08 เม.ย. 2567 | 00:07 น.
KEY
POINTS
แม้ว่าจะจบไปแล้วกับงาน Thailand Toy Expo 2024 หรือ TTE 2024 มหกรรมงานแสดงของเล่น อาร์ตทอย (Art Toy), คอสเพลย์ และของสะสมระดับโลก ที่ได้ย่อส่วนให้มารวมตัวกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยเหล่าอาร์ตทอยของศิลปินชื่อดังบางคนก็ Sold Out ไปตั้งแต่ยังไม่จบงาน
ขณะเดียวกัน มูลค่าของอาร์ตทอยบางตัวก็พุ่งขึ้นอย่างถนัดตา หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ต้าวบู้’ หรือ Labubu ทูตจากเทพนิยายนอร์ดิก ที่ครองหัวใจคนไทยมากมาย ไม่เว้นกระทั่ง ‘ชมพู่ - อารยา เอ ฮาร์เก็ต’ และนักแสดงอีกหลายคน ไปจนถึงนักการเมืองผู้ที่ได้ฉายาว่าเป็น เจ้าพ่อแฟชั่นอย่าง ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ ก็ห้อยพวงกุญแจต้าวบู้มาแล้ว
คาแรคเตอร์ปีศาจฟันแหลมที่หน้าตาดูใจดีและแสนซุกซน มีที่มาย้อนไปตั้งแต่ที่ ‘คาซิง ลุง’ (Kasing Lung) ผู้ออกแบบและเป็นเจ้าของผลงานชาวฮ่องกง เขาได้แรงบันดาลใจเมื่อครั้งวัยเยาว์ ที่เคยอาศัยอยู่กับครอบครัวในประเทศเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่อายุได้ 6 ขวบ
ด้วยข้อจำกัดทางภาษาถิ่นที่ทำให้เขาต้องพยายามเรียนรู้ และดิ้นรนด้วยการอ่าน ซึ่งหนังสือสำหรับเด็กที่เต็มไปด้วยรูปวาดทำให้เขาเริ่มชอบในการวาดเขียน ชอบงานศิลปะ รวมไปถึงชอบอะไรที่เกี่ยวกับ ‘เทพนิยาย’ และจุดเริ่มต้นนี้เองที่ความสนใจของ คาซิง ลัง เกี่ยวกับโลกแห่งเทพนิยายก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ
อาจไม่มีใครรู้ว่า เทพนิยายนอร์ดิกตัวแรก ๆ ที่คาซิง ลัง สนใจและเห็นบ่อยที่สุดในหนังสือที่อ่าน ก็คือ ‘เอลฟ์’ (Elf) อมนุษย์พวกหนึ่งในตำนานโบราณของเชื้อสายเยอร์มานิก (Germanic) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เยอรมนี, อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์ และยุโรปเหนือ ความเชื่อนี้มาพร้อมกับกลุ่มชนดังกล่าวซึ่งตามประวัติศาสตร์ระบุว่า เป็นกลุ่มที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือของยุโรปกลุ่มแรก ๆ
หลังเรียนจบ คาซิง ลุง ได้ช่วยทำหนังสือภาพ หรือหนังสือนิทานสำหรับเด็กนานถึง 10 ปี ในฐานะนักวาดภาพ
กระทั่งปี 2015 คาซิง ลุง สร้างโลกเทพนิยายเป็นของตัวเองขึ้นมา 3 เล่มครั้งแรก โดยเขาตั้งใจให้เป็นโลกแห่งเทพนิยายที่มีเหล่ามอนสเตอร์ฝั่งดีและฝั่งร้ายอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่ง Labubu คือหนึ่งในคาแรคเตอร์มอนสเตอร์ที่เขาออกแบบมาตั้งแต่แรก
นอกจาก Labubu ก็จะมี Zimomo, Tycoco, Spooky และ Pato ที่อยู่ด้วยกัน เพียงแต่ Labubu เป็นทูตที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาผลงานของ คาซิง ลุง
Labubu เป็นมอนสเตอร์ตัวเล็กที่มีหูแหลมสูงและก็มีฟันแหลมเหมือนหูของมัน คาซิง ลุง วางคาแรคเตอร์ให้ต้าวบู้ เป็นทูตฝั่งดีที่อาจจะดูทะเล้นไปบ้าง ซุกซนไปหน่อย แต่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ
ในปี 2017 คาซิง ลุง บินกลับไปที่บ้านเกิดก็คือ ฮ่องกง แล้วจัดนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต ชื่อว่า ‘De KleurenMONSTERS หรือ อาณาจักรแห่งเอลฟ์ เพื่อแสดงผลงานภาพวาดซีรีส์มอนสเตอร์ของเขาทั้งหมดที่วาดขึ้นมาใหม่กว่า 20 ภาพ โดยมี Labubu เป็นพระเอกของงานครั้งนั้น
ทั้งนี้ ในปี 2019 คาซิง ลุง ได้ร่วมงานกับ Popmart ซึ่งเขาได้สร้าง Labubu เวอร์ชั่นแรกที่เป็นต้าวบู้ ‘หน้าอ้วน’ อย่างที่เราเห็นปัจจุบัน ทำให้คาแรคเตอร์นี้เป็นอาร์ตทอยขายดีอีกหนึ่งคอลเลคชั่นใน Popmart ปีนั้น
ในปี 2011 เขาได้ร่วมงานกับ How2work ค่ายที่มีชื่อเสียงในเรื่องแบรนด์ตุ๊กตาในฮ่องกงกับจีน ทำให้เราเห็นว่า Labubu จะมีสินค้าอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากอาร์ตทอย เช่น พวงกุญแจ, เสื้อ, แก้วน้ำ เป็นต้น
ที่ผ่านมา Popmart ได้ทำงานร่วมกับ How2work โดยจะมีคอลเลคชั่นมากมายจาก Labubu ในช่วงเวลาต่าง ๆ ทั้งเป็นตุ๊กตาสูง 58 cm และเป็นอาร์ตทอยไซส์จิ๋ว ตั้งแต่ 7-15 cm ขึ้นอยู่กับซีรีส์นั้น ๆ คาซิง ลุง เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เขาสร้าง Labubu และมอนสเตอร์คาแรคเตอร์อื่นเป็นอาร์ตทอย เพราะอยากเห็นสิ่งที่รักจับต้องได้ ซึ่งคนที่หลงใหลผลงานศิลปะเกี่ยวกับอะไรก็ตาม น่าจะอยากเห็นผลงานตัวเองอยู่นอกกระดาษบ้าง
สำหรับ คาซิง ลุง เขามองว่ามอนสเตอร์ทุกตัวที่เขาออกแบบเป็นเหมือนสัญลักษณ์ ‘ความสุข’ ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้าย ๆ อะไรก็ตาม แต่ทูตทุกแบบของเขาจะยิ้มเกือบทุกตัว เพราะนั่นเขาไม่อยากให้มนุษย์หน้าบึ้ง อยากให้มีความสุข หน้าเปื้อนยิ้มเหมือน Labubu ที่ยิ้มจนเห็นฟันทุกซี่
ปัจจุบันต้องพูดว่า Labubu ยังคงเป็นคาแรคเตอร์ยอดฮิตของ Popmart และบางซีรีส์ก็หาซื้อยากมาก จากวันแรก ๆ ที่คาซิง ลุง ขายอาร์ตทอยล็อตแรก ๆ ตีเป็นเงินไทยยังอยู่ที่หลักหลายร้อย แต่ ณ ตอนนี้บางซีรีส์ ราคาดีดสูงไปถึง 4-5 พันบาทต่อตัว ซึ่งซีรีส์ Labubu ที่ราคาสูงที่สุดน่าจะเป็น THE MONSTERS - I FOUND YOU Vinyl Face Doll ใน Popmart Thailand ประมาณ 5,000 กว่า
หากพูดว่า อาร์ตทอยเป็นเพียงของสะสมที่เอาไว้ตั้งโชว์อย่างเดียวก็คงไม่ถูกนัก เพราะมันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจต่อนักสะสม รวมถึงเจ้าของผลงานด้วย เราเชื่อว่าทุกครั้งที่ คาซิง ลุง จับปากกาออกแบบภาพวาดของเขา หรือตอนที่เขาสร้างสรรค์ผลงานฟิกเกอร์ก็ตาม ความทรงจำวัยเด็กที่เคยจับจ้องอยู่กับหนังสือภาพวาด ที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดในจินตนาการทั้งเล่ม คงทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขในวัยเด็กของตัวเอง และก็คงจะเป็นช่วงวัยหนึ่งที่เคยสนุกกับเพื่อน หรือนั่งอยู่สักมุมห้องเพื่ออ่านการ์ตูนก็ได้
จินตนาการใคร ก็จินตนาการมัน อยู่ที่เราจะวาดฝันจินตนาการตัวเอง และสร้างสรรค์สิ่งนั้นออกมาอย่างไร เพราะหากมันทำให้เกิดมูลค่าได้เหมือนที่ คาซิง ลุง ทำก็คงเป็นเรื่องที่โชคดีมาก ๆ ที่จะเรามีนักออกแบบอาร์ตทอยเพิ่มอีกบนโลกแห่งจินตนาการใบนี้
ภาพ: kasinglung_Instagram
อ้างอิง: