ทันทีที่ชื่อ เกล็นน์ โคลส ประกาศออกมาเป็นผู้ชนะรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ภาพปฏิกิริยาตอบรับที่เธออ้าปากค้างด้วยความช็อกก็กลายเป็นภาพมีม (Meme) ในอินเทอร์เน็ตอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง เช่นเดียวกับความช็อกของคนดูที่เธอเอาชนะตัวเต็งอย่าง เลดี กาก้า ไปได้ การได้รับรางวัลลูกโลกทองคำอย่างเหนือความคาดหมาย กลายเป็นความหวังของเธอและแฟนๆ อยากเห็นคุณแม่เกลนน์ โคลส ได้รับชัยชนะบนเวทีออสการ์กับเขาบ้างเสียที กระทั่งเคยมีกระทู้พันทิป “อาการหนักแล้ว !!!! ชั้นอยากให้ป้าเกลนโคลสได้ออสการ์จัดจนเก็บไปฝันเลย” จะว่าไป เกล็นน์ โคลส เป็นอีกหนึ่งหญิงสาวที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์หลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่เธอพลาดทุกครั้ง หากนับแล้วเธอมีโอกาสเข้าชิงมาแล้ว 6 ครั้งทั้งบทนำและบทสมทบ โดยปี 2019 นี้เป็นปีที่เธอมีแววได้รับชัยชนะมากที่สุดเสียด้วย ย้อนกลับไปมีนักแสดงฮอลลีวูดหลายคนที่เข้าชิงรางวัลออสการ์แล้วพลาดท่าหลายครั้ง ทำให้คนดูลุ้นเอาใจช่วยซ้ำๆ ซ้ำๆ ซ้ำๆ ทุกปี หนึ่งในนั้นคือ ลีโอนาร์โด ดิคาพรีโอ ที่สามารถคว้ารางวัลได้สำเร็จในครั้งที่ 5 สร้างปรากฏการณ์การทวีตเกี่ยวกับออสการ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้ว ขณะที่ปี 2019 นี้เป็นการเข้าชิงครั้งที่ 7 ของเกล็นน์ โคลส “ฉันอยู่ในวงการมากว่า 40 ปีแล้ว และฉันก็จะยังทำงานต่อไปเรื่อยๆ และยิ่งทำงานมากเท่าไหร่ฉันก็ได้ตระหนักว่าทั้งหมดเป็นเรื่องของความสามารถของนักแสดง และการขับเคลื่อนฉากแต่ละฉากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาพยนตร์”
เกล็นน์ โคลส เข้าชิงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง The Wife (2017) ในบท โจน แคสเซิลแมน ภรรยาผู้อุทิศตัวให้กับสามีนักเขียนที่เพิ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม สมัยก่อนเธอเองก็เคยเป็นนักเขียนดาวรุ่ง แต่ต้องเสียสละความฝันนั้นเพื่อผลักดันสามีแทน The Wife จึงกลายเป็นภาพยนตร์ดรามาตลกร้าย และยังเป็นภาพยนตร์ที่เฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของผู้หญิง การค้นพบตัวเอง และการประกาศอิสรภาพของสตรีเพศ เหมือนดั่งสุนทรพจน์ที่เธอกล่าวบนเวทีลูกโลกทองคำว่า “ผู้หญิงมักถูกคาดหวังให้เป็นมีลูก (เป็นแม่) และมีสามี (เป็นภรรยา) แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่สถานะใด สิ่งสำคัญขอแค่อย่าหยุดพยายามเติมเต็มความฝันของตนเอง (Personal Fulfillment)” เธอเคยให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเสียสละของผู้หญิงเพื่อเพื่อผู้ชายนี้ว่า สำหรับผู้ชายอาจเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จมาเป็นภรรยาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานเหมือนกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผู้ชายหาเงินได้มากกว่า ซึ่งอาจเกิดความตึงเครียดได้อยู่ดี ถึงแม้ปัญหาผู้หญิงมักถูกกีดกันเรื่องการงานจะมีมาอย่างยาวนาน แต่ทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว “หลังชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันอยากให้คนดูได้พูดคุยและทบทวนกับตัวเองอย่างจริงจัง เพื่อประเมินว่าได้เติมเต็มตัวเองมากน้อยแค่ไหน และต้องยอมประนีประนอมแค่ไหนเพื่อเดินหน้าต่อไปได้ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี” นักเขียนบทหญิง เจน แอนเดอร์สัน ที่เขียนบทดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกันของ เม็ก โวลิทเซอร์ มานานกว่า 14 ปีจนสำเร็จ เธอให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกโคลสมารับบทนำว่า “เธอช่วยมาเติมเต็มความสง่างามและความไม่สมบูรณ์แบบของผู้หญิงในเรื่องอย่างน่าสนใจ ตัวละครนี้ถูกกักขังไว้ข้างในลึกๆ เธองดงามและขี้อาย และต้องอยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของสามี ซึ่ง เกล็นน์ โคลส สง่างามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเธอก็เป็นนักแสดงที่ฉลาดมากๆ”
ย้อนกลับไปสำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่คนนี้ มีผลงานแจ้งเกิดจาก The World According to Garp (1982) ซึ่งส่งให้เธอได้รางวัลจากหลายสำนัก รวมทั้งได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สมัยแรก ตามมาด้วยภาพยนตร์สร้างชื่ออีกมากมาย เช่น The Big Chill (1983), The Natural (1984), Fatal Attraction (1987), Dangerous Liaisons (1988) หรือ Albert Nobbs (2011) ฯลฯ นอกจากภาพยนตร์ อีกหนึ่งผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอคือละครเวทีบรอดเวย์ ซึ่งเธอยังคงแสดงละครเวทีบ้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะละครเพลง Sunset Boulevard ที่ส่งเธอได้รับรางวัลเอมมี ประจำปี 1995 และมีข่าวหลุดออกมาว่า Sunset Boulevard กำลังจะพัฒนาโปรเจกต์เป็นภาพยนตร์มิวสิกคัลเร็วๆ นี้อีกด้วย รวมถึงมินิซีรีส์-ซีรีส์โทรทัศน์ อาทิ Damages ซึ่งทำให้เธอได้รางวัลเอมมีสาขานักแสดงนำหญิงในซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยมมาครอง 2 สมัยติด และ The Lion in the Winter ที่พาเธอคว้ารางวัลบนเวทีมากมายเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว รางวัลเดียวที่เธอยังไม่เคยครอบครองก็คือรางวัลออสการ์ ภาพยนตร์ The Wife จะทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์ในปีนี้หรือไม่? อาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2019 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ (หรือช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์) มาลุ้นกัน! หมายเหตุ* - สุนัขของโคลสมีชื่อว่า Sir Pippin of Bean ซึ่งเธอเรียกว่า “ลูกชายสุดที่รัก” สามารถติดตามชีวิตของมันได้ที่ instagram @sirpippinofbeanfield ที่มา
