เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

เคนทาโร่ ซากางุจิ นักแสดงหนุ่มจากญี่ปุ่นที่เริ่มต้นจากการเป็นนายแบบและเดบิวต์ในฐานะนักแสดง เขาเริ่มจากการทำงานในวงการบันเทิงญี่ปุ่น และความสามารถของเขาก็พาให้ชายคนนี้กำลังมีงานแสดงในเกาหลีใต้

KEY

POINTS

  • เคนทาโร่ ซากางุจิ นักแสดงญี่ปุ่นที่เริ่มต้นเส้นทางวงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ
  •  ‘The 100th Love with You’ และ The Last 10 Years  คือ ภาพยนตร์ที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้จักนักแสดงชายคนนี้
  • แล้ววันนี้ เขาคือดาวรุ่งที่กำลังส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

ขนาดเมล็ดพันธุ์จะเติบโตเป็นต้นไม้ที่สวยงามยังต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับช่วงเวลาที่ความสามารถของคนคนหนึ่งจะส่องแสงและเปล่งประกาย 

และดูเหมือนว่าการเดินช้า ๆ อย่างมั่นคง คือ บทเรียนจากเส้นทางการแสดงของ ‘เคนทาโร่ ซากางุจิ’ นักแสดงชาวญี่ปุ่นที่มีรอยยิ้มเป็นเสน่ห์และมีดวงตาเป็นอาวุธบอกกับเราแบบนั้น

เขาเริ่มจากเด็กที่หลงใหลในการเล่นวอลเลย์บอล เคยมีฝันถึงเรื่องการแสดง แต่ก็เข้าวงการด้วยการเป็นนายแบบ เพราะเคนทาโร่เองก็เคยบอกว่า เขาอยากเป็นนักแสดงที่ผู้คนจดจำเขาได้ทีละน้อย ๆ อย่างช้า ๆ 

เพราะวันนี้เขาไม่ได้เป็นเพียงชายที่โลดแล่นในวงการบันเทิงญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เขากำลังจะก้าวเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งและกำลังเฉิดฉายในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ด้วย

เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

นายแบบที่รักการแสดง

ถ้าย้อนสืบสาวราวเรื่องถึงความรักในการแสดง หนึ่งในคนที่แนะนำให้เขาคนนี้รู้จักกับการเล่นละคร ก็คือ คุณแม่ของเขาที่ทำงานอยู่ในโรงละครขนาดเล็ก

“แม่ชอบพูดกับผมตลอดเลยว่า ตัวละครในหนังสือเรื่องนี้เคนจังเลยนะ มันก็เลยทำให้เวลาผมอ่านหนังสือ ผมจะชอบแสดงและคิดถึงเรื่องเหล่านั้น มันอาจจะเริ่มทำให้ผมคิดว่า การแสดงมันไม่ใช่เรื่องไกลตัว”

เพราะคำพูดของแม่ จึงทำให้เคนทาโร่ที่ตอนนั้นเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายมีฝันที่อยากจะเป็นนักแสดง ไม่ใช่เพราะมีผลงานหรือนักแสดงคนไหนเป็นแรงบันดาลใจ แต่ความฝันในใจค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น และมั่นคง

แต่ด้วยเส้นทางชีวิตต่าง ๆ ทำให้เขาก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกด้วยการเป็นนายแบบให้กับนิตยสารสำหรับผู้ชายชื่อดังของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า ‘MEN'S NON-NO’ ในวันที่เขาอายุเพียง 19 ปี

เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

ในวันที่เขายังเดินอยู่บนแคทวอล์คและกำลังเฉิดฉายในวงการแฟชั่น ผู้คนเรียกเขาว่าเป็นชายหนุ่มผู้มีใบหน้าแบบ Shio Kao หรือบุคคลผู้มีใบหน้าแบบเกลือ หมายถึง มีผิวที่ขาวเหมือนเกลือ และมีเสน่ห์เวลายิ้มอยู่เสมอ อีกทั้งบางคนก็บอกว่า เคนทาโร่หน้าคล้ายกับ ‘ซอคังจุน’ พระเอกจากเกาหลีใต้ 

เขาใช้เวลาทำงานเป็นนายแบบอยู่ 4 ปี เขาก็ได้ชิมลางการเป็นนักแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในเรื่อง Shanti Days 365 Days, Happy Breath และเหมือนว่าเขาต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่

เคนทาโร่บอกกับเว็บไซต์ +act ของประเทศญี่ปุ่นว่า การรับบทชุน พนักงานร้านกาแฟในภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เขาเติบโตและเรียนรู้จากการทำงาน 

“บางทีผมก็กังวลเวลาได้ยินว่าให้ผมเขยิบออกจากฉาก ผมคิดว่าผมต้องยิ้มไหม แต่ก็คิดว่าเป็นการได้เห็นและเรียนรู้ ขอบคุณบทนี้ที่ทำให้ผมเป็นตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเรียนรู้จากการแสดงของทุกคน” 

ถึงจะยาก แต่เขาก็ผ่านมาได้ 

ถึงอย่างนั้น ครั้งหนึ่งเคนทาโร่เคยบอกกับนิตยสาร Margaret ตอนปี 2014 ว่า “ผมกำลังเรียนรู้เรื่องการแสดง ผมอยากเป็นนักแสดงมาก ๆ และอยากให้คนจดจำผมได้ ทีละน้อย ๆ อย่างช้า ๆ”

เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

ปีแรกของการเดบิวต์ผ่านไป เขาก็ยังมีผลงานทั้งการเป็นนักแสดงหลักและนักแสดงสมทบออกมาต่อเนื่อง เช่น My Love Story!!  และ ละครเรื่อง Yokokuhan: The Pain ในปี 2015 รวมถึง The Inerasable ในปี 2016 และแจ้งเกิดสุด ๆ จากการรับบท ‘ริคุ ฮาเซกาว่า’ นักท่องเวลาจากเรื่อง ‘The 100th Love with You’ ในปี 2017 ที่ว่าด้วยการใช้ชีวิต 100 วันกับคนที่รัก 

ต่อด้วยอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างชื่อให้เขากับ The Last 10 Years ที่ฉายในปี 2022 และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงสุดในตอนนั้น โดยเคนทาโร่รับบทของ คาซึโตะ ชายที่หมดแรงใช้ชีวิต แต่กลับเลือกมีชีวิตต่ออีกครั้งด้วยความรัก

เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

แล้วดูเหมือนเคนทาโร่จะทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้อย่างที่เขาเคยบอกในปี 2014  วันนี้เขากลายเป็นนักแสดงที่ถูกจดจำในฐานะนักแสดงคุณภาพ และมีแฟนคลับที่เลือกกดดูซีรีส์หรือภาพยนตร์เรื่องนั้นเพราะเขามั่นใจว่า ถ้าเป็นการแสดงของ ‘เคนทาโร่ ซากางูจิ’ เขาคนนี้จะไม่ทำให้คนดูอย่างเราผิดหวัง

 

ชายที่เป็นเพื่อนกับ ‘BTS’ และคุยเรื่องงานแสดงกับ ‘พัคโบกอม’

ในปี 2018 ซีรีส์เกาหลีแนวสืบสวนสอบสวนเรื่อง Signal ของเกาหลีใต้ถูกนำไปรีเมกในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น โดยหนึ่งในนักแสดงหลักคือ เคนทาโร่ ซากางูจิ  อีกทั้งเพลงประกอบในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น คือ เพลง "Don't Leave Me" ที่ได้ BTS วงบอยกรุ๊ปจากเกาหลีใต้ มาร้องให้ด้วย

Signal คือ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เคนทาโร่และ BTS รู้จักกัน

เพราะในงานแฟนมีตติ้งของ BTS ที่โยโกฮาม่า เคนทาโร่ก็ไปดู และยังเป็นฤกษ์ดีที่ทำให้นักแสดงกับนักร้องเพลงประกอบซีรีส์ทั้ง 7 คนได้มาเจอกัน

เคนทาโร่บอกว่า “ผมเซอร์ไพรส์มาก และคิดว่าพวกเขาเท่มาก ๆ ท่าเต้น เพลงดีทั้งหมด และเสียงพวกเขาตอนร้อง ผมว่ามันน่าประทับใจมาก”

ยังไม่นับรวมกับภาพเซลฟี่ของเจโฮปกับเคนทาโร่ที่ถูกโพสต์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียทางการของวง BTS ที่สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพของพวกเขา

เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

นอกจากนี้ในปี 2019 เคนทาโร่ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเกาหลีใต้ เพราะเคนทาโร่ได้รับเชิญให้เป็นผู้ประกาศรางวัล Best Dance Performance Male Group ที่งาน MAMA Awards ปี 2019  ซึ่งจัดขึ้นที่นาโกย่า โดม ประเทศญี่ปุ่น

โดยผู้ที่ได้รับรางวัลปีนั้น ก็คือ BTS โมเมนต์ต่าง ๆ บนเวทีก็ทำให้เราเห็นว่า ทั้ง BTS และเคนทาโร่เองต่างเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีและเป็นเพื่อนที่ดีกันจริง ๆ ตอนอยู่นอกจอ

ก่อนที่ปี 2024 นี้ เขาจะเดบิวต์ในจอแก้วของเกาหลีใต้ในบทของ ‘จุนโกะ’ ในเรื่อง ‘What Come After Love’ ประกบคู่กับอีเซยอง นักแสดงหญิงมากฝีมือในเกาหลีใต้

ในบทสัมภาษณ์ระหว่างโปรโมทซีรีส์ เคนทาโร่พูดถึงพัคโบกอมว่า เวลามาเกาหลีใต้เขามักจะใช้เวลาคุยกับนักแสดงพัคโบกอม นักแสดงชายจากโลกบันเทิงเกาหลีใต้

“ทุกครั้งที่ผมมาเกาหลี ถึงจะไม่ได้ทำงานด้วยกัน แต่ผมชอบคุยกับพัคโบกอมเกี่ยวกับงานของเขา ผมคิดว่าการสร้างความสัมพันธ์ต้องเริ่มจากความเชื่อใจ แล้วผมก็ไว้ใจและวางใจเวลาอยู่กับเขา ดังนั้นถ้ามีโอกาส ผมก็ลองอยากร่วมงานกับเขา”

ถือว่าเป็นมิตรภาพรข้ามแดนที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น แต่อาจเป็นด้วยบุคลิกของเคนทาโร่ที่เข้ากับคนง่าย ค่อย ๆ เรียนรู้และรู้จักกัน ทว่าการที่เขาได้มาเป็นเพื่อนเป็นชาวเกาหลีใต้ มาลองเล่นซีรีส์เกาหลีใต้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวะชีวิตที่ทำให้ความสามารถด้านการแสดงของเขาเปล่งประกายอีกครั้ง

 

นักแสดงอาทิตย์อุทัยที่กำลังจะเฉิดฉายในแดนโสม  

เอาจริง ๆ ก่อนที่จะมารับผลงานเรื่องใหม่ เคนทาโร่เองก็มีฐานแฟนคลับในเกาหลีใต้อยู่ไม่น้อย แล้วเรื่องนี้เคนทาโร่ก็ทราบดี

“ผมเคยได้ยินมาว่าคนเกาหลีหลายคนรู้จักผมดี ผมไปเกาหลีเพื่อโปรโมตผลงานของญี่ปุ่น แต่ไม่เคยมีผลงานหรือร่วมกับทีมโปรดักชั่นของเกาหลีเลย ผมเคยสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงชอบผม”

ครั้งนี้ เขากลับมารันวงการการแสดงอีกครั้ง และยังเป็นโปรเจกต์ร่วมของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในเรื่อง What Come After Love ประกบคู่กับนักแสดงมากฝีมืออย่าง ‘อีเซยอง’ และนักแสดงจากวงการบันเทิงเกาหลีใต้อีกหลาย ๆ คน 

เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้

วิธีการสื่อสารหลัก คือ การใช้แอปแปลภาษาคุยกันไปมา มีสอนภาษาเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในกองถ่ายอยู่บ้าง แต่ในสายตาของอีเซยอง พาร์ทเนอร์การแสดงบอกว่า เคนทาโร่เรียนรู้ภาษาเกาหลีได้เร็วมาก 

และถึงแม้ในเรื่องเคนทาโร่จะไม่ได้มีบทพูด แต่เขาก็บอกว่า เขาพยายามจะสื่อสารผ่านตัวละคร ‘จุนโกะ’ ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก สีหน้า หรือท่าทาง

“จริงๆ แล้ว ตัวละครนี้ไม่ได้มีบทพูดเยอะ ผมเลยต้องแสดงออกผ่านสายตาที่มองฮง (นางเอก) เพียงครั้งเดียว และผมก็รู้ว่าผมต้องแสดงออกมาอย่างนุ่มนวลเพื่อถ่ายทอดช่วงเวลาที่ไม่ใช้คำพูดเหล่านี้ให้ผู้ชมได้รับรู้”

อีกทั้งความตั้งใจในการแสดงทั้งหมด ไม่เพียงแค่ผู้ชมรับรู้ แต่อีเซยองก็รับรู้ถึงความตั้งใจของชายคนนี้ที่มุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังเรื่องการแสดงเช่นกัน

“บางครั้งเขาก็ดูเหมือนเด็ก แต่ฉันเชื่อโดยส่วนตัวว่าถ้าคุณเป็นนักแสดง ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม คุณต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์เหมือนกับปีเตอร์แพน และเคนทาโร่ก็มีสิ่งนั้น ดวงตาของเขาดูมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ เขามักจะเล่นสนุกอยู่เสมอ และมาถึงกองถ่ายด้วยใจที่เปิดกว้าง" อีเซยองบอกในบทสัมภาษณ์ของนิตยสาร Vogue Korea

เคนทาโร่ ซากางุจิ : รอยยิ้มที่ส่องแสงในญี่ปุ่นและเฉิดฉายในเกาหลีใต้ แล้วหลังการถ่ายทำนี้จบลง เคนทาโร่ก็มีไฟที่อยากจะเล่นในงานแสดงฝั่งเกาหลีใต้ และกำลังมองหาบทที่เหมาะกับตัวเขา

“ครั้งนี้ผมลองเล่นแนวโรแมนติกแล้ว แต่ครั้งต่อไปผมจะเหมาะกับบทแบบไหน” 

นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เส้นทางและประตูของโอกาสเพิ่งเปิดเท่านั้น คงต้องรอดูกันต่อไปว่า บทบาทของเคนทาโร่ในอนาคตจะเป็นแบบไหน เชื่อว่าแฟน ๆ คงลุ้นไม่ต่างกัน

ชายหนุ่มวัย 30 ที่จะยังคงเดินช้า ๆ อย่างมั่นคง

อาจเป็นเพราะเคนทาโร่เดินทางบนเส้นทางการแสดงอย่างช้า ๆ และมั่นคงมาตลอด ทั้งหมดนี้ เขาแค่อยากทำในสิ่งที่เขาอยากทำเท่านั้น

เขาเคยให้สัมภาษณ์ในปี 2023 ว่าการวิ่งไปข้างหน้าก็สำคัญ แต่การใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน สนุกก็ทำ เหนื่อยก็หยุดพักก็สำคัญไม่แพ้กัน

“ผมเชื่อว่าการหยุดพักบ้าง และไม่กังวลกับอนาคตมากไปเป็นเรื่องสำคัญ การวางแผนมากเกินไปอาจทำให้เหนื่อย ผมจัดลำดับความสำคัญ ทำทีละอย่าง และบรรลุเป้าหมายไปทีละอย่าง” 

ถ้าพูดให้ตรง เขาอาจเป็นชายที่ดูนิ่ง ๆ ที่เลือกจะทำมากกว่าพูด เขาอาจไม่ถนัดกับการพูดให้กำลังใจ แต่เขาถนัดที่จะเป็นเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ เวลาเราเจอเรื่องร้าย ๆ ในชีวิต

“ส่วนตัวผมไม่ค่อยถนัดในการพูดจาปลุกใจแบบว่า “ไปกันเถอะทุกคน!” เวลาคนรอบข้างรู้สึกเหนื่อยล้าหรือมีปัญหา ผมเชื่อว่าการตบไหล่ให้กำลังใจหรือการกอดปลอบใจมีความหมายมากกว่า”

แล้วในฐานะนักแสดง เขาก็จะยังเป็นนักแสดงที่พุ่งชนทุกโอกาสต่อไป

 “ผมคิดว่าการสร้างความไว้วางใจระหว่างทำงานเป็นสิ่งสำคัญ และความไว้วางใจนั้นสร้างมากับนักแสดงแล้ว ดังนั้นมันไม่สำคัญว่าจะเป็นงานประเภทไหน แต่ผมอยากลองทำทุกครั้งที่มีโอกาส”

ถึงจะอยู่ในวงการมาแล้ว 10 ปี แต่เราคิดว่าเส้นทางการแสดงของเคนทาโร่ ซากางูจินั้นเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

คงไม่มีตอบอนาคตได้ แต่ที่เรารู้ คือ วันนี้วงการบันเทิงโลกมีนักแสดงคุณภาพอีกหนึ่งคนแล้ว และเขาคนนั้นก็คือ ผู้ชายที่รักการแสดงที่ชื่อว่า เคนทาโร่ ซากางูจิ


อ้างอิง

坂口健太郎(さかぐち・けんたろう)/ +act

『お気に召すまま』坂口健太郎 インタビュー / engekisengen

켄타로피셜 "이세영은 귀여운 사람이다" 🤭💕 | VOGUE MEETS / Vogue Korea

Lee Se Young and Sakaguchi Kentaro open up about working together on the set of 'What Comes After Love' / allkpop

Sakaguchi Kentaro’s Margaret Interview (Hirunaka no Ryuusei) - Translations

Nothing Is Cuter Than BTS Jungkook’s Panic-Filled Interaction With Kentaro Sakaguchi At 2019 MAMA / koreaboo

Sakaguchi Kentaro Talks About His Friendship With BTS, Wanting To Work With Seo Kang Joon, And More / soompi

Sakaguchi Kentaro / mydramalist

Kentaro Sakaguchi navigates cross-cultural romance in 'What Comes After Love' / koreatime

Kentaro Sakaguchi takes on new challenges in his Korean series debut / The Chosun Daily

The 100th Love With You - Official Trailer [ ตัวอย่าง ซับไทย ] / Mongkol Major Mongkol Cinema

The Last 10 Years | สุดท้ายและตลอดไป - Official Trailer [ซับไทย] / Major Group


ภาพ : อินสตาแกรม sakaguchikentaro