ซีเจ โจนส์: การต่อสู้ของนักแสดงหูหนวกผู้อยู่เบื้องหลังภาษามือของชาวนาวีใน Avatar 2

ซีเจ โจนส์: การต่อสู้ของนักแสดงหูหนวกผู้อยู่เบื้องหลังภาษามือของชาวนาวีใน Avatar 2

เบื้องหลังภาษามือใน Avatar: The Way of Water ไม่ใช่ของเดิมที่ผู้พิการทางการได้ยินใช้กันตามปกติ แต่เป็นภาษาแบบใหม่ที่สร้างสรรค์โดย ‘ซี เจ โจนส์’ (CJ Jones) นักแสดงหูหนวกมากความสามารถ ผู้ขับเคลื่อนสร้างโอกาสให้ผู้พิการมีพื้นที่อาชีพในฮอลลีวูดและอุตสาหกรรมบันเทิง

  • ชีวิตวัยเด็กของ ซี เจ โจนส์ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงกับชีวิตช่วงแรกที่หูได้ยิน
  • ฝ่าฟันพิสูจน์ตัวเองท่ามกลางอุปสรรคฮอลลีวูดจนได้ไปอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Baby Driver 
  • มุ่งมั่นขับเคลื่อนสร้างโอกาสให้ผู้พิการผ่านการก่อตั้ง ‘Sign World TV’ บริษัทสื่อที่จะเชื่อมต่อผู้พิการเข้ากับอุตสาหกรรมอย่างไร้รอยต่อ 

Avatar: The Way of Water นับเป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่ใช้เวลาการพัฒนายาวนานกว่าทศวรรษ จากความนิยมเทคโนโลยีภาพ 3D ทะลุมิติ สู่จุดเด่นที่เน้นความสมจริงเกินจับผิดของ CGI ยุคปัจจุบัน ที่ช่วยเติมเต็มความมหัศจรรย์จากจินตนาการของ ‘เจมส์ คาเมรอน’ (James Cameron) ให้ออกมาเป็นจริง (แม้ต้นทุนจะสูงเฉียดฟ้าก็ตาม)

ภายในภาพยนตร์ก็มีความพิเศษให้น่าจับตามองมากมายเต็มไปหมด โดยเฉพาะรายละเอียดของสรรพสิ่งที่สวยงามแถมยังเสมือนจริงเสียจนแยกไม่ออก รายละเอียดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความละเมียดละไมในการค่อย ๆ ประดิษฐ์ทุกองค์ประกอบจากฝีมือทีมงานการสร้าง จนถึงขั้นที่ว่าภาษามือของชาวนาวีที่ใช้สื่อสารกันใต้น้ำยังเป็นภาษาที่ไม่เหมือนที่ไหนบนโลก เพราะว่าทางทีมสร้างได้คิดกันขึ้นมาใหม่!

โดยการสร้างสรรค์ภาษามือเฉพาะของชาวนาวีก็ได้รับการช่วยเหลือจาก ‘ซีเจ โจนส์’ (CJ Jones) นักแสดงผิวดำผู้พิการทางการได้ยิน โดยโจนส์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาไม่อยากคิดภาษามือในแบบที่จะไปซ้ำกับสิ่งที่มีอยู่บนโลกใบนี้ เขาจึงต้องลงแรงคิดมันขึ้นมาเองใหม่ทั้งหมด

ผมต้องเน้นเอาท่าทางและภาษากายมาใช้และออกแบบว่าชาวนาวีจะสื่อสารกันอย่างไรเมื่ออยู่ใต้น้ำ ดังนั้นเวลาผมคิดภาษาเหล่านั้น ผมจึงตัดสินใจที่จะเน้นการเข้าใจความรู้สึกและเข้าถึงจิตวิญญาณของพวกเขา

แม้ว่าเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ในเรื่องที่ผู้ชมบางคนอาจจะไม่ทันได้สังเกต แต่โจนส์ก็ทุ่มสุดฝีมือที่จะสร้างงานที่ละเอียด เหมือนดังสิ่งที่เขาต่อสู้และรณรงค์ให้ความรู้ต่อสังคมและอุตสาหกรรมบันเทิงเสมอมาว่า ‘ผู้พิการทางการได้ยินก็ทำได้’

เรื่องราวที่น่าสนใจของโจนส์ไม่ได้หยุดอยู่ตรงแค่ว่าเขาเป็นนักแสดงผู้อยู่เบื้องหลังภาษามือของชาวนาวีใน Avatar: The Way of Water เพราะกว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ เขาต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างมาก ในฐานะผู้พิการทางการได้ยินที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง เพื่อพิสูจน์ให้สังคมและอุตสาหกรรมได้เห็นว่าคนที่ไม่ได้ยินแบบเขาก็สามารถทำงานได้อย่างไม่บกพร่อง

แต่เขาไม่ได้หยุดแค่การสู้เพื่อตัวเอง แต่ยังยังสู้เพื่อคนอื่น ๆ อีกหลาย ๆ คนที่อาจจะเชื่อว่าตัวเองทำไม่ได้ หรือโดนคนอื่นบอกว่าพวกเขาทำไม่ได้ การตีแผ่วัฒนธรรมคนหูหนวกของเขาได้ช่วยขับเคลื่อนสังคม เป็นกำลังใจ และเปิดโอกาสและเปลี่ยนชีวิตของใครหลายคนอีกมากมาย

ความฝันวัยเด็กที่เริ่มจากเห็นพี่เต้นแท็ปแดนซ์

ผมมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ และความฝันที่ใหญ่ยิ่งของผมก็ประกอบไปด้วยการเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้กำกับ นักแสดง นักเขียน นักดนตรี หรือแม้แต่เป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจให้คนทุกคน

ครอบครัวของโจนส์ประกอบไปด้วยพ่อและแม่ผู้พิการทั้งการได้ยินทั้งสองคนและพี่น้องรวมตัวเขาเป็นจำนวน 7 คน ซึ่งหูได้ยินทั้งหมด รวมถึง ซีเจ โจนส์เองด้วย แต่ต่อมาไม่นาน เมื่ออายุ 7 ขวบ เขาก็ติดเชื้อที่ทำให้เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังของเขาอักเสบ จึงต้องสูญเสียการได้ยินไปในที่สุด แต่สำหรับโจนส์ การสูญเสียการได้ยินก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรขนาดนั้น เพราะพ่อแม่ของเขาเองก็ใช้ภาษามือกันเป็นหลักอยู่แล้ว การที่เขาต้องหูหนวกจึงไม่ได้ทำให้ตัวเขาต้องรู้สึกขาดหายอะไรบางอย่างไปขนาดนั้น

ไฟแห่งความฝันในการเป็นนักแสดงของโจนส์กำเนิดขึ้นตั้งแต่เขาอายุเพียง 5 ขวบ โจนส์เล่าว่าเขามักจะนั่งดูพี่ของเขาเต้นแท็ปแดนซ์ (Tap Dance) บนเรือที่แล่นอยู่ในแม่น้ำของรัฐมิสซิสซิปปี  ในขณะเดียวกันนั้นเอง โจนส์ก็สังเกตว่าผู้ชมแต่ละคนที่ยืนดูพี่ของเขาแสดงการเต้นอยู่นั้นล้วนสนุกสนานเฮฮา เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข โจนส์จึงหยิบเอาความประทับใจตรงนั้นไปคิดการแสดงของตัวเองบ้าง

แม้จะไม่สามารถสื่อสารทางเสียงได้ แต่โจนส์ก็เลือกที่จะสื่อสารเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านภาษากายแทน ไม่ว่าจะเป็นการตีกลอง เล่าเรื่องผ่านภาษามือ หรือแม่กระทั่งสวมบทบาทเป็นคาวบอยขี่ม้า ผู้คนที่ได้ชมการแสดงของเขาก็กลับชอบกันเอามาก ๆ ผู้คนต่างพากันสนุกสนานกับการแสดงของโจนส์

ตอนนั้นแหละครับที่ทุกอย่างเกิดขึ้น ภาพฝันทุกอย่างปรากฎขึ้น ณ เบื้องหน้าของผม ผมได้ตระหนักถึงหลากหลายความเป็นไปได้ที่ผมสามารถลงมือทำ

จากจุดนั้นทำให้ ซีเจ โจนส์ ย้ำชัดกับตัวเองว่าการสูญเสียการได้ยินของเขาไม่ได้เป็นข้อบกพร่องหรือความพิการ เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ยิน แต่เขาก็สามารถบรรลุเป้าหมายหรือสิ่งที่อยากทำได้ดังเดิม เขาเป็นนักอเมริกันฟุตบอลสมัยเรียนมัธยม แถมยังเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้านละครเวที พอเรียนจบก็เดินหน้าต่อไปสมัครเข้า ‘National Theater of the Deaf’ (NTD) ทำให้เขาได้ทัวร์แสดงในหลากหลายประเทศ

การแสดงของโจนส์ดำเนินไปได้ด้วยความสำเร็จ เขาได้เดินหน้าไปแสดงโชว์ให้คนทุกเพศทุกวัยได้ชม จากเด็กอนุบาลยันผู้สูงอายุ ทุกคนล้วนหัวเราะด้วยความสุขจากการแสดงของเขา โดยที่ผู้ชมกว่า 90% ก็ไม่ได้พิการทางการได้ยินเลย 

 

อุปสรรคในฮอลลีวูดกับความสำเร็จมาฝากแม่

ตอนนั้นผมก็คิดนะสาเหตุมันเพราะอะไรกัน เพราะสีผิวของผมหรอบวกกับที่ผมหูหนวกหรอ ฮอลลีวูดก็เลยไม่ยอมรับผมเพราะไม่รู้จะเอาผมไปทำอะไร

ซีเจ โจนส์ ก้าวเท้าเข้าสู่ฮอลลีวูดด้วยความมั่นใจ แต่ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมจะยังไม่เปิดโอกาสให้คนอย่างโจนส์เสียเท่าไหร่นัก เขาไล่หางานและสมัครตามที่ต่าง ๆ เท่าที่จะหาได้ แต่คำปฏิเสธคือเสียงตอบรับส่วนใหญ่ที่เขามักได้รับ 

จนกระทั่งวันหนึ่งผมมีสายโทรศัพท์เรียกให้ผมไปออดิชันบทของภาพยนตร์เรื่อง Baby Driver

ในใบประกาศหานักแสดงพวกเขาประกาศว่าอยากได้คนดำที่หูหนวกจริง ๆ มารับบท แต่ถึงกระนั้นเหล่าผู้สร้างก็ถกเถียงกับผู้กำกับ เอ็ดการ์ ไรท์ (Edgar Wright) ว่าควรแคสท์คนที่ไม่พิการจะดีกว่า แม้ในบทจะระบุว่าหูหนวกก็ตาม แต่ไรท์ก็ยืนกรานกับเหล่าผู้สร้างว่าเขาต้องการความแท้จริงในนักแสดง ถ้าบทระบุว่าหูหนวกผู้ที่จะมาสวมบทก็ควรจะมีคุณลักษณะตามนั้นจริง ๆ 

ท้ายที่สุดผมก็ได้บทนั้นไป แล้วผมก็ทุ่มสุดความสามารถเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลยว่าเหล่าผู้สร้างนั้นคิดผิด! พิสูจน์ว่าผมก็ทำงานในฐานะนักแสดงได้อย่างดีเยี่ยม! ผมทำให้เขาลืมไปอคติเก่า ๆ ไปเลยว่าผมเป็นคนดำ ว่าผมเป็นคนหูหนวก เพราะสิ่งแรกที่เขาเห็นคือทักษะและความสามารถของผม และนั่นคือสิ่งสำคัญที่พวกเขาน่าจะได้เรียนรู้กันไป

ภาพยนตร์เรื่อง Baby Driver ถือเป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่องแรกในชีวิตของ ซีเจ โจนส์ ถือเป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของเขาได้ปรากฎบนจอเงินที่จะถูกฉายไปในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก โจนส์จึงเห็นว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะพาแม่ที่ในตอนนั้นอายุ 94 ปี ไปเชยชมความสำเร็จของลูกชายในโรงภาพยนตร์เสียหน่อย 

ผมและพี่น้องทั้งครอบครัวก็พาคุณแม่ไปที่โรงภาพยนตร์เพื่อที่จะให้ท่านได้เห็นผมบนจอใหญ่ยักษ์เป็นครั้งแรก เธอนั่งข้าง ๆ ผมในโรงภาพยนตร์ แต่ช่วงนั้นสุขภาพเธอก็ค่อนข้างร่วงโรยแล้ว เธอก็เผลอหลับไป ผมเลยปลุกเธอตอนฉากที่ผมปรากฎขึ้นพอดี

พอเธอเห็นผมบนจอภาพยนตร์ ตาของเธอเป็นประกาย แล้วเธอก็หันมาถามผมว่า “ทำไมลูกหน้าแก่จัง?” ผมก็เลยตอบกลับไปว่า “ใจเย็นก่อนแม่ ผมแค่แสดงเป็นบทคนแก่เฉย ๆ เขาก็แต่งหน้าให้ผมเหมือนคนแก่ตามบทน่ะ” เธอก็ตอบกลับว่ามันสวยงามมาก ๆ

ผมได้ตอบแทนแม่ของผมด้วยการมอบความฝันของเธอที่อยากจะเห็นลูกชายของเธอบนจอภาพยนตร์สักครั้งหนึ่งในชีวิต ความฝันของเธอเป็นจริง แล้วเธอก็ได้เห็นผมเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จ ผมถือว่านั่นเป็นของขวัญที่สวยงามมาก ๆ ที่ผมมอบให้กับเธอ

โจนส์เล่าต่อว่าหลังจากออกมาจากโรงภาพยนตร์ มีผู้คนแห่แหนกันมาขอลายเซ็นต์ของเขาและชื่นชมเขาต่าง ๆ นา ๆ ระหว่างนั้นเอง

เขาเหลียวหลังไปดูแม่ที่เฝ้ามองเขาอยู่ห่าง ๆ เธอยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ ณ วินาทีนั้นโจนส์เล่าว่าเขาภูมิใจมาก ๆ ถึงกับร้องไห้ออกมาเลย

แม่ของโจนส์จากโลกนี้ไปอย่างสงบหนึ่งเดือนหลังจากได้เชยชมความสำเร็จของลูกชาย นับเป็นความสำเร็จที่ใหญ่ยิ่งและของขวัญอันล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่โจนส์มอบให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย

 

ขับเคลื่อนขยายโอกาสให้ผู้พิการทางการได้ยินผ่าน Sign World TV

อีกหนึ่งบทบาทหนึ่งที่น่าพูดถึงไม่แพ้กันสำหรับ ซีเจ โจนส์ คือการที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสื่อ ‘Sign World TV’ ด้วยความุ่งหวังที่จะผสานและสร้างโอกาสให้ผู้พิการทางการได้ยินได้มีที่ทางในการทำงานกับอุตสาหกรรมความบันเทิง และเพื่อพิสูจน์ในศักยภาพที่ใครหลายคนอาจมองข้าม

โดยจะมีการพา ไม่ว่าจะเป็นคนหูหนวกหรือหูได้ยินมาทำงานด้วยกันในหลากหลายตำแหน่ง ตั้งแต่นักแสดง นักเขียน ผู้กำกับ และผู้ควบคุมการผลิต ดังที่โจนส์เคยกล่าวไว้ว่าเป็นความฝันของเขา โดยก็มีการวางแผนการผลิตคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบตั้งแต่ซีรีส์ สารคดี รายการอาหาร และอีกมากมาย ซึ่งจะถูกเล่าผ่านภาษามือ แต่ก็จะมีการพากย์หรือการใส่ซับไทเทิลให้ผู้ชมทุกกลุ่มสามารถรับชมได้

แม้จะริเริ่มจากคนไม่กี่คน แต่เราก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเส้นทางการต่อสู้ขับเคลื่อนของ ซีเจ โจนส์ ได้ดำเนินมาไกลอยู่ไม่น้อย แถมยังช่วยเปลี่ยนความคิด ขยายความเข้าใจและมุมมองที่ใครหลายคนมักมีต่อผู้พิการในด้านต่าง ๆ ว่าพวกเขาไม่น่าจะมีศักยภาพที่จะทำงานได้

โจนส์พิสูจน์ตัวเองผ่านการมุ่งมั่นทำงานในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อที่จะเป็นตัวอย่างที่ประจักษ์ชัดต่อใครทุกคนได้เห็นว่า ไม่ว่าจะหูได้ยิน หรือไม่ได้ยิน พวกเขาก็สามารถที่จะแสดงด้วยฝีมืออันเปี่ยมล้นได้ ไม่ว่าจะใช้ภาษาเสียงหรือภาษามือ ผู้ชมก็สามารถหัวเราะไปกับเรื่องราวได้ไม่ต่างกัน 

 

ภาพ:

Matt Winkelmeyer/GA / Contributor - Getty Images

@officialavatar - Twitter

IMDb

 

อ้างอิง:

Faces Behind the Screen: CJ Jones - 3PlayMedia

CJ Jones — comedian, actor, writer, director, producer - Ability Magazine

CJ Jones - About

I Dream with My Eyes Open. | CJ Jones | TEDxUCDavis - TEDx Talks