นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

นุ่น วรนุช นักแสดงที่เติบโตจากการเรียนรู้ในวงการบันเทิงกว่า 20 ปี ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกบันเทิง แต่เธอยังคงเรียนรู้และเชื่อว่าเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน

KEY

POINTS

  • นุ่นเข้าวงการตั้งแต่วัยรุ่น แม้ทักษะการแสดงจะติดลบ แต่เธอก็เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงจนเป็นนักแสดงแถวหน้าของช่อง
  • บทเรียนจากวงการบันเทิงบอกว่า อาชีพการแสดงไม่มั่นคง เธอจึงเลือกทำธุรกิจเป็นอาชีพสำรอง
  • เธอเป็นคนที่ไม่ทิ้งอดีต เป็นคนคิดระยะใกล้ ปล่อยให้ปัจจุบันกำหนดอนาคต

เมื่อพูดถึงนักแสดงที่อยู่ในวงการมานาน และยังคงมีงานแสดงต่อเนื่อง เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึง ‘นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี’ 

ถ้าจะว่ากันตรง ๆ เธอไม่ได้เป็นคนที่มีทักษะการแสดง ไม่เคยเรียนจากที่ไหน แต่นุ่นก็เลือกพัฒนาตัวเองและเติบโตไปพร้อมกับวงการบันเทิง

ท่ามกลางยุคที่โทรทัศน์ถูกดิสรัปชั่น นักแสดงรุ่นเดียวกันก็ผันตัวไปทำธุรกิจ ห่างหายจากหน้าจอไป แต่วันนี้ในปี 2025 เราก็ยังเห็นผลงานของเธออยู่ต่อเนื่อง

เส้นทางกว่า 20 ปีในวงการบันเทิงของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยความท้าทาย การปรับตัว การต่อสู้กับจิตใจ และการยอมรับความจริงของโลกบันเทิง

เพราะวันนี้นุ่น วรนุช ไม่ใช่แค่นักแสดงมากความสามารถ แต่เป็นนักแสดงที่อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด และเชื่อว่าเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน 

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

เด็กวิทยาลัยนาฏศิลป์ในวงการบันเทิง

วัยเด็กของ ‘นุ่น วรนุช’ นั้น เธอเป็นเด็กกิจกรรม จนพบว่าชอบรำไทย จึงตัดสินใจสอบเข้าวิทยาลัยนาฏศิลป กรมศิลปากรได้สำเร็จ

ถึงจะเรียนหนัก และรู้จักเพียงรำไทย แต่นุ่นก็บอกว่า ช่วงเวลานั้นเป็นความสุขที่ปักลึกอยู่ในความทรงจำของเธอมาถึงวันนี้

”วันจันทร์ถึงศุกร์ก็ต้องเรียนรำไทย แบ่งเป็นตัวพระ ตัวนาง รวมแล้วสัปดาห์หนึ่งก็เรียนราว ๆ 9-13 คาบต่อสัปดาห์ เรียนแบบนี้อยู่ 6 ปี ก็เหนื่อยดี

“จำได้เลยว่า กลับบ้านมาคอเสื้อดำทุกวันเลย เพราะไม่ได้เรียนห้องแอร์ บางปีก็ต้องเดินขึ้นไปเรียนบนดาดฟ้า ถ้าโดนจับได้ว่าแอบขึ้นลิฟต์ก็โดนทำโทษอีก ถือเป็นชีวิตในวัยเด็กที่สนุกดีค่ะ” 

นุ่นเติบโตและเรียนอยู่ที่จังหวัดนครปฐม แต่วันหนึ่งที่เธอมาเที่ยวกรุงเทพมหานคร หน้าตาของเธอดันไปต้องตากับแมวมองที่ขอถ่ายรูป ส่งไปแคสต์งานโฆษณา

แล้วนั่นเป็นครั้งแรกที่ประตูวงการบันเทิงต้อนรับหญิงสาววัยรุ่นที่ชื่อ ‘นุ่น วรนุช’

แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เธอได้ไปเล่นโฆษณา แต่ไม่ใช่ตัวละครหลัก เป็นเพียงนักแสดงประกอบที่สุดท้ายก็ถูกตัดออกอากาศ

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต ทว่าประตูแห่งโอกาสก็เปิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีคนส่งชื่อของเธอไปประกวด หนังสือ The Boy จนได้รางวัล ‘สาวหน้าใส’ หลังจากนั้นก็มีคนมาชวนเธอไปประกวด ‘มิสทีน’ หรือประกวดนางงาม แต่นุ่นก็ปฏิเสธทุกครั้ง เพราะคิดว่าเธอตัวเล็ก และไม่สวย ถ้าเทียบกับคนอื่น ๆ 

กระทั่งเธอได้รู้จักกับ ‘แก้ว’ ศิริ เหลืองสวัสดิ์ที่เป็นคนพาและชวนนุ่นไปแคสต์งานที่ช่อง 7 แล้วเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดในที่สุดในวัยประมาณ 15-16 ปี

ถึงอย่างนั้น ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะนุ่นไม่ได้มีทักษะการแสดงและเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ แต่สุดท้ายเธอก็กลายเป็นนักแสดงแถวหน้าของช่องที่สร้างผลงานประดับวงการไว้มากมาย 

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

ทักษะการแสดงติดลบ

นุ่น วรนุชมีผลงานครั้งแรกผ่านหน้าจอโทรทัศน์ของช่องหลากสี แต่กว่าจะถึงวันนั้น นุ่นก็เรียนรู้การแสดงจากการปฏิบัติจริง

เธอเรียนรู้จากรุ่นพี่มากฝีมือที่นุ่นเรียกว่าอาดาว หรือ ดวงดาว จารุจินดา มาสอนการแสดงให้ แต่วิธีการสอนไม่ใช่การสอนการแสดง แต่จะเป็นการพูดบทละคร แล้วเธอพูดตาม

เหตุผลที่เป็นแบบนั้น เพราะตอนนั้นจะเป็นการถ่ายละครไป ออนแอร์ไป เธอจึงต้องเรียนรู้ให้เร็ว และรับมือกับสิ่งที่ตัวละครคิดให้ได้

“เรื่องการแสดงคือศูนย์เลย หรือจะบอกว่าติดลบก็ได้ ละครก็ถ่ายไปออกอากาศไปเลย ไม่มีเวลาเตรียมตัว คุณแดงเลยให้อาดาว (ดวงดาว จารุจินดา) มาเทรนให้ เขาจะพูดเป็นตัวละคร แล้วเราก็พูดตาม มันเป็นการเรียนรู้ที่เร็วมาก” 

ถึงแม้จะเป็นเรื่องแรก แต่กระแสก็ดีเกินคาด นุ่น วรนุชก็มีงานการแสดงมาต่อเนื่อง แต่ชื่อเสียงก็มาพร้อมกับชีวิตวัยรุ่นที่หายไป

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

ย้อนกลับไป ชีวิตของนุ่นมีเพียงกองถ่าย บทละคร และการเรียนภาคค่ำ

“จริง ๆ ตอนเล่นละครเรื่องแรกกับช่อง 7 ก็ได้รับความนิยมเลย แล้วทุกเรื่องที่เล่นก็ได้รับเสียงตอบรับดีหมดเลย ไม่มีเวลาเดินห้างหรือไปเที่ยวไหนเลย เพราะทำแค่งานกับเรียน ตอนนั้นก็ยังเรียนไม่จบด้วย บางวันถ่ายละครทั้งวันแล้วไปเรียนต่อ พอเรียนเสร็จก็กลับมาถ่ายต่อ บางทีก็ถ่ายถึงเช้า เป็นแบบนี้อยู่หลายปี

“บางทีก็คิด เพื่อนต่างช่องได้ไปเมืองนอก ได้ไปหลายที่ ทำไมเราไม่ได้ไปเลย อยากไปเรียนภาษาก็ไม่ได้ไป ไม่เคยได้ไปไหนเลย อยู่แค่ที่เดิม ๆ ทำงานวนไป แต่ก็ยอมรับว่าเส้นทางนี้มันก็ให้ทุกอย่างกับเรานะคะ ให้ทั้งอาชีพและโอกาส จนทำให้เรารู้สึกว่า เรารักการแสดง ชอบในอาชีพนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ”

นุ่นโบกมือลาช่อง 7 หลังผ่านไป 15 ปี  แล้วย้ายมาเป็นนักแสดงอิสระเต็มตัว เลือกบทเอง และตัดสินใจทุกเรื่องด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันเธอก็ต้องแบกกับความรู้สึกไม่มั่นคงที่อยู่ในใจ 

“แต่พอมาเป็นฟรีแลนซ์ เราไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จไหม แล้วถ้าไม่สำเร็จ จะมีคนจ้างเราอีกไหม อันนี้คือสิ่งที่คิด ไม่ได้วางแผนไกลอะไร”

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

เรียกได้ว่าการย้ายออกมาเป็นนักแสดงอิสระ อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญบนเส้นทางการแสดงของนุ่น วรนุชเลยทีเดียว เพราะช่วงนั้นเธอกำลังจะอายุ 30 ปี และกำลังจะแต่งงาน

บทเรียนจากการอยู่วงการมานาน ทำให้เธอรู้ว่า การแต่งงานอาจทำให้มีงานลดลง และบทบาทที่ได้รับก็อาจจะน้อยลงไปตามกาลเวลา

“ตอนนั้นก็เลยรู้สึกว่าต้องตีศูนย์ไว้ก่อนเลยหลังแต่งงาน เพราะมันอาจจะไม่มีงานอีกแล้วก็ได้”

แม้จะกังวล แต่เธอก็ผ่านมาได้ ด้วยฝีมือและชั่วโมงบินในการแสดงที่สูง จากรุ่นน้องก็กลายเป็นรุ่นพี่และนักแสดงมากฝีมือที่ยังคงยืนอยู่ในวงการมาถึงปัจจุบัน 

‘ลำยอง’ 

เมื่อตัดสินใจเป็นนักฟรีแลนซ์ เราเห็นนุ่นผ่านหน้าจอด้วยคาแรกเตอร์ที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งนางเอก ตัวร้าย หรือแม้แต่บทนางรำ

เธอบอกว่า “โชคดีตอนอยู่ช่อง 7 ที่นุ่นไม่ได้รับบทนางเอกอย่างเดียว นุ่นเล่นบทอื่นด้วย อย่างเรื่องเปรตวัดสุทัศน์ จริง ๆ ให้เป็นนางเอกนะคะ แต่นุ่นขอเล่นเป็นเปรตเองเลย คือไม่ได้ยึดติดกับคำว่านางเอกหรือนางร้าย แต่อยากเล่นบทที่รู้สึกว่าอยากเล่นจริง ๆ”

แต่การแสดงที่เป็นที่พูดถึงมากในช่วงปี ‘2556’ ก็คือ การที่เธอเลือกรับบท ‘ลำยอง’ หญิงขี้เมาที่ต้องการความรักจาก ‘ทองเนื้อเก้า’

“พอมีข่าวว่านุ่นเล่น ทุกคนก็ดราม่าเลย บอกว่าไม่เหมาะสม เป็นไม่ได้หรอก แต่พี่อ๊อฟ พี่แดงก็ให้กำลังใจ บอกว่าอย่าไปสนใจ พูดปลอบใจด้วยว่า จริง ๆ แล้วลำยองตรงกับคาแรกเตอร์ของนุ่นด้วยซ้ำ

“เพราะว่าคนในหมู่บ้านตั้งชื่อว่าลำยองเพราะผิวผ่องเป็นยองใย รูปร่างขาว ก็เลยพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

แล้วทุกอย่างก็เป็นผล เพราะทองเนื้อเก้ากลายเป็นละครที่เดินสายรับรางวัลมากมาย และยังแจ้งเกิดให้กับเหล่านักแสดงที่รับบท ‘วันเฉลิม’ อีกด้วย 

มุมมองของนุ่น ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากใครคนหนึ่ง แต่เกิดจากทุก ๆ คนที่ร่วมแรงร่วมใจทำให้ละครเรื่องนี้สามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้ชมได้

“ดีใจมากค่ะ ถือว่าประสบความสำเร็จ  แต่เราทำงานกันเป็นทีม ขาดใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ทุกคนเก่งหมดเลย”

การคัมแบคเล่นหนังในรอบ 18 ปี 

ถ้าเปรียบเทียบระหว่างจอเกินกับจอแก้ว ส่วนใหญ่เราจะเห็นนุ่น วรนุชผ่านบทบาทของตัวละครโทรทัศน์มากกว่า แต่จริง ๆ แล้วเธอเองก็เคยรับงานภาพยนตร์อยู่บ้าง

เมื่อปี 2548 เธอเล่นภาพยนตร์ครั้งแรกประกบคู่หม่ำ ม๊กจ๊ก ในเรื่อง ‘เฉิ่ม’ ( Midnight My Love ) ต่อมาในปี 2550 เธอก็รับบท ‘ทิพย์’ ใน ‘เปิงมาง กลองผีหนังมนุษย์’ หนังสยองขวัญชวนขนลุก

ผ่านไป 18 ปี  เธอกลับมาเล่นภาพยนตร์อีกครั้งใน ‘สุสานคนเป็น’ 

ถ้าเล่าเรื่องราวสั้น ๆ สุสานคนเป็นจะว่าด้วยเรื่องราวของ ‘ลั่นทม’ เศรษฐินีที่เสียชีวิตลง เปิดทางให้ ‘ชีพ’ สามีของเธอ และ ‘รสสุคนธ์’ ชู้รัก ได้ใช้ชีวิตคู่รักอย่างเปิดเผยแล้วตัดสินใจย้ายไปอยู่ด้วยกัน แต่ก็ต้องเจอกับเรื่องราวสยองขวัญเมื่อพบโลงแก้วที่มีศพของลั่นทม เมียหลวงที่เสียชีวิตไปแล้ว ตั้งอยู่ในบ้าน

‘สุสานคนเป็น’ เวอร์ชันปี 2568 นุ่น วรนุชรับบทคุณนายลั่นทม เธอเล่าถึงแนวคิดเบื้องหลังของตัวละครว่า จริง ๆ แล้ว คุณนายลั่นทมก็อยากมีชีวิตที่มีความสุขและต้องการความรัก แม้สุดท้ายสามีจะไม่ได้รักเธอคนเดียว

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สุสานคนเป็นก็เป็นบทประพันธ์ที่ถูกนำมาสร้างใหม่แล้วทั้งหมด 4 เวอร์ชัน แต่ครั้งนี้ นุ่นก็ยังบอกว่า ไฮไลท์สำคัญก็ยังคงเป็นโรงแก้วที่ตั้งอยู่กลางบ้าน

สุสานคนเป็นกำลังจะเข้าโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศวันที่ 24 เมษายน 2568  และการคงอยู่ของสุสานคนเป็นในยุคนี้ยังเป็นภาพสะท้อนว่า เรื่องสามีภรรยาก็ยังคงเป็นปัญหาของคนไทยที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร

“ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ทํามานานแล้ว แต่เรื่องสามีภรรยา เรื่องของครอบครัวมันมีทุกยุคทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน มันถึงได้มีข่าวเรื่องราวต่างๆออกมาในหน้าสังคม มันเป็นเรื่องที่มันไม่ควรเกิดขึ้นกับทุกคนเราก็ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นในชีวิตของคุณลั่นทม จนวันหนึ่งเขาตาย

“เรื่องนี้มาเล่าได้เพราะคนน่ะรู้เรื่องอยู่ แล้วแต่ว่าอยากให้มาดูว่าวิธีการเล่าของเราในภาพยนตร์นี้จะเป็นอย่างไร”

ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหน นุ่นก็รับมือได้หมด แต่การทำงานในวงการมามากกว่าครึ่งชีวิต ก็ทำให้เธอรู้ว่า อาชีพนักแสดงไม่มั่นคง ทุกอย่างผ่านมาแล้วอาจจะผ่านไป 

ไม่มีใครรู้ว่างานชิ้นต่อไปจะมาถึงเมื่อไหร่ และเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่นุ่นเลือกทำ คือ “ทำให้ดีที่สุด” กับทุกบทบาทที่ได้รับ

เราไม่มีทางลืมอดีตได้

บทเรียนที่วงการบันเทิงและอาชีพแสดงมอบให้กับ ‘นุ่น วรนุช’ คือ อาชีพนักแสดงอาจไม่ใช่อาชีพสุดท้ายที่เธอจะเลือกทำไปจนถึงวันเกษียณ

“ไม่ได้คิดว่าจะใช้อาชีพนี้ไปจนถึงแก่ เพราะไม่รู้เลยว่าอาชีพนี้จะอยู่กับเราได้นานแค่ไหน ส่วนใหญ่พออายุเยอะขึ้นก็แยกย้าย เห็นรุ่นพี่บางคนช่วงหนึ่งก็เป็นนางเอก แล้วก็หายไป กลายเป็นตัวแม่ เป็นตัวอื่น ซึ่งบทบาทก็อาจจะน้อยลงเรื่อย ๆ เราไม่รู้ว่าช่วงนั้นมันจะมาถึงเราเมื่อไหร่

ทางออกของนุ่น คือ การหาอาชีพสำรอง และเธอเลือกที่จะทำธุรกิจของตัวเอง เริ่มตั้งแต่โรงเรียนนาฏกะ ขายหมวก ทำสกินแคร์ และอีกมากมาย

“นุ่นชอบธุรกิจ ชอบซื้อหนังสือที่ขายที่ดินมานั่งดู ขับรถวนดูที่ ถ้าตรงไหนสวยก็จดเบอร์ติดต่อไว้ ตอนว่าง ๆ ก็ทำธุรกิจเล็ก ๆ เช่น เอาหมวกปานามาจากเอกวาดอร์หรืออังกฤษมาขาย สนุกดี”

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

ทุกวันนี้เธอจึงทำธุรกิจควบคู่ไปกับในวงการ เพราะเธอรู้ว่าอาชีพนักแสดงไม่มั่นคง แต่ก็ไม่ได้วางแผนชีวิตให้ไกลสุดตา แต่วางแผนระยะสั้น แล้วค่อย ๆ เก็บเกี่ยวความสำเร็จไปเรื่อย ๆ 

“เป็นคนที่ไม่ได้คิดไกล เพราะฉะนั้นแต่ละวันเราจะใช้ชีวิตต่อเนื่องอยู่แล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรายวัน เราไม่สามารถคิดไกล ถ้าไกล เราจะเอาอะไรมากกำหนดว่าเราจะทำอะไร 

“สมมติเราอยากสร้าง Community Mall เราไม่สามารถวางแพลน 10 ปีได้ เพราะเราไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเรามีเงินก้อนหนึ่งวันนี้ เราก็แค่คิดว่าวันนี้จะทำอะไรกับมันได้บ้าง มันจะต่อยอดไปวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ แค่นั้น”

พูดง่าย ๆ คือ เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตกับปัจจุบัน แล้วให้ผลของอดีตกับปัจจุบันเป็นตัวกำหนดอนาคต

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต “เราไม่มีทางลืมอดีตได้ นักแสดงหรือคนที่ทําอาชีพต่าง ๆ ทุกคนมีเบื้องหลังของชีวิตที่ผ่านมา ปรับเป็นความรู้สึกได้ว่า โมเมนต์นี้คืออะไร มันต้องผ่านเรื่องราวทั้งมีความสุข ความทุกข์ ผ่านการหัวเราะและร้องไห้ มีหมดทุกอย่าง”

แต่ความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะเราต่างเป็นมนุษย์ และสำหรับนุ่น เรื่องราวทั้งหมดหล่อหลอมเป็นตัวเธอในวันนี้ เป็นนุ่นวรนุชที่ยังคงรักการแสดง และเชื่อว่า เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน

ชีวิตคือความสุข

อายุที่มากขึ้น งานที่น้อยลง เพราะเธอเลือกเฉพาะบทบาทที่เธออยากเล่นจริง ๆ  ทำให้นุ่นเริ่มออกเดินทางและลองทำในสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด

“ชีวิตนุ่นคือความสุข พยายามมีความสุขในสิ่งที่ทำ หลายอย่างตอนเด็กไม่ได้ทำ ก็ทำตอนโต อย่างเรื่องเที่ยว นุ่นไม่ค่อยได้เที่ยว ได้เที่ยวก็ตอนโตแล้ว ก็ทำหมดเลย อยากไปไหน แพลนเอง เลือกเอง พักที่ไหน สายการบินไทย ทำเองหมดเลย ก็สนุกดี”

อีกอย่างหนึ่ง ด้วยความที่เธอเติบโตมาในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก เธอจึงไม่ค่อยมีเพื่อนนอกวงการ แต่ถึงจะน้อย แต่นุ่นก็บอกว่า คำว่าเพื่อน ขอแค่อยู่ข้าง ๆ กันและสบายใจต่อกัน เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

“เอาจริงๆ เพื่อนอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ บางทีมีปัญหาอะไร เล่าสู่กันฟัง เราไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมาช่วยแก้ไขปัญหาให้เราได้ แค่เล่าให้เขาฟังหรือเขาเล่าให้เราฟัง แนะนำกัน แค่นี้โอเคแล้ว”

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

นับตั้งแต่วันแรก ตอนนี้นุ่น วรนุชโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมามากกว่า 20 ปี เธอเล่นละครมาหลายเรื่อง ฝึกฝน และเติบโตไปพร้อมกับวงการบันเทิง 

แม้หลาย ๆ เรื่องจะได้รับความนิยม แต่เมื่อถามถึงจุดสำเร็จในอาชีพนี้ เธอเองก็ดูลังเล ไม่ค่อยแน่ใจว่า เส้นทางที่ผ่านมา เธอได้เดินทางถึงจุดสำเร็จแล้วหรือยัง

เพราะสิ่งเดียวที่นุ่นรู้ คือ ผลงานและความพยายามในอดีตส่งผลให้เธอยังคงยืนอยู่ในวงการถึงปัจจุบันได้

“นุ่นไม่ได้มองว่าตัวเองสำเร็จแค่ไหน มันตอบไม่ได้ว่าสูงสุดแค่ไหน แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจุดที่เรายืนอยู่มันสูงสุดหรือเปล่า แต่แค่มันสามารถต่อยอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เพราะนุ่นก็เชื่อว่าถ้าหากเราตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด แล้วผลงานออกมาดี มันก็จะมีคนเห็น”

ยังขอบคุณทุกคนอยู่เสมอ

“นุ่นจะขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเสมอ ทุกคนจะสอนแต่ละแบบ ทำให้เราได้ความรู้ และรู้ว่าต้องทำอะไร อยู่ยังไง เพราะเรื่องพวกนี้มันไม่สามารถที่เรียนได้ในมหาวิทยาลัยหรือในโรงเรียน  มันเป็นวิชาชีวิตจริงๆ”

ถ้ามองย้อนกลับไป บางครั้งอาจมีช่วงเวลาที่ยาก หรือทำผิดพลาด แต่นุ่นมองว่าทุกก้าวเดินถือเป็นการเรียนรู้ และเป็นการจัดการชีวิตของตัวเราเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้

“ไม่มีทางที่เราจะมีชีวิตที่โรยไปด้วยกุหลาบขาวทั้งหมด บางทีกุหลาบก็เหี่ยวบ้างอะไรบ้าง หรือมันมีใบไม้แซม ๆ ออกมาที่มันไม่ได้สวยงาม มันก็เป็นเรื่องปกติ เราก็เก็บเรื่องพวกนี้มาเป็นสิ่งที่เราต้องคิดถึง แล้วในเมื่อเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เราจะมีวิธีจัดการกับชีวิตตัวเองอย่างไร”

นุ่น วรนุช : นักแสดงที่ใช้ปัจจุบันเป็นฐาน แล้วให้อดีตกำหนดอนาคต

วันนี้นุ่นจึงไปเรียนภาษา เรียนเต้น และทำอะไรอีกมากมาย ยึดคีย์เวิร์ดร่วมกับเพื่อน ๆ คือ ‘เริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน’ ออกไปทำสิ่งที่เธอไม่เคยทำ 

“มันจะมีเวิร์ดคำหนึ่งที่เราจะคุยกับเพื่อนๆ เสมอว่า เริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน อย่างเราไปเรียนไอซ์สเก็ต คือนุ่นเริ่มจริงจังตอน 40 แต่ก็ไม่ได้เก่งนะ  รู้สึกว่าเป็นกีฬาในร่ม สวยด้วย สนุก แล้วก็ได้เจอเพื่อนๆ เยอะด้วย มันก็เลยทำให้เราได้เรียนรู้ตอนอายุเยอะอย่างนี้ มันก็โอเคนะ” 

และสุดท้ายเธอก็ยังให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ…

“ให้กำลังใจตัวเองเสมอค่ะ จริงๆ มีคนให้กำลังใจตัวเองเสมอ ก็คิดว่า ทำในสิ่งที่ดีที่สุด ทำเต็มที่แล้ว เก่งมาก!”