16 พ.ค. 2562 | 18:24 น.
“สิ่งที่ทำให้งานเขียนคุ้มค่าที่จะอ่านคือคุณต้องพูดถึงผู้คน ซึ่งอาจจะมีฉากหลังเป็นอวกาศ เป็นปราสาทกับมังกรด้วยก็ได้ ไม่ก็อาจจะชานเมืองธรรมด๊าธรรมดา ไม่ก็ในนรก จะที่ไหนก็ตามเหอะ มันต้องว่าด้วยเรื่องของมนุษย์ที่พยายามตัดสินใจว่าอะไรถูกอะไรผิด วิธีเอาตัวรอด ไปยันการตั้งคำถามระหว่างความดีและความชั่วร้ายโน่นเลย” ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของวลีนี้จะเป็นชายผู้รังสรรค์มหากาพย์การชิงบัลลังก์เหล็กที่เป็นมากกว่าเรื่องของอำนาจ แต่ยังวิพากษ์การเมือง ความสัมพันธ์และความเชื่อของมนุษย์อย่างดุเดือดในหนังสือชุด A Song of Ice and Fire ซึ่งในเวลาต่อมาถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ที่เราติดกันงอมแงม และเดินทางมาถึงบทสรุปแล้วอย่าง Game of Thrones แน่แท้ เรากำลังพูดถึงเขา จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน (George R. R. Martin) นักเขียนผู้ทำให้เราหัวเราะสะใจ กราดเกรี้ยวเป็นบ้าเป็นหลัง จนกระทั่งหลั่งน้ำตาเมื่อตัวละครที่รักตายจาก นี่คือตาลุงนักเขียนอันเป็นที่รักที่หลายๆ คนก็ก่นด่าเขาอย่างเผ็ดร้อนโทษฐานสังหารตัวละครโปรดของเราหน้าตาเฉย จนแทบจะกล่าวได้ว่า ตลอดระยะเวลาการดูซีรีส์ Game of Thrones นั้น คนดูต้องเตรียมใจเผื่อเห็นตัวละครโปรดตายแบบเซอร์แตกบนหน้าจอด้วย (แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว การตายของหลาย ๆ ตัวละครก็ยังชวนทึ่งอยู่ดี จนชวนตั้งคำถามว่า… นี่ลุงทำกับตัวละครนี้ลงได้ยังไง๊!) และการที่ซีรีส์ดำเนินมาถึงซีซันที่ 8 เพียบไปด้วยแฟน ๆ มากขึ้นแบบปีต่อปี แถมเรื่องราวในจอยังนำหน้าตัวหนังสือไปหลายก้าว เพราะมาร์ตินกล่าวหน้าตาเฉยว่า “ก็ยังเขียนไม่เสร็จอะ” จนหมดหนทางที่นักอ่านหรือใครต่อใครจะรู้เรื่องราวและชะตากรรมก้าวต่อไปของเหล่าผู้คนในแดนเวสเทอรอส หากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความยิ่งใหญ่ของ Game of Thrones นั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากการเล่าเรื่องอันแยบคาย และมุมมองอันเฉียบคมของผู้เขียนอย่างมาร์ติน "คนเราน่ะอ่านหนังสือแฟนตาซีเพื่อเติมสีสันให้ชีวิต เรื่องพวกนี้แสดงให้เราเห็นถึงความมหัศจรรย์ และนั่นแหละที่แสนจะเติมเต็มหัวใจของมนุษย์เรา" Game of Thrones จึงเป็นวรรณกรรมแฟนตาซีที่มีกลิ่นอายประวัติศาสตร์ด้วยการมีฉากหลังเป็นยุคกลาง เรื่องราวของตระกูลใหญ่ ๆ ที่ห้ำหั่นชิงตำแหน่งผู้นำ นำทัพโดยตระกูล “ทาร์แกเรียน” ที่มีมังกรเป็นข้อได้เปรียบหลัก งัดกันกับ “แลนนิสเตอร์” ผู้ร่ำรวยและครองบัลลังก์อยู่ก่อนแล้ว ฟากทางเหนือก็มีสกุล “สตาร์ค” ผู้ชินชากับความหนาวเหน็บ และสิ่งมีชีวิตนอกเหนือจากกำแพงยักษ์สูงลิ่ว นั่นคือ “ไวท์ วอล์คเกอร์” คนตายที่ฟื้นคืนขึ้นมาสังหารคนเป็น ยากจะเชื่อว่าทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในหัวของอดีตเด็กเนิร์ด ๆ ที่ชีวิตมีแต่บ้านกับโรงเรียนอย่างเด็กชายมาร์ติน