08 ม.ค. 2567 | 18:06 น.
- กากัน มาลิค นักแสดงชื่อดังบอลลีวูด ผู้เข้ามารับบทเป็นพระพุทธเจ้าในภาพยนตร์เรื่อง Sri Siddhartha Gautama
- เพราะบทบาท ‘เจ้าชายสิทธัตถะ’ ทำให้อยากศึกษาในพระธรรม และรู้สึกเสื่อมใสจนอยากเป็นผู้พลิกฟื้นศาสนาพุทธในประเทศอินเดีย
แม้ว่าในประเทศอินเดียจะมีผู้ที่นับถือศาสนาพุทธเพียง 1 - 2% ของประชากรทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็มี ‘กากัน มาลิค’ ที่พยายามพลิกฟื้นศาสนาพุทธในอินเดีย หลังจากที่รู้สึกซาบซึ้งในรสพระธรรม และเข้าถึงบทบาท ‘พระพุทธเจ้า’ อย่างสมบูรณ์
“ผมเกิดในครอบครัวฮินดู และก็เดินตามรอยของฮินดูมาตลอด แต่การเตรียมตัวเพื่อสวมบทบาทของเจ้าชายสิทธัตถะ จนไปถึงตอนที่บวชเป็นพระพุทธเจ้า ผมรู้สึกซาบซึ้งและอยากเรียนรู้ให้มากขึ้นตั้งแต่นั้นมา”
กากัน มาลิค (Gagan Malik) นักแสดงบอลลีวูดชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์ที่วัดพระพุทธแสงธรรม - ธรรมยุต เกี่ยวกับเรื่องราวของเขาที่หันหน้าเข้าสู่เส้นทางพระพุทธศาสนา หลังจากที่ได้เรียนรู้และศึกษาในวิถีของพุทธศาสนา และเกิดประทับใจ
ขณะเดียวกันครั้งหนึ่งเขาได้เคยเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เพื่อศึกษาวิถีของพระพุทธศาสนา จนซึมซับในรสพระธรรม และวางเป้าหมายว่า ตัวเขานั้นจะขอทำแค่ ‘กรรมดี’ และระลึกเสมอว่า ตัวเขานั้นเกิดมาเพื่อทำอะไร
บทบาท ‘พระพุทธเจ้า’ สอนบางอย่าง
ท่าทางที่เงียบสงบของ ‘กากัน มาลิค’ ช่วงระหว่างที่ให้สัมภาษณ์ เขาได้พูดถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ทำให้ค้นพบทางสว่างเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ‘Old Path White Clouds’ เขียนโดย Thich Nhat Hanh พระสงฆ์เวียดนาม เป็นหนังสือที่เล่าเกี่ยวกับเจ้าชายสิทธัตถะ ตั้งแต่ตอนที่เป็นเจ้าชาย จนออกบวช
ตลอดการศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา กากัน มาลิค ได้เรียนรู้ตั้งแต่การเดิน การนั่ง การยืน ทุก ๆ อิริยาบถ เพื่อให้ตัวเองเข้าถึงบทบาทมากที่สุด
“สำหรับผมในฐานะที่เป็นนักแสดง การรับบทเป็น ‘พระพุทธเจ้า’ จะเล่นได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต คุณจะไม่มีสิทธิ์เล่นซ้ำอีกแล้ว ดังนั้น การสวมบทบาทได้อย่างถูกต้อง ผ่านการเรียนรู้ การฝึกฝน เป็นเรื่องสำคัญมาก
“ตอนที่เรายังเป็นแค่นักแสดง โดยทั่วไปเราจะมีความต้องการอยู่แค่ไม่กี่อย่าง คือ ความดัง, ความรวย และยศถาบรรดาศักดิ์ แต่ความพยายามที่ต้องรับบทเป็นพระพุทธเจ้าให้ดีให้เหมาะสม กลับสอนให้เข้าใจว่า มันมีการสละออก สละเพื่อผู้อื่น สละทิ้งเพื่อหาปณิธานบางอย่าง”
กากัน มาลิค มักจะได้รับบทบาทการแสดงในบทของมหาเทพ ตั้งแต่ พระวิษณุนารายณ์, พระราม, พระกฤษณะ ในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ของอินเดีย แต่เรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาก็คือเรื่อง รามายัน (รามเกียรติ์) โดยรับบทแสดงนำเป็น ‘พระราม’
นอกจากนี้ เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม ในเทศกาลภาพยนตร์ World Bhuddhist Film ที่จัดขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติ (UN) จากบทบาทที่แสดงเป็น ‘เจ้าชายสิทธัตถะ’ จากภาพยนตร์เรื่อง Sri Siddhartha Gautama ซึ่งเขาบอกว่า บทบาทของการเล่นเป็นพระพุทธเจ้า ทำให้เขาได้แง่คิดหลายอย่าง
“ตอนนี้สำหรับผม ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นบนโลกใบนี้อีกแล้ว ศาสนาอื่นที่ได้สอนมา มีแต่บอกว่าให้กลัวการเกิดแก่เจ็บตาย แต่พระพุทธเจ้ากลับบอกให้ยอมรับ ดังนั้น ผมในฐานะที่เป็นนักแสดง การแก่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เพราะในระหว่างที่ผมยังฟิตยังดูหล่อ ผมก็ยังสามารถอยู่ได้ในหน้าที่ตรงนี้ แต่ถ้าผมแก่ไป คนก็อาจจะไม่สนใจแล้วก็ได้
“ดังนั้น ผมจึงอยากใช้ชีวิตเพื่อกระทำกรรมที่ดี ถ้าตอนที่ผมแก่ไปแล้ว ผมได้เคยทำกรรมดีต่อผู้อื่น คนก็อาจจะหันมามองผม จดจำผมเพราะกรรมดีที่ได้ทำไว้ ไม่ใช่จดจำเพราะความหล่อที่มี”
ทั้งนี้ กากัน มาลิค ได้สร้างมูลนิธิไตรรัตนภูมิเมื่อ 2 ปีก่อนด้วย เพื่อรับกิจกรรมส่งเสริมกิจการด้านพระพุทธศาสนา และเผยแผ่ศาสนาพุทธในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเขาได้ขอรับบริจาคพระพุทธรูปจากคนไทย จำนวน 84,000 องค์ เพื่อมอบให้กับชาวอินเดีย เป็นการพลิกฟื้นคืนพระพุทธศาสนาสู่มาตุภูมิอีกครั้ง
“สิ่งที่ผมทำเป็นเพียงน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรเท่านั้น
“แม้ว่าพระพุทธเจ้าจะประสูติที่ประเทศอินเดีย แต่โชคร้ายเหลือเกินที่ศาสนาพุทธหายไปจากอินเดียเกือบหมด ใน 1 - 2% ของประชากรชาวพุทธในอินเดีย ที่ผมเห็นยังขาดวิถีปฏิบัติ ขาดประเพณี ขาดผู้ยึดถือและปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง แต่สิ่งที่ผมเห็นในประเทศไทย ทั้งความเคารพของชาวพุทธ การนับถือ หลักคำสอน หลักปฏิบัติต่าง ๆ มันน่าเสียดายมากที่สิ่งเหล่านี้ไม่มีในอินเดีย
“ผมอยากจะเรียนรู้ธรรมะ เหมือนกับผมที่เคยแสดงภาพยนตร์ จึงตัดสินใจมาบวช และศึกษาธรรมะที่ประเทศไทย เรียนรู้อย่างถูกต้องที่จะเป็นพระภิกษุ”
ซึ่งมีหลายครั้งมาก ๆ ที่ กากัน มาลิค มักจะแฝงคำสอนน่าคิดจากความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา แก่ผู้ที่ได้สัมภาษณ์ อย่างเช่นประโยคที่เขาสอนว่า “คุณอาจจะนับถือศาสนาฮินดู มุสลิม ซิกข์ คริสต์ หรืออะไรก็ได้ แต่คุณแค่เพิ่มวิถีปฏิบัติบางอย่างของชาวพุทธ เพื่อให้เราเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่ดีขึ้น นี่แหละที่สังคมต้องการ”
สิ่งสวยงามเหล่านี้จากคำพูด จากความคิด และหลักปฏิบัติจริงของกากัน มาลิค ไม่ใช่ในฐานะนักแสดงชื่อดัง แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ผู้เขียนมองว่า เขามีจิตศรัทธาอันแรงกล้าที่จะถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับธรรมะ ทั้งที่ครอบครัวของเขายังนับถือศาสนาฮินดู
‘พระพุทธเจ้า’ ไม่ใช่แค่บทบาท
กากัน มาลิค มีโอกาสได้เล่าถึงตัวเองก่อนที่จะได้รับบทบาทแสดงเป็น ‘เจ้าชายสิทธัตถะ’ ผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวศรีลังกา Navin Gunarathna ได้เดินทางมาที่เมืองมุมไบพร้อมผู้กำกับ และได้เจอกับกากัน มาลิค ซึ่งเขาได้ออดิชันกับนักแสดงคนอื่นอีก 300 คนทั่วโลกสำหรับบทบาทนี้
Navin เดินทางมาที่บ้านของกากัน มาลิค เพื่อดูรายละเอียดอื่น ๆ ที่มากกว่าการเป็นนักแสดง การใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาสามารถอยู่ในบทบาทนี้ได้ และยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นได้
“การรับนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระราม หรือ พระพุทธเจ้า คุณต้องแน่ใจว่าการแสดงของคุณเพอร์เฟกต์ ซึ่งการแสดงอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่คุณต้องเข้าถึงบทบาท และเป็นคาแรกเตอร์นั้นตลอดเวลา”
“การที่ผมจะเข้าใจเจ้าชายสิทธัตถะได้ก็ไม่ง่ายเช่นกัน เพราะแค่ทิ้งลูก ทิ้งเมีย ทิ้งสมบัติทุกอย่างไป แค่พูดมันดูเหมือนง่ายมาก แต่ชีวิตจริงมันยาก เป็นสิ่งที่ยากที่สุดของมนุษย์ เพราะ 99% ของคนในโลกใช้ชีวิตอยู่กับวัตถุนิยม”
และการที่เขาได้ศึกษาเรื่องราวของพระพุทธเจ้า ในขณะเดียวกันภาพยนตร์ที่ตัวเขาเองจะได้เล่นนั้น ก็จะเผยแพร่ไปทั่วในหลายประเทศ แม้แต้ออสเตรีเลีย หรือยุโรป คำถามเดียวที่อยู่ในใจเขามาตั้งแต่ตอนนั้นก็คือ ‘เกิดอะไรขึ้นกับศาสนาพุทธในอินเดีย?’ และนั่นคือช่วงที่ทำให้เขาตั้งเป้าหมายว่า ต้องการฟื้นฟูศาสนาพุทธในอินเดีย ซึ่งจริง ๆ เคยเริ่มมาก่อนแล้วจากพระโพธิสัตว์ ดร.อัมเบดการ์ (Ambedkar) แต่ก็ยุติไปหลังจากเขาเสียชีวิตลง
นับจากนั้น กากัน มาลิค ตั้งปณิธานว่า การเผยแผ่ศาสนาพุทธในอินเดีย เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งเขามองว่า ‘พุทธวิถี’ สามารถอยู่ได้ในทุก ๆ ศาสนาโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะเป็นเพียงหลักคิดและหลักปฏิบัติ เพื่อปลุกจิตวิญญาณมนุษย์ทุกคนให้อยู่ร่วมกันได้ในสังคมอย่างสันติ
ภาพ : gaganmalik.official/ Instagram
อ้างอิง :
Has Gagan Malik Become A Buddhist Monk? Find Out The Truth!!/Srilanka News
คลิกใจให้ธรรม: พระกากัน อโสโก ผู้รับบท เจ้าชายสิทธัตถะ/ YouTube
“กากัน มาลิค” ซุปตาร์บอลลีวู้ด รับบทเจ้าชายสิทธัตถะ เดินทางมาบวชในเมืองไทย/กรุงเทพธุรกิจ