08 ธ.ค. 2561 | 19:36 น.
กระแส BNK48 ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยเป็นการต่อยอดความสำเร็จจาก โรงละครเล็กๆ ในห้างสรรพสินค้าดอง กิโฮเต้ ย่านอากิฮาบาระ กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น 8 ธันวาคม 2005 คือวันเปิดการแสดงรอบแรก ตลอด 13 ปีที่ผ่านมากลุ่มเหล่าเด็กสาวหลายร้อยคนได้เข้ามาตามหาฝัน บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็ล้มเหลว แต่ AKB48ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นไอดอลกรุปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องของรางวัลและยอดขาย แล้วใครล่ะคือผู้แบก 48Group ที่มีสมาชิกมากกว่า300 ร้อยคนไว้บนบ่า? เป็นเรื่องบังเอิญที่น่าสนใจเพราะ“โชคันโตคุ” หรือ ผู้จัดการทั่วไป ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเมมเบอร์กับทีมผู้บริหาร คอยรับฟังปัญหาและนำไปสู่การแก้ไขอย่าง “ยุยฮัง” โยโกยาม่า ยุยก็เกิดในวันที่ 8 ธันวาคม วันเดียวกับวันที่เปิดโรงละครเช่นเดียวกัน เด็กสาวจากเกียวโต ก้าวเข้ามาในชายคา48Groupในปี 2009 ซึ่งเส้นทางของเธอนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เธอไม่ผ่านการออดิชั่นในรุ่นที่ 8 ของ AKB48 ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งและทำได้สำเร็จในรุ่นที่ 9 ซึ่งถือว่าเป็น“Golden Generation” ของ AKB48 เพราะเป็นรุ่นที่รวมเมมเบอร์มีชื่อเสียงไว้หลายคน ทั้ง “พารูรุ” ชิมาซากิ ฮารุกะ อดีตดาวดังของวงที่ปัจจุบันผันตัวไปเป็นนักแสดง “มินะรุน”โอบะ มินะ ที่ย้ายไปประสบความสำเร็จกับ SKE48 และตัวของเธอที่ก้าวมาเป็นผู้ที่แบก48Group ไว้ เส้นทางของเธอหลังจากเข้ามาอยู่ในวงเหมือนเป็นที่เอ็นดูของรุ่นพี่และผู้บริหารที่มีส่วนในการผลักดัน ทั้งการติดเซมบัตสึคนแรกในรุ่น ภาพของเธอในบิกินี่สีแดง MV เพลง Everyday,Katyushaยังตราตรึงแฟนๆ ด้วยใบหน้าที่งดงามเหมือนสาวงามในอดีตของญี่ปุ่น รวมไปถึงเธอก้าวไปประสบความสำเร็จในการมีส่วนร่วมกับ 2 เพลงสำคัญของวงทั้งFlying Get และ Manatsu no sounds good! ที่ทำให้ AKB48 ประสบความสำเร็จชนิดที่ยังไม่มีวงไอดอลหญิงกลุ่มใดทำได้คือคว้ารางวัลJapan Record Awards ได้ถึง 2 ปีซ้อน จากนั้นเธอก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกคนสำคัญของวง โดยการก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันของทีม A หลังจากเมมเบอร์ระดับตำนานอย่าง “มาริโกะซามะ” ชิโนดะ มาริโกะ ประกาศจบการศึกษา ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ในการผลักดันเมมเบอร์รุ่นน้องให้สามารถแจ้งเกิดได้ แต่ความท้าทายใหญ่หลวงของเธอนั้นเกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อ “ทาคามินะ” ทาคาฮาชิ มินามิ เมมเบอร์รุ่นที่ 1 และโชคันโตคุคนแรกประกาศจบการศึกษา โดยกำหนดว่าจะส่งมอบตำแหน่งดังกล่าวให้เธอในวันที่ 8 ธันวาคม2015 ในวาระครบ 10 ปีของ 48Groupซึ่งทำให้ยุยฮังต้องเริ่มเรียนรู้งานเพื่อที่จะสานต่อความสำเร็จทันที เพื่อทที่จะทำหน้าที่ได้อย่างไร้รอยต่อ ยุยฮังเคยให้สัมภาษณ์ในสารคดีว่าตอนที่เธอได้รับตำแหน่งเธอเครียดมาก ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะต้องบริหารความสัมพันธ์ระหว่างเมมเบอร์และผู้บริหาร เธอเครียดถึงกับบอกว่าได้กินข้าวที่สำหรับไว้ทำซูชิหมักกับน้ำส้มสายชูจนน้ำหนักตัวของเธอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็พยายามสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของกรุปให้ก้าวไปข้างหน้า ภารกิจที่เธอได้รับส่วนมากก็คือการผลักดันให้เกิดวงน้องสาวใหม่ๆ ขึ้น เช่น BNK48ในประเทศไทยMNL48 ฟิลิปปินส์ MUM48 ที่อินเดีย SGO48 ที่เวียดนาม รวมไปถึง AKB48 TeamTP ที่ไต้หวัน และ AKB48 TeamSH ที่ประเทศจีนด้วย หากใครจดจำงาน BNK48 We Need You ที่เป็นการออดิชั่น BNK48รุ่นที่ 1 ได้ จะมีวิดีโอกล่าวต้อนรับของเธอมาเปิดเพื่อให้เหล่าสาวๆ ในประเทสไทยก้าวเข้ามาสมัครเป็นไอดอล และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เธอก็ได้เดินทางมาร่วมแสดงในงาน Japan Expo2018 ที่ลานเซนทรัลเวิลด์อีกด้วย สำหรับกิจกรรมการเลือกตั้งยุยฮังก็เป็นหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จ โดยสองครั้งล่าสุดเธอสามารถติดกลุ่ม 7อันดับแรกที่ได้รับความนิยมสูงสุด หรือที่เรียกว่า “คามิ7” ได้เพราะการทำงานหนักมาตลอดทั้งปีของเธอ และในปีนี้เองวันที่ 9 ธันวาคมหลังจากงานการแสดงวันเกิดครบรอบ13 ปี AKB48 ที่อากิฮาบาระแล้ว เธอจะลัดฟ้ามาทำการแสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในเมืองไทยครั้งแรกของ AKB48 โดยมาพร้อมกับเมมเบอร์ระดับแถวหน้าถึง 16 คน ในงาน Maya Music Festival 2018 ที่ลานโชว์ดีซี นอกจากการแสดงแล้วยังเปิดให้สามารถร่วมจับมือกับยุยฮังและเมมเบอร์คนอื่นในงานนี้ด้วยเช่นกัน เรื่อง: Ricchansama ภาพ: AKS