คิมุระ ทาคุยะ : ไอดอลคงกระพัน สมบัติของชาติญี่ปุ่น

คิมุระ ทาคุยะ : ไอดอลคงกระพัน สมบัติของชาติญี่ปุ่น

เรื่องราวของ ‘คิมุระซัง’ หรือ ‘คิมุระ ทาคุยะ’ (Kimura Takuya) ศิลปินไอดอลจากแดนญี่ปุ่นผู้ได้รับฉายา ‘ไอดอลคงกระพัน’ และ ‘สมบัติของชาติ’ กับเส้นทางชีวิตและการผ่านร้อนผ่านหนาวบนเส้นทางบันเทิงมานานกว่า 30 ปี

ในวงการบันเทิงญี่ปุ่น มีศิลปินอยู่คนหนึ่งที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘ไอดอลคงกระพัน’ หรือ ‘สมบัติของชาติ’ ชื่อของเขาคือ ‘คิมุระ ทาคุยะ’ (Kimura Takuya) ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล และยังคงรักษาความนิยมไว้ได้จนถึงทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการบันเทิงมานานกว่า 30 ปี 

ปัจจุบันแม้อายุอานามของคิมุระซังจะขึ้นหลักห้าไปแล้ว แต่เขายังคงเป็นที่รู้จัก ยังคงเป็นที่ชื่นชมสำหรับชาวญี่ปุ่นในทุกช่วงอายุ อะไรทำให้หนุ่มใหญ่คนนี้เป็นที่รักและชื่นชมของชาวญี่ปุ่นขนาดนี้ บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จัก ‘คิมุระซัง’ แบบเจาะลึกกันครับ

จากหนุ่มน้อยธรรมดาสู่เส้นทางบันเทิงที่เขาเลือกเอง

ในวัยเด็ก คิมุระ ทาคุยะ มีความน่าสนใจและเป็นแรงบันดาลใจหลายประการ ทั้งในแง่ของพรสวรรค์ ความมุ่งมั่น และการฝ่าฟันอุปสรรคจนประสบความสำเร็จ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลและเป็นต้นแบบให้กับคนรุ่นหลังได้

คิมุระ เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 1972 ที่เขตมินาโตะ กรุงโตเกียว เขาเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่ทำงานหนัก แม้ชีวิตในวัยเด็กจะไม่ได้สุขสบายนัก แต่เขาก็ได้รับความรักและการสนับสนุนจากครอบครัวเป็นอย่างดี สิ่งที่น่าสนใจคือ ตัวคิมุระนั้นมีความมุ่งมั่นและรู้จักเลือกเส้นทางของตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก

เมื่ออายุได้ 8 ขวบ เขาเข้าร่วมการออดิชันของ Johnny’s Entertainment ค่ายจัดหานักร้องนักแสดงชื่อดังของญี่ปุ่น ด้วยพรสวรรค์ในการเต้นและการแสดงเป็นที่น่าสนใจ ทำให้เขาได้เข้าสู่การฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอย่างจริงจังนับตั้งแต่ตอนนั้น

ในช่วงอายุ 10 ปี คิมุระได้แสดงละครเวทีเป็นครั้งแรก และเมื่ออายุ 11 ปี ก็ได้แสดงมิวสิกวิดีโอในเพลงของศิลปินรุ่นพี่จากค่ายเดียวกัน เขามีความขยันฝึกฝนด้านการร้องเพลง เต้น และแสดง จนได้ปรากฏตัวบนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นประจำในฐานะศิลปินเยาวชนประกอบการแสดง แม้จะมีงานในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก แต่คิมุระก็มุ่งมั่นกับการเรียนไปด้วย เขาเรียนจบชั้นมัธยมปลายจาก Horikoshi Gakuen ซึ่งเป็นโรงเรียนชื่อดังสำหรับเด็กที่ทำงานในวงการ

โรงเรียนบ่มเพาะความเป็นซูเปอร์สตาร์ของคิมุระซัง

หลังจากที่คิมุระ ทาคุยะ ได้เริ่มต้นเดบิวต์กับสมาชิกวง SMAP ในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล จากเด็กหนุ่มที่ฝึกฝนอย่างหนักในฐานะศิลปินเยาวชน กลายมาเป็นหนึ่งในสมาชิกวงบอยแบนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลของญี่ปุ่น แต่ปัจจัยหลักที่ทำให้ SMAP ประสบความสำเร็จอย่างสูง ไม่เพียงแค่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ทั่วทวีปเอเชีย มาจากหลายองค์ประกอบ ทั้งในแง่ของภาพลักษณ์ บุคลิกภาพ ความสามารถ และการวางตัวของสมาชิกในวง

ในแง่ของหน้าตาและผิวพรรณ สมาชิกวง SMAP ถือว่ามีเสน่ห์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่หล่อเหลา ผิวพรรณที่ดูดีตามแบบฉบับชายชาวญี่ปุ่น หุ่นที่ฟิตกระชับ ไม่ก้ามปูแต่ก็ไม่ผอมกะหร่อง ประกอบกับสไตล์การแต่งตัวที่ทันสมัย ทำให้พวกเขากลายเป็นไอคอนแฟชั่นที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่การเลียนแบบการแต่งกายและทรงผมเท่านั้น หากยังรวมถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดูเฉิดฉายและมีสไตล์อีกด้วย

ทว่าความโดดเด่นของ SMAP ไม่ได้มาจากรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขายังมีบุคลิกและอุปนิสัยที่น่าสนใจ สมาชิกแต่ละคนต่างมีเสน่ห์เฉพาะตัว มีความสามารถที่หลากหลายทั้งการร้องเพลง เต้น และแสดง แต่เมื่อรวมตัวกันแล้ว กลับเติมเต็มซึ่งกันและกัน สร้างเคมีที่ลงตัว ทั้งบนเวทีและนอกเวที พวกเขามีภาพลักษณ์ของการเป็นเพื่อนซี้ เป็นพี่น้องที่เข้าใจและซัพพอร์ตกันเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟน ๆ ชื่นชอบและคอยติดตาม

นอกจากนี้ สมาชิกวง SMAP ยังขึ้นชื่อในเรื่องการวางตัวที่เหมาะสม มีมารยาทและทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน พวกเขามีความเป็นมืออาชีพสูง ทุ่มเทกับการแสดงอย่างเต็มที่ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน และให้เกียรติซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับวัยรุ่นญี่ปุ่น ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิต การทำงาน และการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

ด้วยความที่ SMAP เป็นบอยแบนด์ที่มีอายุการทำงานนานที่สุดวงหนึ่งของญี่ปุ่น พวกเขาจึงได้รับความเคารพและความชื่นชมอย่างสูง ทั้งในฐานะศิลปินและบุคคลต้นแบบ พวกเขาไม่เพียงแค่สร้างความบันเทิงผ่านผลงานเพลงและการแสดงเท่านั้น หากยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป็อปญี่ปุ่นที่สร้างแรงบันดาลใจและความฝันให้กับแฟนเพลงอีกด้วย หากคุณยังคงชอบเพลงของพี่เบิร์ด - ธงไชยฉันใด เพลงฮิตของวง SMAP ก็มีมากและติดหูคนทุกเพศทุกวัยชาวญี่ปุ่นฉันนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเพลง Lion Heart, Let it be, Dear Woman, Arigatou, Dynamite และอีกมากมาย

ในฐานะสมาชิกของ วง SMAP ก็มีบทบาทสำคัญในการนำพาวงสู่ความสำเร็จ ทุกคนคอยดูแล ให้กำลังใจ และชี้แนะสมาชิกซึ่งกันและกัน เขามีบุคลิกที่อบอุ่น เป็นมิตร แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นผู้นำและความรับผิดชอบสูง ซึ่งทำให้เขาได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากสมาชิกในวงเสมอมา

 

SMAP ดังได้เพราะมีคิมุระ ทาคุยะ” 

 

คือสิ่งที่คนมากมายมักพูด แต่เรื่องนี้คิมุระซังมักให้สัมภาษณ์เสมอว่า 

 

“ผมไม่ค่อยชอบเลยที่ผู้คนพูดแบบนี้ SMAP เป็นวงบอยแบนด์และจะประสบความสำเร็จไม่ได้ถ้าขาดสมาชิกคนใดคนหนึ่งไป ถ้าผมร้องคนเดียวก็คือคิมุระ ทาคุยะ ซึ่งผมคงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้แน่นอนถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆในวงครับ พวกเราทุกคนประกอบกันขึ้นมาจนกระทั่งเป็นวง SMAP”

 

แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดังและประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่คิมุระและสมาชิกวง SMAP ก็ไม่เคยลืมตัว พวกเขายังคงความเป็นกันเอง ใกล้ชิดกับแฟน ๆ และพร้อมที่จะตอบแทนสังคมเสมอ ไม่ว่าจะผ่านการทำกิจกรรมการกุศล การช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือการให้การสนับสนุนประเด็นสำคัญต่าง ๆ พวกเขาใช้ความมีชื่อเสียงของตัวเองในการสร้างแรงบันดาลใจและความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ซึ่งยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นศิลปินและบุคคลต้นแบบที่สมบูรณ์แบบ

 

ชีวิตคนจะดังจะปัง อะไรก็ฉุดไม่อยู่

คิมุระ ทาคุยะ ไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องนำของวง SMAP เท่านั้น แต่เขายังสามารถก้าวข้ามมาสู่การเป็นนักแสดงชั้นนำของวงการบันเทิงญี่ปุ่นได้อย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่ยุค 90s เขาได้แสดงภาพยนตร์และซีรีส์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากบทบาทเล็ก ๆ อย่างตัวประกอบหรือบทเด็กน้อย แต่ด้วยพรสวรรค์และความมุ่งมั่น เขาก็สามารถพัฒนาฝีมือการแสดงจนก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกเบอร์ต้น ๆ ของวงการได้ในที่สุด

ปัจจัยที่ทำให้คิมุระประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์ ส่วนหนึ่งมาจากชื่อเสียงที่สั่งสมมาจากการเป็นสมาชิกวง SMAP อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเมื่อวงมีผลงานดีเด่นและเป็นที่นิยมสูง ก็ย่อมส่งผลให้สมาชิกในวงเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากผู้ชมไปด้วย แต่การจะรักษาความนิยมและกลายเป็นนักแสดงชั้นนำได้นั้น ต้องอาศัยพรสวรรค์และความสามารถเฉพาะตัวของนักแสดงเองด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่คิมุระมีอย่างโดดเด่น

เมื่อมองย้อนกลับไป เราจะเห็นผลงานการแสดงมากมายที่การันตีความสำเร็จของคิมุระในฐานะนักแสดง ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ชื่อดังอย่าง ‘Long Vacation’ (1996) ที่เขารับบทเป็นนักดนตรีหนุ่มผู้มีบาดแผลในใจ จนกระทั่งได้พบรักแท้และเยียวยาจิตใจผ่านความสัมพันธ์อันอบอุ่น ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมสูงมากจนทำให้ญี่ปุ่นเกิดกระแส ‘Long Vacation Syndrome’ ที่ผู้ชมพากันไปเที่ยวพักร้อนในสถานที่ถ่ายทำ และให้ความสนใจเพลงประกอบซีรีส์ที่คิมุระร้องด้วย

อีกเรื่องที่โด่งดังไม่แพ้กันคือ ‘Love Generation’ (1997) ที่คิมุระรับบทบาทเป็นครีเอทีฟหนุ่มอารมณ์ดี ที่ต้องมาทำงานบริษัทเดียวกับพนักงานสาวรุ่นน้องในบริษัทฯ จนกลายมาเป็นความรักครั้งสำคัญของชีวิต ซีรีส์นี้ได้รับความนิยมสูงสุดประจำปี ทำให้คิมุระคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวที Television Drama Academy Awards มาครอง

หรือในปี 2003 เขาก็ยังได้แสดงซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้อย่าง ‘Good Luck’ รับบทเป็นนักบินที่ทั้งหล่อ เก่ง ดีงามได้พบกับช่างซ่อมเครื่องบินสาวที่มาเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตเขา ซีรีส์นี้ทำเรตติ้งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 36.8% เลยทีเดียว

ปี 2004 กับบทนักฮอกกี้หนุ่ม ‘ซาโตนากะ ฮารุ’ ใน ‘Pride’ ที่ทำให้เพลงประกอบซีรี่ซึ่งเป็นเพลง ‘I was born to love you’ ซึ่งเป็นเพลงสากลภาษาอังกฤษที่ดังมากของวง Queen แต่ก็ฮิตติดลมบนจนคนญี่ปุ่นสามารถร้องเพลงนี้กันได้เลยทีเดียว

นอกจากบทบาทพระเอกหนุ่มโรแมนติกแล้ว คิมุระยังสามารถรับบทบาทที่หลากหลายได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นบทสายลับใน ‘Engine’ (2005) 

ซีรีส์ ‘Change’ (2008) ที่เขารับบทนำเป็นนักการเมืองหนุ่มไฟแรงที่ต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรี (โซริไดจิน) ต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นและปัญหาต่างๆนานามากมาย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งเรตติ้งและเสียงวิจารณ์ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความสามารถรอบด้านในวงการบันเทิงของเขา

ไปจนถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่างเรื่อง ‘The Space Battleship Yamato’ (2010) ซึ่งนับเป็นบทบาทที่ท้าทายความสามารถของเขาเป็นอย่างมาก แต่ก็สามารถถ่ายทอดได้อย่างน่าประทับใจ 

นอกจากการแสดงแล้ว คิมุระยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงานในฐานะโปรดิวเซอร์อีกด้วย เช่น ซีรีส์ ‘Change’ (2008) ที่เขาร่วมอำนวยการสร้าง และรับบทนำเป็นนักการเมืองหนุ่มไฟแรงที่ต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งเรตติ้งและเสียงวิจารณ์ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความสามารถรอบด้านในวงการบันเทิงของเขา

ความสำเร็จของคิมุระในการแสดงนั้น ไม่ได้มาจากความหล่อหรือชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่มาจากพรสวรรค์ในการถ่ายทอดอารมณ์ การแสดงออกทางสีหน้าท่าทางที่เป็นธรรมชาติ รวมถึงการทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุดออกมา เขาเป็นนักแสดงที่ละเอียดอ่อน สื่อสารกับคนดูได้ลึกซึ้ง จนสามารถดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมให้คล้อยตามได้อย่างน่าทึ่ง 

ในขณะเดียวกัน ความเป็นมืออาชีพและจริยธรรมในการทำงานของเขา ก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบรรดานักแสดงรุ่นน้อง เขาไม่เคยละเลยหรือทำงานแบบขอไปที ไม่ว่าจะเป็นบทบาทเล็กหรือใหญ่ แต่จะทุ่มเททำให้ดีที่สุดเสมอ สิ่งนี้ทำให้ผู้กำกับและทีมงานให้ความเชื่อถือและไว้วางใจในตัวเขา และอยากร่วมงานกับเขาอีกเรื่อย ๆ 

ไม่เพียงแค่การันตีความสำเร็จด้วยเรตติ้งและรายได้ แต่คิมุระยังได้รับการยอมรับจากสาขาอาชีพด้วย โดยเฉพาะบทบาทใน ‘Hero’ ที่ทำให้เขาคว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากเวทีประกาศรางวัลทางโทรทัศน์ทุกสถาบัน ทั้ง Television Drama Academy Awards, Nikkan Sports Drama Grand Prix และ Hashida Awards เรียกได้ว่ากวาดรางวัลมาครองแบบเรียบวุธ และสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับวงการโทรทัศน์ญี่ปุ่น

นอกจากนี้เขายังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักแสดงหน้าใหม่ เพราะเคยเป็นเด็กฝึกหัดที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักจนประสบความสำเร็จ ทำให้หลายคนมองเห็นว่าการเข้าวงการบันเทิงไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน หากมีความพยายามและมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นพลังใจอันยิ่งใหญ่สำหรับผู้ที่มีความฝันอยากจะเป็นศิลปินหรือนักแสดง

ด้วยความสามารถและเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคิมุระ ทำให้เขาเป็นนักแสดงขวัญใจมหาชนที่ได้รับความรักจากแฟนๆ ทุกเพศทุกวัย ผลงานที่เขาเล่นแทบจะเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จได้เลยว่าจะต้องมีเรตติ้งดี ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น และสร้างปรากฏการณ์ให้กับสังคมอย่างแน่นอน แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ไม่เพียงแค่ในทวีปเอเชีย แต่คิมุระซังเคยกระทบไหล่ดารา-นักร้องดังระดับโลกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบิยอนเซ่, 
ไมเคิล แจ็คสัน เป็นต้น

นอกจากการทำงานเป็นศิลปินแล้ว คิมุระยังได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพในการทำงานด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงละคร ภาพยนตร์ การเป็นพิธีกร ไปจนถึงการผลิตรายการ เขาสามารถรับบทบาทที่หลากหลาย และถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างแนบเนียน จนเรียกเสียงชื่นชมจากทั้งเพื่อนร่วมงานและแฟน ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ทั้งตัวของคิมุระเองและวง SMAP ได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย

 

แต่งงาน มีครอบครัว คนก็ยังรักและชอบคิมุระไม่เสื่อมคลาย

นอกจากนี้ คิมุระยังแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่มากกว่าการเป็นศิลปิน เขาเป็นต้นแบบของการเป็นพ่อที่ดี การดูแลครอบครัวอย่างอบอุ่น และการรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน เขายังใช้ชื่อเสียงของตัวเองในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น การระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และการรณรงค์ในประเด็นที่เขาเชื่อมั่น แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่ไปกับความสำเร็จในอาชีพการงาน

ในขณะที่หลายคนมองว่าการเป็นศิลปินและการใช้ชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องยาก เพราะต้องทุ่มเทกับงานมาก แต่คิมุระกลับแสดงให้เห็นว่ามันเป็นไปได้ โดยในปี 2000 บนเวทีคอนเสิร์ต เขาได้ประกาศข่าวดีให้แฟน ๆ ได้รู้ว่า เขาได้แต่งงานลับ ๆ กับคุโด ชิซุกะ นักร้องสาวและดาราในตำนานเมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว ซึ่งเธอก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินระดับแถวหน้าของวงการบันเทิงญี่ปุ่น การร่วมหอลงโรงของพวกเขา จึงเรียกได้ว่าเป็นการผนึกกำลังของสองสุดยอดสตาร์เลยทีเดียว 

คิมุระและชิซุกะ มีลูกสาวสองคนด้วยกัน คือ โคคิ และ โคโคมิ ที่ได้รับพรสวรรค์ความสามารถสายบันเทิงมาจากพ่อแม่อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งคู่ต่างก็กำลังโลดแล่นอยู่ในวงการทั้งในฐานะนักแสดงและนางแบบ โดยเฉพาะโคคิ ลูกสาวคนโต ที่มาในลุคสาวเท่ เปรี้ยวซ่า ตรงข้ามกับโคโคมิที่ดูหวานละมุน แต่เสน่ห์ที่ทั้งคู่มีอย่างเหลือล้น ก็ทำให้พวกเธอถูกจับตามองว่าจะสานต่อความสำเร็จของพ่อแม่ต่อไปได้ไกลแค่ไหน

 

อายุและบทบาทที่เปลี่ยนไปไม่เคยเปลี่ยนตัวตนของคิมุระซัง

แม้อายุจะล่วงเข้าวัย 50 ปีแล้ว แต่คิมุระก็ยังไม่หยุดที่จะสร้างสรรค์ผลงาน และพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอ เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้เปิดช่อง YouTube ในชื่อ Kimura Saan ซึ่งเป็นการนำเสนอเรื่องราวไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้งอาหาร การท่องเที่ยว ไปจนถึงการพาไปชมโรงเรียนสอนวิชาชีพเฉพาะทาง เรียกว่าแทบทุกเอพิโซด ก็เต็มไปด้วยสาระความรู้ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เป็นการต่อยอดงานในวงการบันเทิงในรูปแบบใหม่ ที่ช่วยขยายกลุ่มแฟนคลับให้กว้างมากขึ้น

เมื่อเราพูดถึงคิมุระ ทาคุยะ เราจะเห็นว่าเขาเป็นมากกว่าศิลปิน เพราะเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าด้วยความสามารถ ความทุ่มเท พากเพียร และความอดทน ก็สามารถยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างยาวนาน สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้อย่างต่อเนื่อง เขาเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า การเป็นศิลปิน ไม่ใช่แค่การโด่งดังเป็นดาวเด่นชั่วครั้งชั่วคราว แต่สามารถเป็นอาชีพที่มั่นคง และพัฒนาไปพร้อมกับการเติบโตในชีวิตได้เช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ คิมุระ ทาคุยะ จึงได้รับการยกย่องให้เป็น ‘ไอดอลคงกระพัน’ และ ‘สมบัติของชาติ’ เนื่องจากเขาไม่เพียงแค่สร้างความสุขความบันเทิงให้กับผู้ชมเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบอย่างของความมุ่งมั่น ความเป็นมืออาชีพ และการมีหัวใจรักในงานที่ทำ ที่จะอยู่คู่กับวงการบันเทิงญี่ปุ่นไปอีกนาน เป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจบันเทิงเติบโตไปพร้อม ๆ กับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทุกรุ่นทุกวัย ได้มีไอดอลให้เทิดทูนตราบนานเท่านาน

 

ภาพ : Getty Images

อ้างอิง : 
บทความ "木村拓哉「SMAP解散から3年。自分のことを見つめ直して、仕事に向き合う」" โดย Oricon News (ภาษาญี่ปุ่น)
- คิมุระให้สัมภาษณ์ถึงการทบทวนตัวเองและมุมมองที่มีต่อการทำงานหลังจากวง SMAP ยุบวงไปแล้ว 3 ปี

ข่าว "木村拓哉、Instagramを開設!ファンから歓喜の声" โดย Modelpress
- รายงานข่าวการเปิดแอคเคาท์ Instagram อย่างเป็นทางการของคิมุระ และเสียงตอบรับจากแฟนๆ

บทความ "木村拓哉、『HERO』以来の月9主演に意気込み語る" โดย Real Sound
- คิมุระแสดงความตั้งใจในการรับบทนำในละครซีรีส์ช่วงไพรม์ไทม์ทางช่อง Fuji TV เรื่องแรกนับตั้งแต่ละคร "HERO" เมื่อหลายปีก่อน

บทความ "木村拓哉、主演ドラマ「グランメゾン東京」が好発進" โดย Livedoor News (ภาษาญี่ปุ่น)
- รายงานเรตติ้งตอนแรกของซีรีส์ "Grand Maison Tokyo" ที่คิมุระรับบทนำ ออกตัวได้ดีเกินคาด

บทความ "木村拓哉、キムタクが教える "仕事も私生活も充実させる方法"" โดย Nikkei Style?‘
- คิมุระแบ่งปันเคล็ดลับในการสร้างสมดุลย์ระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว เพื่อให้ทั้งสองส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน