โนะฮะระ ฮิโระชิ: ความเป็น ‘มนุษย์พ่อ’ แห่งชินจังที่แม่บ้านญี่ปุ่นหลงรัก

ในบรรดา ‘มนุษย์พ่อ’ ที่ปรากฏอยู่ในมังงะ (หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น) ที่ผู้อ่านจดจำได้เป็นอย่างดี นอกจากคุณพ่อของโนบิตะแล้ว อีกคนที่ถูกยกมาพูดถึงเป็นประจำ เวลาพูดถึงพ่อของโนบิตะ คือพ่อของชินจัง  บทความนี้จึงขอยกเรื่องราวของ โนะฮะระ ฮิโระชิ (野原ひろし) คุณพ่อของชินจังจากเรื่อง Crayon Shin-chan มาเล่าสู่กันฟังเสียเลย เรื่องชินจังนั้นตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี ค. ศ. 1990 จนถึงปี 2010 แม้ว่าอุซุอิ โยะชิโตะ (臼井儀人) จะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อ 11 กันยายน ปี ค. ศ. 2009 แต่ภายหลังพบว่ามีต้นฉบับเขียนสำรองไว้เพียงพอให้ตีพิมพ์ได้จนถึงเดือนมีนาคม 2010 ทำให้ต้นฉบับที่เขียนโดยอุซุอิ โยะชิโตะนั้นรวมทั้งสิ้นมี 50 เล่มพอดี มีจำนวนตอนทั้งหมด 1,126 ตอน (ไม่นับภาค Movie และภาคพิเศษอีกมากมาย) ฮิโระชิ มีส่วนสูงถึง 180 เซนติเมตร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยผู้ชายญี่ปุ่นทั่วไป เมื่อตอนเปิดตัวครั้งแรกในการ์ตูน มีอายุ 35 ปี ตามประวัติคือเรียนจบมัธยมปลายที่บ้านเกิดคือจังหวัดอะคิตะ แล้วก็เดินทางเข้ามาทำงานที่บริษัท trading แห่งหนึ่งในโตเกียว ตอนอายุ 20 พอดี (ในอินเทอร์เน็ตญี่ปุ่นมีบางแหล่งบอกว่าฮิโระชิเรียนจบปริญญาตรีจาก Waseda University แต่หลายแห่งก็ระบุว่าต้นฉบับไม่ได้เขียนไว้ แต่เป็นแฟน ๆ เขียนลงเน็ตกันเองซึ่งไม่มีมูล ดังนั้นข้อเท็จจริงเท่าที่พบหลักฐานในตอนนี้คือเรียนจบมัธยมปลายแล้วก็ทำงานเลย) ทำงานที่บริษัทเดิมมาได้ 15 ปีแล้ว ปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายขายที่ 2 (営業2課の係長) ได้เงินเดือนเดือนละ 300,000 เยนพอดี (มีรายได้รวมตลอดปีประมาณ 6 ล้านเยน เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นจะมีรายได้ให้พนักงานอีกหลายทางนอกเหนือจากเงินเดือน 300,000 เยนนี้) และซื้อบ้านโดยการผ่อนด้วยสัญญากู้ 35 ปี ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว หลายท่านคงเอะใจ ว่าเlมนุษย์เงินเดือนประวัติพื้น ๆ คนนี้ทำไมถึงมีเสน่ห์จับใจสาวญี่ปุ่นกันขนาดนั้น นอกจากแค่ตัวสูงเด่นกว่าผู้ชายคนอื่นเท่านั้น แต่หากเป็นแฟนนักอ่านหรือผู้ชมที่ได้ชมบทบาทของฮิโระชิในหลาย ๆ ครั้งแล้ว คงเห็นตรงกันว่าคุณพ่อลูกสองคนนี้มีเสน่ห์จับใจจริง ๆ เริ่มตั้งแต่การยอมเลิกบุหรี่เมื่อภรรยาใกล้คลอด ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเคยเป็นคนสูบจัดมากชนิดที่แม้แต่วันเดียวก็อดสูบไม่ได้ แต่เพื่อลูก ทำให้ตัดสินใจเลิกได้เด็ดขาด และปัจจุบันก็ไม่ปรากฏว่ามีการสูบบุหรี่เกิดขึ้นอีก แล้วยังมีตอนที่มีการไปออกร้านขายของที่โรงเรียนของลูก แล้วภรรยา (มิซะเอะ) ใช้เวลาตั้งหลายวันถักผ้าพันคอไปขาย แต่ออกมาไม่สวยเลย ทำให้ขายไม่ออกอยู่ชิ้นเดียวจากทั้งร้าน ในที่สุดก็มีตัวละครลับโผล่มาซื้อผ้าพันคอผืนนี้ไป ก่อนที่จะเฉลยโดยมีฉากที่ฮิโระชิเดินออกจากบ้านแล้วค่อยหยิบผ้าพันคอผืนเดียวกันนี้ออกมาจากกระเป๋าแล้วก็พันคอของตัวเองไว้ระหว่างเดินทางไปบริษัท ฉากนี้คือฮิโระชิก็ไม่ยอมบอกมิซะเอะ และมิซะเอะก็ไม่รู้ เป็นฉากที่โรแมนติกมาก มีอีกตอนที่มิซะเอะทำซองที่มีเงินอยู่ 100,000 เยนหายไป ฮิโระชิก็ไม่โกรธ แถมยังบอกว่าเงินแค่นี้ไม่เป็นไรเลยเพราะเดี๋ยวก็ทำงานหาเงินมาใหม่ได้ แต่ขอให้มิซะเอะกับชินโนสุเกะปลอดภัยก็พอ นอกจากนี้ แม้ว่าฮิโระชิจะมีรายได้ปีละ 6 ล้านเยน แต่ว่าก็ให้มิซะเอะถือเงินไว้ทั้งหมด แล้วเบิกเงินใช้เพียงเดือนละ 30,000 เยนเท่านั้น!! ในภาคพิเศษตอนเจาะเวลาลักพาองค์หญิงน้อย ก็มีฉากกินใจ ตอนที่ฮิโระชิจะตามชินจังไปในอดีต แล้วมิซะเอะห้ามไว้ ฮิโระชิก็บอกไปว่า “โลกอนาคตที่ไม่มีชินโนะสุเกะมันจะไปมีค่าอะไร? (しんのすけのいない未来に未練なんてあるか？)” เรียกว่าสปิริตแห่งความเป็นพ่อแรงมาก ตลอดทั้งเรื่องจะมีฉากที่ฮิโรชิแสดงความเท่ในฐานะหัวหน้าครอบครัวอยู่อย่างสม่ำเสมอมากมาย ทั้งความเอาใจใส่ครอบครัว เอาใจใส่ลูกและภรรยา โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับพ่อของโนบิตะแล้ว ฮิโระชิมีการช่วยงานภรรยาอยู่บ้าง และมีการช่วยดูแลลูก มากกว่าพ่อของโนบิตะอีกด้วย อาจจะเป็นยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของญี่ปุ่นด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถึงที่สุดแล้วหากคนเราจะต้องตกลงปลงใจมีครอบครัว การได้ใครสักคนที่มีคุณสมบัติแบบที่ฮิโระชิมี ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับสุภาพสตรีหลาย ๆ คน ฮิโระชิเลยติดโผในอันดับสูง ๆ ตลอดกาลที่สาว ๆ ญี่ปุ่นอยากได้เป็นพ่อของลูกด้วยประการฉะนี้เอง เรื่อง: วีรยุทธ พจน์เสถียรกุล