07 มิ.ย. 2565 | 21:00 น.
"รับไปกินซะ เจ้าคงจะหิวมาก" ฮาคุ-เด็กชายลึกลับพูดกับชิฮิโระ-เด็กหญิงที่ผ่านสถานการณ์ยากลำบากมากมายจนเธอรู้สึกท้อแท้ พร้อมกันนั้น เด็กชายยื่นข้าวปั้นให้เด็กสาว "ฉันไม่อยากกิน" ชิฮิโระปฏิเสธ "ข้าร่ายคาถาที่ทำให้เจ้าแข็งแรงเอาไว้ กินสิ" ฮาคุพูดประโยคนี้แล้วเด็กหญิงผู้โศกเศร้าจึงยอมทานข้าวปั้นด้วยความหิวโหย "เจ้าคงลำบากมาก กินสิ" ชิฮิโระเคี้ยวข้าวปั้นตุ้ย ๆ สักพักน้ำตาของเธอก็ไหลนอง เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกทั้งมวลที่อัดอั้น นี่เป็นฉากหนึ่งที่ 'ทัชใจ' ผู้ชมที่มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Spirited Away (2001) ของสตูดิโอจิบลิที่ในวันนี้กลายเป็นแอนิเมชันที่ขึ้นหิ้งภาพยนตร์คลาสสิกไปแล้ว Spirited Away ถูกตีความว่าเป็นเรื่องราวที่วิพากษ์วัฒนธรรมบริโภคนิยม แต่ในมุมหนึ่งก็ยังแฝงในความเชื่อในความดีงามของมนุษย์ตามแนวทางเรื่องเล่าของสตูดิโอจิบลิดังเช่นฉากสำคัญในข้างต้น สถานการณ์ที่ชิฮิโระ เด็กหญิงวัย 10 ปีเจอก่อนหน้าที่จะมาถึงฉากที่พูดถึงนี้ เธอได้เผชิญกับเรื่องราวที่ยากลำบากมากมายสำหรับเด็กคนหนึ่ง ฉากเปิดของ Spirited Away เป็นฉากที่เด็กสาวนั่งรถไปกับพ่อแม่ด้วยความรู้สึกเซ็งชีวิตเพราะเธอเพิ่งลาออกจากโรงเรียนเดิมเพื่อย้ายบ้านไปพร้อมกับพ่อแม่ของเธอ การลาจากสถานที่และผู้คนที่เคยคุ้น ย่อมทำให้เธอรู้สึกเคว้างคว้างอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ที่เธอพบเจอเวลาต่อมายิ่งทำให้เธอลำบากมากขึ้นไปอีก เหตุการณ์ดังกล่าวคือเหตุการณ์ที่ชิฮิโระและพ่อแม่ของเธอหลงทางไปยังอีกมิติ (?) หนึ่ง แล้วพ่อแม่ของเธอเจออาหารเรียงรายล่อตาต่อลิ้น กลิ่นหอมของอาหารที่เตะจมูกทำให้ทั้งสองอดไม่ได้ พวกเขาสวาปามอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยจนถูกสาปให้เป็นหมู (ที่จะถูกนำไปทำเป็นอาหารต่อ) แล้วพลันดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า สถานที่ปริศนาที่พวกเขาหลงทางมากลายเป็นโรงอาบน้ำที่เต็มไปด้วยลูกค้าที่ดูไม่คุ้นตาสักเท่าไหร่ เธออยู่ในสถานการณ์ที่อธิบายได้ยากว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คนที่อยู่เคียงข้างเธอกลับกลายเป็นเด็กชายลึกลับนามว่าฮาคุ ที่คอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำที่ดี เพื่อให้เธอและครอบครัวรอดพ้นจาก ‘คำสาป’ ในดินแดนพิศวงแห่งนี้ ในวันที่ยากลำบาก การที่มีใครสักคนที่จริงใจเข้ามาช่วยเหลือเรา ย่อมทำให้เรารู้สึกเบาใจ ผ่อนคลาย รู้สึกเหมือนมีไหล่ของใครสักคนหนึ่งให้พักพิงอิงเสมอ ไม่ต่างอะไรกับชิฮิโระที่ได้พบกับฮาคุ ผู้ที่ร่ายมนตราไว้ในข้าวปั้นให้เธอได้ทานในวันที่อ่อนล้า มนตราดังกล่าว หาใช่อะไรที่ซับซ้อนเลย มันคือมนตร์ที่เรียกว่า 'ความห่วงใย' ใส่ลงไปในข้าวปั้น ฉันห่วงใยเธอ อยากให้เธอแข็งแรง...คำกล่าวนี้คงจะเป็นมนตราที่แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถส่งต่อให้กันได้ และมันอาจจะทำให้เกิดพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี "ดอกไม้ช่อแรกของหนูดันเป็นดอกไม้บอกลา" นี่คือประโยคแรก ๆ ตอนต้นเรื่องที่ชิฮิโระ บอกกับพ่อแม่ของเธอหลังจากที่เธอย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน หากเปรียบเปรยกันแล้ว ข้าวปั้นที่ฮาคุมอบให้ อาจจะเป็นดอกไม้ช่อที่สองที่เธอได้รับ...แต่เป็นดอกไม้แห่งการบอกรัก ก็เป็นได้