28 พ.ย. 2561 | 15:57 น.
สารคดีชีวิตของ Whitney Houston กำลังฉายอยู่ไม่กี่โรงในประเทศนี้ Whitney ที่เราได้รู้จักในสารคดี เป็นคนคนหนึ่งที่ร้องเพลงดีและย่ำแย่ ร่ำรวยและยากจน ติดยาและกลับตัว รักครอบครัว และล้มเหลวกับชีวิตครอบครัว มั่นใจทุกครั้งบนเวที และอาจจะยังคงสับสนกับทุกสิ่งไปจนบั้นปลายชีวิต ชีวิตของเธอที่เปลี่ยนจากก้อนเนื้อมาเป็นภาพ เสียงและความหมายที่ล่องลอยอยู่กับพวกเรานี้ ยังคงดำเนินไป เคยสงสัยไหมว่าชีวิตของเราในความเข้าใจของคนอื่นเป็นอย่างไร? รักครั้งแรกของคุณจะรู้ไหมว่าตอนนี้คุณไม่ได้งี่เง่าเท่าตอนนั้นแล้ว เมดูซ่าเป็นปีศาจที่มีหัวเป็นงู หากมันมองไปที่ใคร คนคนนั้นจะต้องคำสาปและกลายเป็นหินตลอดไป ความทรงจำของเราก็ทำงานเช่นนั้นหรือไม่ เมื่อมันมองไปที่ใครแล้ว คนคนนั้นก็อาจไม่มีโอกาสกลายเป็นอย่างอื่นอีกเลย สารคดีเรื่อง Whitney The Film(2018) อาจกำลังพยายามแก้ไขคำสาปนี้ให้กับนักร้องที่เรารัก ปลดปล่อยให้เธอได้กลายเป็นอย่างอื่นบ้าง ปลดปล่อยให้เพลงรักของเธอที่นิ่งเป็นหินมาหลายปี ได้ถูกฟังแบบอื่นบ้าง ได้มีความรักแบบอื่นบ้าง ในเรื่อง เราจะเห็นคนใกล้ตัวและครอบครัวของเธอเรียกเธอว่านิปปี้ มันเป็นชื่อเล่นตั้งแต่เกิดของวิตนีย์ ฮูสตัน เธอบอกว่ามันง่ายเหลือเกินที่จะขึ้นเวที แล้วเป็นวิตนีย์ ฮูสตัน แต่ยากเหลือเกินที่จะเป็นนิปปี้ เธอสามารถเรียกวิตนีย์ในตัวเธอออกมาร้องเพลงบนเวทีได้ด้วยการเรียกเพียงครั้งเดียว แต่พอเรียกหานิปปี้ เธอกลับรู้สึกเหมือนไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมา เราเคยมีอำนาจมากพอที่จะเป็นตัวเองหรือไม่? ลองนึกว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในหัวของวิตนีย์ เธอได้ยินเสียงเป็นล้านเสียงดังเป็นเสียงเดียวกัน กำลังเรียกเธอว่าวิตนีย์ ไม่มีใครมีความลังเลสงสัยอะไรในชื่อนี้ ทุกคนกล้าพูดมันออกมาไม่ลังเล รู้ดีว่าเธอคือใคร และในขณะเดียวกันก็ยังมีเสียงอยู่อีกประมาณสิบกว่าเสียง พยายามเรียกเธอว่านิปปี้ หนึ่งในเสียงเหล่านั้นคือพ่อของเธอที่ทำบัญชีให้เธอ และโกงเงินเธอไปจำนวนมาก และพี่น้องของเธอที่มีอาชีพร่วมกับอาชีพของเธอ นั่นหมายความว่าในสิบกว่าเสียงนั้น เป็นนิปปี้อย่างเลือนรางที่สลับมาเป็นวิตนีย์ แม้แต่พ่อ เพื่อน พี่น้องของเธอ ก็ยังไม่สามารถมองเธอเป็น “แค่นิปปี้” ได้อีกต่อไป คนคนหนึ่งกำลังได้ยินอะไรในหัวของตัวเอง? เราอาจจะลืมไปแล้วว่าเสียงต่างๆ ในหัวของเรา ไม่ใช่ของเรา ภาษาที่เราใช้กันอยู่ทั้งหมดนี้ เราไม่ได้คิดมันขึ้นมาเองคนเดียว ผู้คนเป็นล้านสร้างอิทธิพลต่อกันและกลายเป็นเสียงภาษาในหัวเรา เราเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง ก็เพราะมีโรงเรียนมาบอกเรา เราเป็นคนที่ยังไม่ค้นพบตัวเอง ก็เพราะมันมีคนที่คิดว่าตัวเองค้นพบตัวเองมาบอกเรา เราเป็นไพร่ เป็นแค่ประชาชนคนตัวเล็กๆ ก็เพราะมีสภาพของสังคม กฎหมาย และคนอื่น ที่คอยพร่ำบอกเราว่าเราเป็นอย่างนั้น