21 ก.ค. 2563 | 18:22 น.
ผู้เสพความตายครอบงำอำนาจทั้งหมดของกระทรวงแล้ว พวกมันเสกคาถาโหดเหี้ยมใส่ยังไงก็ได้ ไม่กลัวถูกจับ
หลายคนเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนกระซิบกระซาบ แต่ไม่มีใครกล้าเชื่อใจกัน เพราะไม่รู้จะไว้ใจใครดี
ทุกคนกลัวเกินกว่าจะพูดออกมาดัง ๆ เพราะครอบครัวจะตกเป็นเป้า
หลังจากวรรณกรรมเยาวชนระดับโลกอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) เดินเรื่องอยู่ในโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่มาตลอด 6 เล่ม เล่มสุดท้ายอย่างเครื่องรางยมทูต เจ.เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling) ได้พาผู้อ่านทุกคนออกจากฮอกวอตส์ก้าวสู่โลกภายนอก เผยให้เห็นสถานการณ์ของโลกผู้วิเศษและการทำงานของกระทรวงเวทมนตร์ชัดขึ้น เห็นการแบ่งกลุ่มการเมือง อำนาจมืดในยุคเสื่อมทรามที่สุดของพ่อมดแม่มดบนเกาะอังกฤษ รวมถึงบทสรุปอันน่าจดจำของวรรณกรรมชุดนี้ หลังการจากไปของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่ต้องสานต่องานที่อดีตอาจารย์ใหญ่ทำไว้ให้สำเร็จ เขาต้องตามหาวัตถุที่บรรจุเสี้ยววิญญาณของลอร์ดโวลเดอมอร์ ขณะเดียวกันทางฝั่งผู้ฝักใฝ่ศาสตร์มืดก็พยายามเข้าครอบงำกระทรวงเวทมนตร์เพื่อควบคุมสังคมให้อยู่ในกำมือของตัวเอง จอมมารเคยตั้งคำถามกับลูกน้องว่ากระทรวงจะล่มเมื่อไหร่ เหล่าผู้เสพความตายต้องทำทุกอย่างเพื่อให้คำตอบน่าฟังแก่จอมมาร พวกเขาพยายามนำคนของตัวเองเข้าไปอยู่ในกระทรวงหรือหน่วยงานต่าง ๆ ให้มากที่สุด หากคนที่มีตำแหน่งสำคัญ ๆ ไม่ศรัทธาในตัวจอมมารก็ใช้คำสาปสะกดใจเสีย หรือไม่อย่างนั้นก็สังหารทิ้งแล้วค่อยหาทางยัดพรรคพวกตัวเองเข้าไปแทน
“ด้วยความยากลำบากและความพยายามยิ่งยวด กระผมเสกคำสาปสะกดใจครอบงำ ไพอัส ทิกเนส ได้สำเร็จแล้วขอรับ”
คอร์บาน แยกซ์ลีย์ รายงานต่อโวลเดอมอร์อย่างกระตือรือร้นว่าสามารถสาป ไพอัส ทิกเนส (Pius Thicknesse) หัวหน้ากองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ประจำกระทรวงเวทมนตร์ได้สำเร็จ เพื่อผลักดันแผนการเข้าครอบครองกระทรวงของโวลเดอมอร์ไปใกล้เส้นชัยมากยิ่งขึ้น ทว่าจอมมารกลับไม่ชื่นชมความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของแยกซ์ลีย์ และกล่าวว่าสิ่งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เขาจะเป็นผู้ลงมือสังหาร รูฟัส สคริมเจอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ด้วยตัวเองหากจำเป็น การสาปไพอัส ทิกเนส มีความสำคัญอย่างไรต่อแผนลอบสังหารรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ? เนื่องจากเขาเป็นหัวหน้ากองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ มีโอกาสเข้าพบรัฐมนตรีเป็นประจำ แถมยังต้องพบเจอกับหัวหน้ากองทั้งหมดของกระทรวง ผู้เสพความตายคิดว่าหากสามารถควบคุมพนักงานตำแหน่งสูงได้มากขึ้นเรื่อย ๆ คนเหล่านี้จะพร้อมทำงานตามคำสั่งเพื่อล้มรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ช่วงที่รูฟัส สคริมเจอร์ เป็นรัฐมนตรี เขามีโอกาสพบกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ รอน วิสลีย์ และเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เพื่อมอบมรดกที่อาจารย์ใหญ่ผู้ลาลับทิ้งไว้ให้ทั้งสามคน แฮร์รี่ไม่ได้แสดงท่าทีอ่อนน้อมกับสคริมเจอร์ ส่วนรัฐมนตรีเองก็พยายามประเมินว่าพอตเตอร์คนนี้กำลังคิดทำอะไรอยู่ ช่วงก่อนกระทรวงล่มเกมการเมืองถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่ายชัดเจน คือ กลุ่มของพอตเตอร์กับภาคีนกฟินิกซ์ กลุ่มกระทรวงเวทมนตร์ และกลุ่มผู้เสพความตายของโวลเดอมอร์ สองกลุ่มแรกต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือต้องการปราบโวลเดอมอร์ กำจัดอำนาจของผู้เสพความตาย คืนความมั่นใจให้สังคม ทว่าพวกเขาไม่สามารถร่วมมือหรือติดต่อกันได้มากนัก เนื่องจากสายของผู้นิยมศาสตร์มืดเข้ามาอยู่ในกระทรวงมากเกินไป มิหนำซ้ำกระทรวงยังปิดข่าวการตายของมือปราบมารฝีมือดี แม้ด-อาย มู้ดดี้ ปิดข่าวการแหกคุกหมู่ที่คุกอัซคาบัน ที่น่าหดหู่สะเทือนใจที่สุดคือกระทรวงคืนงานกับตำแหน่งให้โดโรเรส อัมบริดจ์ ทำเหมือนไม่รับรู้ว่าเธอเคยทำร้ายร่างกายแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็ก ๆ ที่โรงเรียนฮอกวอตส์มาก่อน กระบวนการทำงานของกระทรวง ทำให้ภาคีนกฟินิกซ์มิอาจวางใจสคริมเจอร์ได้เต็มร้อย ประกอบกับสคริมเจอร์ก็ไม่ไว้ใจพอตเตอร์ เขามองว่าเด็กชายคนนี้จองหองดื้อด้าน ประกอบกับคนในภาคีพยายามทำบางสิ่งลับหลังกระทรวงอยู่ตลอดเวลา การต่อไม่ติดนี้ถือเป็นแต้มต่อแก่โวลเดอมอร์ เพราะเขาสามารถสังหารสคริมเจอร์และให้ ไพอัส ทิกเนส ขึ้นเป็นรัฐมนตรีคนใหม่ เวลานี้คนของกระทรวงไม่ต่างอะไรจากผู้เสพความตาย ภายใต้การควบคุมของทิกเนสผู้เป็นหุ่นเชิดของโวลเดอมอร์อีกทีนำยุคมืดมาสู่สังคมผู้วิเศษ เขาบอกกับทุกคนว่ารัฐมนตรีคนเก่าลาออกไปแล้ว ผู้เสพความตายจะเสกคาถาโหดเหี้ยมใส่ใครก็ได้โดยไม่ต้องกลัวถูกจับ สังคมเกิดอาชีพใหม่เรียกว่า ‘นักต้อน’ คอยจับคนหลบหนีรีดไถเงินก่อนส่งตัวให้กระทรวงเพื่อรับค่าหัวอีกที กระทรวงคุมเข้มเครือข่ายผงฟลูที่ใช้เดินทาง ควบคุมสื่อเพื่อป้ายสีพรรคพวกของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทำให้เขากลายเป็นผู้ไม่พึงปรารถนาหมายเลข 1 เปิดช่องว่างทางกฎหมายใช้กำลังบีบบังคับหรือทรมานเพื่อรีดข้อมูลจากแหล่งข่าว ส่งผู้เสพความตายไปคุมฮอกวอตส์ สถานที่สำคัญของผู้วิเศษอังกฤษที่บ่มเพาะเยาวชนรุ่นใหม่ นอกจากการตามล่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ กระทรวงเวทมนตร์ยังทรมานพวกพ่อมดแม่มดที่เกิดจากครอบครัวมักเกิ้ล โดยอ้างเหตุผลไร้สาระว่า กองปริศนาเพิ่งทราบข้อมูลเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่จะสืบทอดกันเป็นรุ่น ๆ ทางสายเลือด หากลูกมักเกิ้ลคนไหนไม่สามารถพิสูจน์ว่าบรรพบุรุษเป็นผู้วิเศษ จะถูกกล่าวหาว่าลักขโมยหรือยึดอำนาจวิเศษจากผู้วิเศษคนอื่นเป็นของตน (แน่นอนว่าเป็นข่าวปลอม) ออกข้อบังคับให้มักเกิ้ลในโลกผู้วิเศษต้องแสดงตัวต่อคณะกรรมาธิการลงทะเบียนผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล ซึ่งเป็นหน่วยงานตั้งขึ้นใหม่เพื่อทรมานผู้คนโดยเฉพาะ
"กลับไปรับลูก ๆ แล้วรีบหนีไป ออกจากประเทศนี้เลยถ้าจำเป็น
ปลอมตัวแล้วหนีไปเลย คุณก็เห็นว่ามันเป็นอย่างไร
เขาไม่พิพากษาคุณอย่างยุติธรรมหรอก"
– แฮร์รี่ พอตเตอร์ เอ่ยกับนางแคตเตอร์โมล
หลังช่วยเธอออกจากการสอบสวนของ โดโรเลส อัมบริดจ์ ปลัดกระทรวงอาวุโส
พ่วงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการลงทะเบียนผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล
พูดกันตามจริงแล้ว โวลเดอมอร์คือรัฐมนตรีหลังม่าน เขาให้ทิกเนสรับหน้าทำงานบริหารประจำวัน อนุมัติกฎหมายไม่เข้าท่า ทำทุกอย่างตามประสงค์ของโวลเดอมอร์ ส่วนตัวของจอมมารเอาเวลาไปขยายอำนาจนอกกระทรวง เพราะหากโวลเดอมอร์เปิดเผยตัวตน ก็จะมีคนต่อต้าน ถ้ายังใส่หน้ากากไว้ ผู้คนจะสับสน ไม่แน่ใจ และหวาดกลัวกับทุกสิ่ง
ถึงแม้ทิกเนสตกอยู่ภายใต้คำสาปสะกดใจ แต่การบริหารงานของเขาล้วนเกิดขึ้นจริง มีผู้บริสุทธิ์จำนวนมากถูกส่งไปขังในอัซคาบัน คนที่ควรอยู่ในคุกจริง ๆ กลับออกมาเดินว่อนอยู่เต็มกระทรวง มีคนถูกสังหารเพียงเพราะความสะใจ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกต่อไป ผู้วิเศษและสัตว์วิเศษอย่างก๊อบลินต่างพากันซ่อนตัว ทุกคนรู้สึกหมดหวังกับการบริหารงานของไพอัส ทิกเนส เวลาเดียวกัน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเพื่อน ๆ กำลังออกเดินทางตามหาฮอครักซ์ที่ซ่อนเสี้ยววิญญาณของจอมมาร ควบคู่กับการพยายามหนีการจับกุมของกระทรวงเวทมนตร์ ทำให้เขาต้องหายหน้าไปจากสังคม พออยู่ ๆ คนที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านอำนาจมืด ชายผู้ถูกลือกันว่าเป็น “ผู้ถูกเลือก” หรือ “เด็กชายผู้รอดชีวิต” หรือ “ผู้ไม่พึงปรารถนาหมายเลข 1” หรือแม้กระทั่งผู้สามารถสยบจอมมารหายหน้าหายตาไป ความรู้สึกหมดหวังได้เกาะกุมหัวใจของผู้วิเศษไว้หมดแล้ว ประชาชนอยากให้พอตเตอร์ออกมาปลุกระดมต่อต้านโวลเดอมอร์ อยากให้เขาออกมาต่อสู้กับความโหดร้ายที่ทุกคนกำลังเผชิญ รอคอยเขาอย่างหมดหวัง แต่ถึงทิกเนสและโวลเดอมอร์เข้าคุมสื่อใหญ่อย่างเดลี่ พรอเฟ็ต ช่วงแรกของกลียุคกลับมีสื่อนอกสายตาอย่างนิตยสารเดอะควิบเบลอร์ และคลื่นวิทยุลับเฉพาะชื่อว่า จับตาพอตเตอร์ ที่ยืนหยัดอยู่ข้างเด็กชายผู้รอดเสมอ แม้เดอะควิบเบลอร์ถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้วไร้สาระมาตลอด แต่การมีสื่อออกตัวยืนข้างพอตเตอร์สร้างความรู้สึกมั่นใจให้ความหวังกับผู้คนมากกว่าที่คิด น่าเศร้าที่ภายหลังเจ้าของนิตยสารผู้ควบตำแหน่งบรรณาธิการถูกเจ้าหน้าที่กระทรวงและผู้เสพความตายกดดันอย่างหนัก จนเขาต้องขายข่าวความเคลื่อนไหวของแฮร์รี่แลกกับการปล่อยตัวลูกสาว ลูน่า เลิฟกู๊ด ที่ถูกจับไปขังระหว่างอยู่ที่โรงเรียน นอกจากนี้ ภายใต้การควบคุมของรัฐมนตรีหุ่นเชิด กลุ่มผู้เสพความตายรู้ดีว่าคนต่อต้านจอมมารกล้าเอ่ยชื่อ “โวลเดอมอร์” ออกมาอย่างไม่เกรงกลัว จึงได้ใส่คำแช่งเอาไว้ในคำคำนี้ หากใครเอ่ยชื่อจอมมาร คาถาป้องกันทุกอย่างจะหายไป พวกเขาสามารถส่งคนไปตามหาคนพูดจนเจอทุกครั้ง ถือเป็นการรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งผู้วิเศษทั่วไป พ่อมดแม่มดที่เกิดจากมักเกิ้ล หรือใครก็ตามที่กล้าต่อต้านโวลเดอมอร์ ที่ใช้กระทรวงเป็นฉากบังหน้า
"พี่น้องประชาชนทั้งหลาย อย่าหลงใหลได้ปลื้มไปกับความรู้สึกปลอดภัยหลอก ๆ นี้
อย่าคิดว่าเขาออกไปจากประเทศแล้ว บางทีเขาอาจจะไป หรือไม่ไปก็ได้
ดังนั้นถ้าคุณวางแผนทำอะไรเสี่ยง ๆ โปรดอย่าวางใจว่าเขาอยู่ไกลตัว"
- เฟร็ด วิสลีย์ เอ่ยถึงโวลเดอมอร์ผ่านคลื่นวิทยุกระจายเสียงในรายการ ‘จับตาพอตเตอร์’
ท้ายที่สุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ปรากฏตัวยังปราสาทฮอกวอตส์เพื่อปิดฉากภารกิจอันยาวนาน ผู้คนที่ไม่ฝักใฝ่ศาสตร์มืด คนจากภาคีนกฟินิกซ์ เหล่าอาจารย์ ประชาชน เด็กนักเรียนของโรงเรียนใช้ฮอกวอตส์เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายเพื่อต่อสู้กับโวลเดอมอร์และผู้เสพความตาย รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์อย่าง ไพอัส ทิกเนส ก็เข้าร่วมสงครามด้วย โดยอยู่ฝ่ายเดียวกับโวลเดอมอร์ หลังสงครามฮอกวอตส์จบลงพร้อมกับการปราชัยของจอมมาร อำนาจของโวลเดอมอร์ที่ทำรัฐประหารแบบเงียบ ๆ จบสิ้นลงแล้ว ทิกเนสหลุดพ้นจากคำสาปสะกดใจของแยกซ์ลีย์ และถูกขับลงจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ โดย คิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์ หนึ่งในสมาชิกของภาคีนกฟินิกซ์ ขึ้นเป็นผู้รักษาการแทนชั่วคราว (ภายหลังเขาถูกรับเลือกเป็นรัฐมนตรีคนถัดไป) ไม่มีการระบุชัดเจนถึงชีวิตของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์หลังลงจากตำแหน่ง ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเขาถูกดำเนินคดีย้อนหลังหรือไม่ ถึงจะโดนคดีเขายังสามารถให้เหตุผลว่าทำไปเพราะอยู่ภายใต้คำสาปสะกดใจ แตกต่างจากเวอร์ชันภาพยนตร์ที่เขาถูกโวลเดอมอร์ฆ่าทิ้งอย่างไม่ไยดี หลังจากพยายามเตือนจอมมารว่าควรคิดให้ถี่ถ้วนก่อนโจมตีฮอกวอตส์ หลังอำนาจมืดผ่านพ้นไป โลกผู้วิเศษในอังกฤษกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติอีกครั้ง แม้สังคมต้องสูญเสียผู้กล้ามากมายระหว่างจอมมารยึดครองกระทรวง รวมถึงสงครามใหญ่ที่ฮอกวอตส์ ตอนนี้ความสงบสุขกลับคืนสู่สังคมอีกครั้ง พร้อมกับบทเรียนครั้งใหญ่ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ และจะถูกส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานสืบไป ที่มา เจ.เค. โรว์ลิง. 2550. แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เครื่องรางยมทูต. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์ #ThePeople #Politics #Culture #HarryPotter #DeathlyHallows #แฮร์รี่ #แฮร์รี่พอตเตอร์ #โวลเดอมอร์ #รัฐมนตรีหุ่นเชิด #ไพอัสทิกเนส #รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์