‘เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ’ จาก ‘รักแรก’ ของชายหลายคน สู่บทเรียนสังคมที่พังเพราะชู้สาว

บนข้างฝาของร้านทำผมในยุค 90s ยุคที่อิทธิพลของวงการบันเทิงญี่ปุ่นยังไม่ถูกดูดกลืนโดยกระแสเกาหลี จะมีภาพของสาวน้อยที่มาพร้อมรอยยิ้มทรงเสน่ห์ และผมสั้นซอยที่ทำให้สาว ๆ เอาเป็นแบบในการตัดตาม ส่วนหนุ่ม ๆ หลายคนก็ล้วนมอบหัวใจให้กับรักแรกของพวกเขา

เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ

ในช่วงที่ไอทีวีคือผู้นำเข้าเอเชียนซีรีส์ดัง ‘Beach Boys ร้อนนักต้องพักร้อน’ ก็เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ถูกนำเข้ามาฉาย และก้าวมาเป็นซีรีส์ในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ทั้งในเรื่องของมิตรภาพของผู้ชายสองคนที่นำโดย ‘ทาเคชิ โซริมาจิ’ (ครูโอนิสึกะ ใน GTO) และ ‘ทาเคโนอุจิ ยุคาตะ’ เรื่องราวการเติบโตแบบ coming of age ทัศนียภาพของทะเลที่สวยงามของญี่ปุ่น แต่หนุ่ม ๆ หลายคนแทบไม่สามารถละสายตาจากเรียวโกะได้ในบท ‘อิสุมิ’

นิตยสารบันเทิงญี่ปุ่นในประเทศไทยต่างนำรูปของเธอไปลงปก และมีเรื่องราวของเธอให้ติดตาม ภาพหนึ่งที่ถือว่ายังเป็นภาพคลาสสิกก็คือภาพเมื่อเรียวโกะสอบเข้ามหาวิทยาลัยวาเซดะ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับท็อปของญี่ปุ่น ในอดีตตอนเห็นภาพนี้อาจจะมองว่านี่เป็นกระแสฟีเวอร์ของความดังเรียวโกะ เพาะเมื่อเธอเป็นดาราวัยรุ่นชื่อดังย่อมมีฝูงนักข่าวที่ไปดักรอเพื่อถ่ายภาพและสัมภาษณ์เธอ แต่เมื่อเติบโตและมองย้อนกลับไปเราอาจจะเห็นอีกมุมว่า ชื่อเสียงที่ดังล้นฟ้าของเธอทำให้เส้นความเป็นส่วนตัวและความเป็นสาธารณะเลือนหายไป เรียกได้ว่าเธอแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตในฐานะวัยรุ่นคนหนึ่ง แต่เป็นภาพ ‘ไอดอลแห่งชาติ’ ที่ใคร ๆ ต่างมอบให้เธอ

เรียวโกะนั้นถูกยอมรับว่าเป็นนักแสดงฝีมือดี ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เรียวโกะคว้าแทบทุกรางวัลใหญ่ในวงการบันเทิงของญี่ปุ่น โดยรางวัลที่การันตีฝีมือการแสดงของเธอ มีทั้ง Sponichi Grand Prize New Talent Award จากเวที Mainichi Film Awards, รางวัล Best New Talent จากเวที Yokohama Film Festival และรางวัล Newcomer of the Year จากเวที Japanese Academy Awards ครั้งที่ 21

และยังมีผลงานอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงการตัดสินใจโกอินเตอร์ในแบบยุคต้นทศวรรษ 2000 ที่ดาราจากเอเชียชื่อดังหลายคนไขว่คว้าโอกาสที่จะได้ไปเล่นหนังระดับฮอลลีวู้ด โดยมีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับดังอย่าง ‘ลุค เบซง’ ที่เขียนบทเรื่อง ‘Wasabi ตำรวจดุระห่ำโตเกียว’ โดยเธอได้ประกบกับพระเอกชื่อดังอย่าง ‘ฌอง เรโน’ และได้แสดงทักษะการพูดภาษาฝรั่งเศสที่เธอได้ฝึกฝนมาด้วย

อีกหนึ่งผลงานของเธอที่ก้าวไปสู่ระดับอินเตอร์ก็คือภาพยนตร์เรื่อง ‘Departures’ ที่เล่าถึงการเดินทางครั้งสุดท้ายของชีวิต โดยพระเอกเป็นนักเชลโล่ในตำแหน่ง ‘ผู้ช่วยนักเดินทาง’ ซึ่งแท้จริงเป็นงานส่งคนไปสู่สุขคติ ภาพยนตร์เรื่องนี้เรียวโกะได้รับบทเป็นภริยาของเขา ความสำเร็จจากภาพยนตร์ดังกล่าวก้าวไปถึงภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ครั้งที่ 81 และยังคว้าอีกหลายรางวัลทั้งระดับประเทศและระดับเวทีประกวด เรียกได้ว่าการันตีความเป็นนักแสดงคุณภาพของเธออย่างเต็มตัว

ดูเหมือนข่าวของเธออาจจะเงียบหายลงจากบ้านเรา แต่ผลงานการแสดงของเธอยังมีออกมาต่อเนื่องให้คอบันเทิงญี่ปุ่นได้ติดตาม และกลายเป็นว่าเธอตกเป็นข่าวดังจากชีวิตรักของเธอให้คนไทยที่เคยเป็นแฟนเธอได้ติดตาม 
 

เรียวโกะเองเคยผ่านการแต่งงานกับ ‘โอซากาวะ ทาคาฮิโร’ นายแบบชื่อดัง ก่อนที่จะหย่าร้าง และแต่งงานอีกครั้งในปี 2010 กับศิลปินที่ออกแบบงานศิลปะจากเทียนไข ‘จูน อิซุทสึ’ และครองรักโดยมีลูกด้วยกัน 3 คน ชีวิตเธอดูน่าจะมีความสุขในหนทางเรียบง่ายทั้งการงานและครอบครัว

แต่แล้วในปี 2023 กลับเกิดข่าวอื้อฉาวเมื่อมีการเปิดเผยว่าเรียวโกะนั้น เป็นชู้กับเชพระดับมิชลินสตาร์ชื่อดังอย่าง ‘ชูซากุ โทบะ’ เจ้าของร้าน SIO และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือทั้งสองคนล้วนยังมีสถานภาพแต่งงาน และต่างคนก็ต่างมีลูกอีกด้วย เรื่องราวนั้นครั้งนั้นสร้างความช็อกให้กับสังคมญี่ปุ่นและแฟน ๆ ของเธอ ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นไอดอลแห่งชาติ

Shūkan Bunshun สื่อจอมแฉของญี่ปุ่นเป็นคนนำเสนอเรื่องราวดังกล่าวมีทั้งหลักฐานสำคัญ คือ ภาพถ่ายและคลิปขณะที่ทั้งคู่ไปพบกันที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวซึ่งได้ชื่อว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด และอยู่ไม่ห่างจากสถานที่ทำงานของเชฟโทบะ  อีกทังยังเชื่อมโยงได้ว่าทั้งสองคนได้เข้าเช็กอินในห้องเดียวกัน โดยเรียวโกะจะเป็นผู้เช็กอิน ก่อนที่เชฟโทบะจะเป็นผู้เช็กเอาท์ออกจากห้องพัก

สิ่งที่ช็อกสังคมตามมาก็คือจดหมายรักและไดอารี่ที่เป็นลายมือของเรียวโกะที่เขียนถึงเชฟโทบะ ที่พอจะเรียบเรียงความได้ว่า “ขอบคุณ ที่ทำให้ฉันเรียนรู้ถึงความมาดมั่นที่จะไม่ยอมแพ้ต่อความรัก ซึ่งมันอาจเป็นเพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับคุณ คุณติดตรึงแน่นอยู่กับฉัน ทั้งทำให้ฉันร้องไห้และทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย” โดยขณะนั้นมีข่าวลือว่าทั้งคู่จะหย่าร้างจากคู่ครองเพื่อมาคบกันอย่างเปิดเผย

ท้ายที่สุดการหย่าร้างของเรียวโกะ และจุน ได้เกิดขึ้น ในสภาพที่ครอบครัวแตกสลาย โดยปัจจุบันเธอได้รับสิทธิ์ในการปกครองบุตรทั้งสามในฐานะแม่ผู้ดูแลตามกฎหมาย ขณะที่ภาพลักษณ์รักแรกของคนญี่ปุ่นของเธอถูกทำลายจนสิ้น รวมไปถึงผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจ โดย ‘Flamme’ บริษัทเอเจนซีต้นสังกัด ได้ประกาศพักงานเธอ แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ระงับและยกเลิกการจ้างงาน รวมไปถึงภาพของเธอถูกถอดออกจากสื่อต่าง ๆ มีการประเมินว่าความสูญเสียจากครั้งนั้นมูลค่าอาจสูงถึง 1,000 ล้านเยน (เกือบ 250 ล้านบาท)

หลังจากกรณีอื้อฉาวเธอค่อย ๆ หายหน้าไปจากสื่อ ผลงานต่าง ๆ ถูกระงับ และเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2025 เธอกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง โดยตำรวจเมืองชิสุโอกะจับกุมเรียวโกะ ในข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่พยาบาลในท้องถิ่น โดยการเตะและข่วน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเธอเพิ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และถูกนำส่งตัวเข้ามารักษา

นับเป็นบทเรียนที่ทำให้เราเข้าใจชีวิตของคน ๆ หนึ่งได้ดีว่า มันมีความผันผวนและซับซ้อน มากกว่าที่เราคิด และภาพลักษณ์นั้นเป็นสิ่งที่ต้องดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง จาก ‘ไอดอลแห่งชาติ’ ขวัญใจยุค 90s กลายเป็นดาราประจำข่าวหน้าหนึ่งในยุค 2020 อะไรก็เกิดขึ้นได้

แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่สามารถทำให้เราลบรอยยิ้มในความทรงจำบนโปสเตอร์ของร้านทำผมในยุคนั้นไปจากใจใครหลาย ๆ คน

 

เรื่อง: พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ