ถึงอำนาจเผด็จการของผู้นำที่กระหายในลาภยศ สรรเสริญมากมาย โดยโทลคีนนำเค้าโครงมาจากเรื่องเล่าปรัมปราของชาวนอร์เวย์ที่ชื่อ โวซุงก้า ซาก้า กษัตริย์องค์หนึ่งผู้ครอบครองแหวนทองที่ทำให้มั่งคั่ง ส่งผลให้โอรสของกษัตริย์ลักลอบปลงพระชนม์พ่อของตนเองเพียงเพื่อครอบครองแหวนทองวงนั้น และแหวนวงดังกล่าวก็ได้สาปให้โอรสกลายเป็นงู โทลคีนประพันธ์นิยายเรื่องนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 คาบเกี่ยวครั้งที่ 2 ภาพของกอลลัมแสนอัปลักษณ์จึงให้ความรู้สึกไม่ต่างกับเผด็จการมากมายทั้งฮิตเลอร์, สตาลิน และส่งผลไปถึงเผด็จการรายอื่น ๆ ที่เหิมเกริมในอำนาจ แต่ก็พบจุดจบอย่างทรมานไม่ต่างกัน ขณะเดียวกัน มีหลายทฤษฏีที่สนับสนุนความเป็นมนุษย์ที่ยึดมั่นถือมั่นของเขา โดยเฉพาะเมื่อเรื่องเล่าภาคที่ 2 ตอน The Two Towers ที่พยายามใส่ความเป็นมนุษย์ให้กับกอลลัม ด้วยการใส่จิตสำนึกของสมีกัลที่ทุ่มเถียงถึงเรื่องความถูกต้องและความดีงามในร่างเดียวกัน เราจึงได้พบด้านที่อ่อนโยน มีความเป็นมนุษย์ และเป็นหนึ่งในคนที่ยึดมั่นในคำสัญญา หากมองในแง่ความโรแมนติกโดยยกเอารูปร่างอัปลักษณ์ของกอลลัมออก เขาก็ไม่ต่างกับเจ้าชายอสูรที่ไร้หัวใจภายใต้รูปร่างที่ผู้คนต่างหวาดกลัว หรือไอ้ค่อมแห่งนครนอเทรอดาม หรือแม้กระทั่งเงาะป่าที่ชวนให้คนมองข้ามภาพลักษณ์อันน่าหัวร่อ แต่มองเข้าไปในจิตใจกอลลัมเป็นเพียงชายหนุ่มผู้น่าสงสารที่มอบความรักอย่างสุดหัวใจ แหวนวงนั้นอาจเปรียบได้กับหญิงสาวสูงค่าที่หลายคนปรารถนา ที่กอลลัมยอมตายเพื่อพิสูจน์รักแท้อย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นการภักดีในตัวโฟรโดที่ครอบครองแหวน เพราะเขาเคยลั่นคำสาบานว่าจะปกป้องเจ้านายของแหวน ก่อนจะผิดใจในคำสัญญา นำมาสู่โศกนาฏกรรมที่ชวนเศร้าสลดใจ อมนุษย์ผู้เสพติดความสวยงาม สิ่งหนึ่งที่อธิบายตัวตนของกอลลัมคือการเสพติดและหลงใหลความสวยงาม มันสะท้อนภาพหลายคนในยุคปัจจุบันที่ให้ค่ากับการทำศัลยกรรมกระทั่งเข้าขั้นหมกมุ่น หรือการเสพติดความผอมจนสุขภาพร่างกายย่ำแย่ แม้แต่ แอนดี เซอร์คิส นักแสดงโมชันแคปเจอร์ก็จินตนาการท่าทางของคนติดเฮโรอีนเพื่อแสดงเป็นตัวกอลลัม ภาพกอลลัมจึงเป็นหนึ่งในภาพที่สะท้อนการหลงใหลคลั่งไคล้ ไปจนถึงการเสพติดแบบถอนตัวไม่ขึ้น รวมถึงแสดงภาพความเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ อารมณ์แปรปรวน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบุคลิกจิตเภทนั่นเอง นอกจากนั้น กอลลัมยังถูกนำไปเป็น meme เพื่อการล้อเลียนมากมาย ที่เป็นข่าวเกรียวกราวคือมีหมอหนุ่มแชร์ภาพกอลลัมเปรียบเทียบหน้าตาที่คล้ายกันกับ ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี จนเกิดการฟ้องร้อง หรือคนตัวเล็กแคระแกร็นก็มักโดนเปรียบเทียบกับกอลลัม ซึ่งผู้ที่ถูกล้อไม่ตลกด้วย เพราะเป็นการบุลลี่ และคงไม่มีใครภูมิใจในความเป็นอสูรขี้โกงและอัปลักษณ์นั้นแน่ ไม่ว่าจะเป็น อสูรผู้ถูกความงดงามจองจำ, ผู้เสพติดความสวยงาม, หนุ่มโรแมนติกผู้เสียสละเพื่อคนรัก, เผด็จการผู้แสนโลภ, คนทรยศที่ฆ่าได้แม้กระทั่งเพื่อนรัก หรือตัวตลกที่ไม่มีใครรัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากอลลัม คือหนึ่งในคาแรกเตอร์ยิ่งใหญ่ที่มีมุมมองน่าสนใจไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดก็ตาม