27 เม.ย. 2563 | 18:07 น.

จัสติน บีเบอร์ ทิ้งลิงไว้ที่เยอรมนี ไปบ่อย...แต่ไม่เคยกลับไปเยี่ยมเลยสักครั้ง

ถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยงของเหล่าคนดัง ส่วนมากก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของนุ้ง ๆ ทั้งหลายอย่างหมา, แมว หรือแม้กระทั่งนก แต่ก็มีเหล่าซูเปอร์สตาร์จำนวนหนึ่งที่นิยมชมชอบการเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ ที่คนทั่วไปเขาไม่เลี้ยงกัน อย่างเช่น เสือ, หมาป่า หรือแม้กระทั่งลิงสายพันธุ์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างกรณีของสองราชานักร้อง เอลวิส เพรสลีย์ และ ไมเคิล แจ็กสัน ที่ชื่นชอบการเลี้ยงจิงโจ้กับลิงชิมแปนซีอย่างมาก โดยเฉพาะรายหลังที่ถึงขนาดกินนอนพร้อมกับเจ้า “บับเบิ้ล” ลิงชิมแปนซีตัวโปรดเลยทีเดียว

แน่นอนว่าในการเลี้ยงสัตว์ (ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์) แบบนี้ทำให้หลายๆประเทศทั่วโลกต้องมีกฏหมายควบคุมเรื่องนี้ที่แตกต่างกันออกไปยกตัวอย่างบ้านเราหากใครอยากจะเลี้ยงหมาสักตัวก็ไม่ต้องวุ่นวายทำเอกสารรับรองอะไรเหมือนประเทศอังกฤษหรือถ้าอยากจะเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองสักตัวก็ต้องไปขอใบอนุญาตจากกรมอุทยานฯแต่ส่วนใหญ่หลายๆประเทศมักจะมีเงื่อนไขหลักเหมือนๆกันคือตราบใดที่คุณมีเอกสารรับรองครบถ้วนในการดูแลสัตว์เหล่านี้หรือมันไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อคนอื่นแน่นอนว่าจะเลี้ยงสัตว์แปลกๆขนาดไหนก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร

แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องจนได้! เมื่อ จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) นักร้องชื่อดัง ที่ไม่รู้นึกยังไงพาลิงของตัวเองไปไหนมาไหนด้วย จนสุดท้ายลิงตัวนั้นไม่เคยได้กลับบ้านอีกเลย

[caption id="attachment_22323" align="aligncenter" width="1214"] จัสติน บีเบอร์ ทิ้งลิงไว้ที่เยอรมนี ไปบ่อย...แต่ไม่เคยกลับไปเยี่ยมเลยสักครั้ง บีเบอร์ กับเจ้าโอจี มอลลี[/caption]

ย้อนกลับไปช่วงต้นเดือนมีนาคม ปี 2013 บีเบอร์ได้รับของขวัญวันเกิดอายุครบ 19 ปี จาก มอลลี มอลล์ โปรดิวเซอร์คนสนิท เป็นลิงสายพันธุ์คาปูชินวัย 14 สัปดาห์ ที่ชื่อว่า “โอจี มอลลี” หรือ มอลลี (บีเบอร์ตั้งชื่อตามชื่อต้นของมอลล์) ช่วงแรกบีเบอร์เห่อเจ้าลิงตัวนี้มาก และพามันไปไหนต่อไหนด้วย แม้จะมีคนเตือนว่าการทำแบบนี้อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก แต่ด้วยความดื้อรั้นของนักร้องหนุ่ม สุดท้ายเขาก็งานเข้าจนได้

เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ปี 2013 บีเบอร์ที่อยู่ระหว่างทัวร์อัลบั้ม Believe เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจากประเทศออสเตรีย สู่สนามบินฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ชเตราส์ ในกรุงมิวนิก ประเทศเยอรมนี พร้อมกับคณะผู้ติดตามและเจ้าลิงมอลลี ซึ่งระหว่างที่กำลังผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง บีเบอร์ก็ถูกเจ้าหน้าที่สนามบินขอตรวจเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนของเจ้ามอลลี รวมถึงเอกสารขออนุญาตนำลิงเข้าประเทศ ต่อมาบีเบอร์ได้โชว์เอกสารจำนวนหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่ผลปรากฏว่า “Sorry เอกสารพวกนี้ใช้ไม่ได้จ้ะ” ตอนนั้นบีเบอร์ออกอาการงองูสองตัว ก่อนจะถามเจ้าหน้าที่กลับด้วยเพลงตัวเองประมาณว่า “What do you mean? เอกสารอะไล้!” ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าตนมีเอกสารครบถ้วนที่จะพาลิงตัวนี้เข้าเมืองเบียร์

“ด้วยความสัตย์จริงเลยนะ ใคร ๆ ก็บอกว่าอย่าเอาลิงไป ทุกคนเลย” บีเบอร์พูดถึงทริปที่มิวนิก “ผมนี่แบบ ไม่เห็นเป็นไรเลย ทุกอย่างโอเคอยู่แล้ว แต่เหมือนที่เยอรมนีลิงนั่นเป็นอันตรายหรืออะไรนี่แหละ แต่ผมมีเอกสารนะ มีเขียนไว้เลยว่าเป็นลิงจากคณะละครสัตว์ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ผมมีเอกสารทุกอย่าง แต่สุดท้ายมันกลับตาลปัตรไปหมด” บีเบอร์เล่าย้อนความกับนิตยสาร GQ

จัสติน บีเบอร์ ทิ้งลิงไว้ที่เยอรมนี ไปบ่อย...แต่ไม่เคยกลับไปเยี่ยมเลยสักครั้ง

ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ยืนกรานกับบีเบอร์ว่า ทางการเยอรมนีจำเป็นต้องกักตัวลิงของเขาไว้ จนกว่าจะได้รับเอกสารที่ต้องการครบทั้งหมด โดยขีดเส้นตายไว้ให้นักร้องชาวแคนาเดียนก่อนวันที่ 7 พฤษภาคม ปี 2013 ซึ่งถ้าหากนักร้องคนดังไม่จัดการตามเวลาที่กำหนด ทางการเยอรมนีก็จะทำการยึดเจ้ามอลลีไปอยู่ในสวนสัตว์เป็นการถาวร

“จัสติน บีเบอร์ นำลิงของเขาเข้าเยอรมนี แต่เขาไม่มีเอกสารอนุญาตที่ครบถ้วน เราจำเป็นต้องทำตามหน้าที่ด้วยการกักตัวมัน (มอลลี) ไว้” ทางการเยอรมนีออกมาประกาศถึงเรื่องดังกล่าว

ปรากฏว่าพอถึงเวลาที่กำหนด นักร้องคนดังก็ไม่ยอมมาแสดงตัว จนทำให้ทางการเยอรมนีต้องยึดเจ้ามอลลีเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลเยอรมนีอย่างสมบูรณ์ ก่อนจะส่งตัวเจ้ามอลลีไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลสัตว์แห่งหนึ่ง คาร์ล-ไฮน์ซ โจอาคิม ผู้อำนวยการหน่วยงานที่รับหน้าที่ดูแลมอลลี เคยให้สัมภาษณ์ว่า เจ้ามอลลีแสดงพฤติกรรมการเกาะติดของเล่นทันทีที่มาถึงศูนย์ เพราะมันคิดว่าเป็นของเล่นอันเดียวกับที่บีเบอร์เคยให้มันเล่น ซึ่งโจอาคิมเปิดเผยว่า อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่มาจากการถูกพรากจากแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย

โจอาคิม ยังเผยต่อว่า ช่วงแรกเขาได้รับอีเมล์สองฉบับจาก สกูตอร์ บรอน ผู้จัดการส่วนตัวของบีเบอร์ ที่พยายามจะหาข้อตกลงในการดูแลเจ้ามอลลี เพื่อหวังจะหาช่องทางพาลิงตัวนี้กลับสหรัฐฯ แต่ภายหลังเมื่อรู้ว่าลิงอาจจะไม่ได้ไปอยู่ในสวนสัตว์ จากแหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า จดหมายฉบับแรกของบรอน แสดงถึงความกังวลที่ว่าพวกเขามีเวลาแค่ไหนกว่ามอลลีจะถูกการุณยฆาต! ส่วนอีเมล์ฉบับที่สอง มีเนื้อหาว่าพวกเขาอยากให้มอลลีได้อยู่ที่สวนสัตว์ในประเทศ แทนที่จะอยู่ในสถานกักกัน “คุณมีสถานที่แนะนำที่มอลลีจะปลอดภัยและเป็นอิสระบ้างไหม?” ผู้จัดการตัวแสบพิมพ์ถาม

“พวกเขาระบุว่าต้องการลิงกลับไป แต่มันก็เป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้หรอก เพราะลูกลิงต้องการเพื่อน และจำเป็นต้องอยู่กับลิงตัวอื่น มันไม่เหมาะที่จะถูกพาไปเที่ยวรอบโลก แม้ว่าเขา (บีเบอร์) จะมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไว้เดินทางก็ตาม มัน (มอลลี) ควรจะได้ปีนเขาอยู่ในป่าด้วยซ้ำ" โจอาคิมให้สัมภาษณ์กับสื่อ

ก่อนหน้านี้เคยมีผู้เชี่ยวชาญออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าเป็นไปได้ไม่แนะนำให้คนเลี้ยงลิง เพราะถ้าหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ลิงพวกนี้อาจจะตายในระยะเวลาเพียงสองปีเท่านั้น! หลังมีข่าวว่าบีเบอร์อยากได้ลิงกลับไป โธมัส ชโรเดอร์ ประธานสมาคมปกป้องสัตว์แห่งเยอรมนี ก็รีบออกมาเบรกนักร้องหนุ่ม ก่อนจะแนะนำว่า ถ้าเห็นแก่ลิงตัวนี้ ควรยกเลิกความพยายามในครั้งนี้ซะเถอะ

“เพื่อประโยชน์ของสัตว์ตัวนี้เอง เขา (บีเบอร์) ไม่ควรจะได้รับอนุญาตให้เลี้ยงลิงที่นำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายตัวนี้ต่อไปอีก ผมว่าเขาควรอาศัยเฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ ที่มีอิทธิพลต่อคนจำนวนมาก เพื่อกล่าวคำขอโทษและพยายามทำอะไรที่ดีกว่านี้ในการปกป้องสัตว์พวกนี้”

ปัจจุบัน มอลลีถูกย้ายไปอยู่ที่สวนสัตว์เซเรนเกติ ในเมืองโฮเดนฮาเกิน ทางตอนเหนือของเยอรมนี แม้จะเริ่มปรับตัวกับที่อยู่ใหม่ได้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลมอลลีก็เปิดเผยว่าอดีตลิงของบีเบอร์ ยังมีปัญหาด้านการสื่อสารกับลิงตัวอื่น ๆ

“มอลลียังมีปัญหาในการพูดภาษาคาปูชิน มันยังคงพยายามเลียนแบบคำพูดของมนุษย์ บางทีก็ทำเสียงแปลก ๆ ออกมา ซึ่งไม่ใช่ภาษาคาปูชินโดยแท้ นั่นทำให้เราคิดว่ามันพยายามจะคุยกับคน” แอสต้า คน็อทช์ ตัวแทนของสวนสัตว์อัพเดทความเป็นอยู่ของเจ้ามอลลี

“มอลลีใช้เวลาพักใหญ่แหละกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เพราะมันถูกพรากจากแม่และธรรมชาติมาตั้งแต่ยังเล็กมาก มันไม่ได้เรียนรู้เพื่อที่จะเป็นลิงเลย” เธอเสริม

[caption id="attachment_22324" align="aligncenter" width="2407"] จัสติน บีเบอร์ ทิ้งลิงไว้ที่เยอรมนี ไปบ่อย...แต่ไม่เคยกลับไปเยี่ยมเลยสักครั้ง เจ้ามอลลี ในปัจจุบัน[/caption]

ด้าน ยูเลียน กุนเคล โฆษกของสวนสัตว์ ก็ได้เล่าถึงตอนที่มอลลีย้ายมาใหม่ ๆ ว่า “มอลลีกลัวมาก เขาอยู่ตัวคนเดียว เขาสับสน และไม่รู้ว่าทุกอย่างจะเวิร์คสำหรับเขาหรือเปล่า เขาต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่โชคดีที่เขาเป็นลิงที่ฉลาดมาก ๆ และกำลังมีอายุที่เหมาะสำหรับการปรับตัว”

กุนเคลยังเปิดเผยว่า ทางสวนสัตว์ได้ติดต่อกลับไปที่นักร้องคนดัง เพื่ออัพเดตความเป็นอยู่ของเจ้ามอลลีให้เขาทราบ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ทุกวันนี้บีเบอร์ที่มาทัวร์เยอรมนีบ่อย ๆ ไม่เคยตอบกลับข้อความหรือกลับไปเยี่ยมเจ้ามอลลีเลยสักครั้ง

บีเบอร์ถูกกล่าวถึงมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับการทารุณสัตว์ และไม่ค่อยจะสนใจสัตว์เลี้ยงของตัวเองมากเท่าไหร่นัก เขาฝากวีรกรรมเรื่องทำนองนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เคยปล่อยหนูแฮมสเตอร์ตาย, เอางูไปประมูล, ทิ้งแมว และที่พีค ๆ เลยก็คือ ครั้งหนึ่งพ่อของบีเบอร์เคยโยนหมาบูลด็อกของบีเบอร์ที่ชื่อว่า คาร์มา ลงมาจากระเบียงชั้นสอง เหตุเพราะว่าไม่พอใจที่เจ้าคาร์มาไปกัดน้องชายของบีเบอร์ แม้ตอนนั้นเจ้าคาร์มาจะรอดชีวิตจากการตกตึก แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าบีเบอร์จะลงไปดูหมาตัวนั้นเลย

[caption id="attachment_22327" align="aligncenter" width="585"] จัสติน บีเบอร์ ทิ้งลิงไว้ที่เยอรมนี ไปบ่อย...แต่ไม่เคยกลับไปเยี่ยมเลยสักครั้ง เจ้าคาร์มา[/caption]

แม้เวลาจะผ่านไป 7 ปีแล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมอลลียังคงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สื่อมักจะนำมาโจมตีบีเบอร์เรื่อง “ไร้ความรับผิดชอบ” เสมอ ๆ และทุกวันนี้ก็ไม่มีวี่แววว่า บีเบอร์จะพยายามคลี่คลายปัญหาที่คาราคาซังนี้อย่างไร ว่ากันว่าเขายังไม่ยอมจ่ายหนี้ให้กรมศุลกากรมิวนิกเป็นจำนวนเงินมากกว่า 5,000 ยูโร (ราว 210,000 บาท)

“เราพยายามติดต่อกับคนที่เป็นเจ้าของลิง” โธมัส ไมส์เตอร์ โฆษกของกรมศุลกากรมิวนิกให้สัมภาษณ์ “เราติดต่อกับหลายคนมาก แต่ไม่มีใครสักคนที่เป็นตัวแทนที่มีอำนาจโดยชอบ” ไมส์เตอร์บอกว่า บีเบอร์ติดค่าใช้จ่ายในการดูแลลิง ทั้งค่าอาหารและค่าสัตวแพทย์เป็นเงินหลายพันยูโร “แน่นอนเราต้องทำเรื่องเอาเงินคืนมาให้ได้อยู่แล้ว”

ครั้งหนึ่ง บีเบอร์เคยถูกถามเกี่ยวกับมอลลีอีกครั้งในทำนองว่า ถ้ามีโอกาสได้เลี้ยงลิงอีกครั้ง คราวนี้เขาจะทำอย่างไร? ซึ่งนักร้องหนุ่มก็ตอบว่า

“ผมคงไม่พามันไปเยอรมนี หรือไปเที่ยวไหนด้วยอีกแล้ว” บีเบอร์บอกกับ GQ “คนชอบพูดว่า ทำไมถึงอยากได้ล่ะ ก็จะทำไมล่ะ? ถ้าคุณมีปัญญาที่จะเลี้ยง คุณเลี้ยงแน่นอน ลิงน่ะเจ๋งจะตายไป”

แม้เจ้าของจะไม่เคยมาเยี่ยมเลยสักครั้ง แต่ปัจจุบัน มอลลีได้มีชีวิตแบบลิงจริง ๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมร่วมกับครอบครัวลิงคาปูชินของเขาอีกหกตัวในสวนสัตว์ที่ห่างไกลจากแสงสปอตไลท์อันสว่างไสว รวมถึงตารางงานที่รัดตัว... คงจะไม่ผิดอะไรถ้าจะบอกว่า เรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้มอลลีพบชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม