‘ฉีเส้าเฉียน’ นักแสดง ‘ฮุ้นปวยเอี๊ยง’ ในความทรงจำแห่ง ‘กระบี่ไร้เทียมทาน’

‘ฉีเส้าเฉียน’ นักแสดง ‘ฮุ้นปวยเอี๊ยง’ ในความทรงจำแห่ง ‘กระบี่ไร้เทียมทาน’

เรื่องราวของ ‘ฉีเส้าเฉียน’ นักแสดงนอกสายตาที่ได้รับบท ‘ฮุ้นปวยเอี๊ยง’ จนกลายเป็นตัวละครในความทรงจำแห่ง ‘กระบี่ไร้เทียมทาน’

อำลา อาลัย ‘ฉีเส้าเฉียน’ ฮุ้นปวยเอี๊ยงแห่งกระบี่ไร้เทียมทาน

อาฮา...
獨自在山坡 高處未算高
โต่จี่จ่อยซานโป้ โกวชื่อเหม่ชืนโกว
(อยู่ลำพังท่ามกลางขุนเขาอันสูงเกินคาดหยั่ง) 

命運在冷笑 暗示前無路
เม่งหวั่นจ่อยหลางซิว ง้ำชีถี่นโหมวโหลว
(โชคชะตา ถูกผู้คนเย้ยหยัน ดั่งสิ้นไร้หนทาง)

浮雲遊身邊 發出警告 我高視闊步
เฟ่าหวั่นเหย่าซานปี้น ฟานเชอะเก๋งโกว หงอโกวซีฟู่ดโปว
(เมฆาลอยเคียงข้างกาย คล้ายดั่งเตือนว่า ให้เชิดหน้าสูงเข้าไว้ และก้าวไปอย่าไหวหวั่น)

ทุกครั้งที่เพลง ‘เทียนฉานเปี้ยน’ 天蚕变 (จักรพรรดิไหม) เพลงประกอบละครโทรทัศน์ ‘กระบี่ไร้เทียมทาน’ ที่ร้องโดย ‘ไมเคิล กวัน’ ดังขึ้นมาทีไร อดย้อนนึกถึงวัยเยาว์ที่เฝ้าหน้าทีวีดูเรื่องราวของฮุ้นปวยเอี๊ยง วิชาไหมฟ้า ความรักต้องห้ามระหว่างพี่น้อง และความสดใสน่ารักของโป่วเฮียงกุน ไม่ได้

แต่ในวันนี้ ‘ฉีเส้าเฉียน’ ผู้สวมบทบาท ‘ฮุ้นปวยเอี๊ยง’ ได้จากเราแล้วอย่างไม่มีวันกลับ ทิ้งเพียงความทรงจำถึงละครกำลังภายในที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์ของฮ่องกง 

อีกหนึ่งใบหน้าที่คุ้นเคยได้จากผู้ชมไป ตามรายงานของสื่อฮ่องกงเมื่อวันที่ 15 กันยายน นักแสดง ฉีเส้าเฉียน ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งหลอดอาหารในกรุงปักกิ่งเมื่อต้นเดือนนี้ ด้วยวัย 73 ปี ยืนยันข่าวการเสียชีวิตโดย ‘เทียนฉีเหวิน’ ผู้สร้างภาพยนตร์อาวุโส  และลูกสาวกับลูกชายของเขาต่างทยอยลงไว้อาลัยพ่อผ่านโซเซียลมีเดีย 

จะว่าไปแล้วชีวิตของ ฉีเส้าเฉียนนั้นนับว่ามีความเปลี่ยนแปลงไม่แตกต่างจากฮุ้นปวยเอี๊ยง ตัวละครที่สร้างชื่อเสียงของเขาสักเท่าไหร่ 
 

ฉีเส้าเฉียน เกิดที่กว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ในวันที่ 16 ตุลาคม 1950 ฉีเส้าเฉียนมีพี่สาวแท้ ๆ หนึ่งคน ส่วนพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจ เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมที่โรงเรียนหลิงตง เขาก็เริ่มทำงานเป็นพนักงานติดตามหนี้ของธนาคารต่างประเทศ แล้วจึงย้ายไปทำงานในตลาดหลักทรัพย์ในฐานะเสมียนบัญชีรับผิดชอบในการจัดการผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

ในช่วงยุค 70s งานตลาดหุ้นในฮ่องกงนั้นนับว่าเป็นงานที่หนุ่มสาวใฝ่ฝัน นั่งอยู่ในออฟฟิศทุกวันและได้รับเงินเดือนที่มั่นคง แต่ด้วยความหล่อเหลาของฉีเส้าเฉียนและการอยากมีชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยสีสันของเขา ก็ผลักดันให้เขามาเป็นนักแสดงของทาง ‘ชอว์ บราเดอร์’ สตูดิโอภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในช่วงเวลานั้น 

การเลือกเส้นทางนักแสดงนี้ทำให้ฉีเส้าเฉียนทะเลาะกับพ่อของเขาอย่างรุนแรง แต่ด้วยความปรารถนาที่ต้องการจะเป็นนักแสดงของเขา ก็ทำให้พ่อของเขายอมตามใจลูกชาย 

ฉีเส้าเฉียนจึงไปสมัครเป็นนักเรียนการแสดงของชอว์ บราเดอร์ ในปี 1972 ฉีเส้าเฉียนได้แสดงบทชาวบ้านในภาพยนตร์เรื่องแรก คือ ‘ไอ้หนุ่ม 5 จอมเหี้ยม’ (The Savage Five/1974) ที่นำแสดงโดย ตี้หลุง, เดวิด เจียง, เฉินกวนไถ้ หลังจากนั้นเขาก็วนเวียนแสดงภาพยนตร์ของชอว์ บราเดอร์ อีกหลายเรื่อง

จนกระทั่งในปี 1977 ทางสถานีโทรทัศน์ลี่เตอ Rediffusion Television หรือ RTV (ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น  ATV เอเชียเทลิวิชัน ในวันที่ 24 กันยายน 1982) ได้ขอยืมตัวฉีเส้าเฉียนไปแสดงละครโทรทัศน์เรื่อง Big Man (大丈夫/1977) ก่อนที่จะกลับไปแสดงภาพยนตร์ให้ชอว์ บราเดอร์ เรื่อง ‘ศึกล้างเจ้ายุทธจักร’ (Death Duel/1977) ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของโกวเล้ง เรื่อง ‘ซาเสียวเอี้ย’ นำแสดงโดย ‘เอ๋อตงเซิน’ และ ‘หวีอันอัน’

ก่อนที่เจ้าตัวจะโด่งดังไปทั่วเอเชียกับ บทบาท ‘ฮุ้นปวยเอี๊ยง’ ใน ‘กระบี่ไร้เทียมทาน’
 

ที่บอกว่าชีวิตของฉีเส้าเฉียนนั้นมีความคล้ายคลึงกับฮุ้นปวยเอี๊ยงเพราะว่าเมื่อแรกเข้าวงการนั้น เขามักจะได้รับบทรองมาโดยตลอด เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงนอกสายตาของผู้กำกับและผู้ชมเสมอมา จนกระทั่งการรับบทเป็น ฮุ้นปวยเอี๊ยง ดั่งวิชาไหมฟ้า ที่เปลี่ยนแปลงชื่อเสียงของเขากลายเป็นคนละคน 

‘กระบี่ไร้เทียมทาน’ เป็นละครโทรทัศน์ที่โด่งดังมากในปี 1979 จากการเขียนบทของ ‘อึงเอ็ง’ และ ‘เจียงหลง’ เพื่อปรับเป็นบทสำหรับถ่ายทำละครโทรทัศน์ เนื่องจากกระบี่ไร้เทียมทานโด่งดังมากจนเรตติ้งของสถานีอารทีวี สามารถชนะ ทีวีบีอย่างขาดลอยในช่วงเวลาไพร์มไทม์ของฮ่องกงในตอนนั้น (สองทุ่มถึงสามทุ่ม) จึงทำให้ผู้บริหารของทางอาร์ทีวีในยุคนั้นต้องการยืดเนื้อหาของละครเรื่องนี้ออกไป จากเดิมที่วางไว้ไม่เกิน 30 ตอน กลายเป็น 60 ตอน แถมยังเตรียมถ่ายทำในภาคสองต่อเนื่องอีกด้วย อีก 60 ตอน

การเปลี่ยนแปลงนักแสดงด้วยวิชาไหมฟ้า 

ไม่มีเหตุการณ์ใดในวงการโทรทัศน์ที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมในยุค 70s เท่ากับการเปลี่ยนนักแสดงกลางคันระหว่างที่ละครกำลังออกอากาศอยู่ จาก ‘ฉีเส้าเฉียน’ เป็น ‘กู้กวานจง’

เนื่องเพราะว่าฉีเส้าเฉียนเอง ในตอนนั้นเขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้ากับการถ่ายทำ เขามักจะหายตัวไปจากกองถ่ายบ่อย ๆ หรือบางครั้งก็มากองถ่ายในสภาพเมาสุรา หน้าตาบวมบูด เพราะเพิ่งไปมีเรื่องชกต่อยกับมาเฟียมา จนผู้กำกับและผู้กำกับคิวบู๊ต้องถ่ายฉากอื่นแทน และใช้แสตนอินถ่ายทำแทนฉีเส้าเฉียนในหลายฉาก จนทางผู้บริหารอาร์ทีวีต้องเรียกฉีเส้าเฉียนไปคุยเพื่อให้เขาแก้ไขพฤติกรรม แต่สุดท้ายปัญหานี้ก็ยังเป็นปัญหาของกองถ่ายอยู่ดี จึงทำให้มีการเปลี่ยนบทและนักแสดง จากฉีเส้าเฉียนเป็นกู้กวานจง โดยใช้เหตุผลในเรื่องว่า เมื่อสำเร็จวิชาไหมฟ้า หน้าตาจะเปลี่ยนไป 

สำหรับการเปลี่ยนแปลงนักแสดง ฮุ้นปวยเอี้ยง ในกระบี่ไร้เทียมทานนั้น จริง ๆแล้ว นอกจากกู้กวานจงยังมีนักแสดงอีกคนก็คือ ‘เยี่ยเทียนสิง’  

การถ่ายละครเรื่องกระบี่ไร้เทียมทานนั้น คือการถ่ายไปออกอากาศไป และมีหลายครั้งที่ฉีเส้าฉียนไม่มากองถ่าย ทำเอาเซียวเซิงผู้กำกับหัวเสียมาก เขาจึงให้อึงเอ็ง ผู้เขียนบทโทรทัศน์แก้ไขปัญหา โดยเขียนให้มีฉากที่ฮุ้นปวยเอี๊ยงใส่หน้ากากซึ่งแสดงโดยเยี่ยเทียนสิง เพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน  

ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนักแสดงฮุ้นปวยเอี้ยงจึงเป็นสิ่งที่ทางผู้กำกับได้วางแผนเอาไว้แล้ว 

ความสำเร็จของกระบี่ไร้เทียมทานนั้นยังสร้างประวัติศาตร์การแย่งเรตติ้งกันทั้งในฮ่องกงและประเทศไทย 

ทางทีวีบีก็ได้เร่งสร้าง ‘ชอลิ้วเฮียง’ ซึ่งมีการประกาศว่าต้องสร้างชอลิ้วเฮียงมากระชากเรตติ้งของกระบี่ไร้เทียมทานลงมาให้ได้ภายในเวลาเพียง 10 วัน (จากการประชุมเสร็จและวางเดดไลน์ออกอากาศในสิบวันให้หลัง) โดยนำสามดาราแม่เหล็ก อย่างเจิ้งเส้าชิว วังหมิงฉวน และ เจ้าหย่าจือ มาแสดงนำ และแย่งเรตติ้งในตอนท้ายของกระบี่ไร้เทียมทานกลับมาได้ 

ส่วนในประเทศไทยเอง ทางช่องสามนำกระบี่ไร้เทียมทาน และยอดยุทธจักรมังกรฟ้า มาฉายในปี พ.ศ. 2523 (1980) ทำเอาผู้ชมติดกันอย่างงอมแงม ส่วนช่องเจ็ดเองก็นำ ชอลิ้วเฮียง ฉบับเจิ้งเส้าชิว มาฉายแย่งเรตติ้งผู้ชมเช่นกัน ในชื่อจอมโจรจอมใจ 

จากความสำเร็จของละครโทรทัศน์กระบี่ไร้เทียมทานในปี 1983 ทางชอว์ บราเดอร์ก็นำกระบี่ไร้เทียมทานมาสร้างอีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์ ในชื่อเดียวกันคือ กระบี่ไร้เทียมทาน (Bastard Swordsman) และนำฉีเส้าเฉียนมารับบทเป็นฮุ้นปวยเอี้ยงอีกครั้ง และนำ ‘ว่านจื่อเหลียง’ มาสวมบทบาทเป็น ‘ต๊กโกวบ้อเต็ก’ รวมถึงการนำกู้กวานจงมารับบทศิษย์บู๊ตึ๊งอีกด้วย

หลังจากกระบี่ไร้เทียมทาน ฉีเส้าเฉียนนั้นยังคงมีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเสียชีวิต 

ถ้าย้อนไปในยุค 70s ถ้าฉีเส้าเฉียนไม่ใช้ความฝันเป็นแรงผลักดันจนได้มาเป็นนักแสดง โลกใบนี้คงปราศจากฮุ้นปวยเอี้ยงที่น่าจดจำ เพราะหลังจากที่เขาบอกลาบทบาทนี้ไปในกลางคันแล้ว ก็ไม่มีใครมาแสดงแทนและสร้างความประทับใจให้ผู้ชมเทียบเท่าเขาอีกเลย 

ความหมายในชีวิตของฉีเส้าเฉียนหลังจากทิ้งงานที่มั่นคงมาเลือกเป็นนักแสดง คงไม่แตกต่างจากเนื้อหาในบทเพลง เทียนฉานเปี้ยน 天蚕变(จักรพรรดิไหม) 

雖知此山頭 猛虎滿佈
โซยจีฉีซานเถ่า หมางฝูมูนโปว
(แม้รู้ว่าเส้นทางนี้เต็มไปด้วยเสือร้าย)

膽小非英雄 決不願停步
ต๋ามสิวเฟยเย๊งห่ง คึดปัดยืนเถ่งโปว
(แต่ผู้กล้าย่อมไม่มีวันหยุดฝีก้าวยั้ง) 

คารวะด้วยอาลัยแด่ฉีเส้าเฉียน น้อมส่งจอมยุทธฮุ้นปวยเอี้ยง สู่แดนสุขาวดี 

 

เรื่อง: เพจเก้ากระบี่เดียวดาย
ภาพ: คมชัดลึก