พฤษภาคม ปี 2013 คลาร่า ลี (Clara Lee) ยืนอยู่กลางสนามเบสบอลเพื่อทำหน้าที่ขว้างบอลเปิดการแข่งขันระหว่างทีม Doosan Bears และ LG Twins เพียงท่ายืนก็เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งสนาม ด้วยกางเกงขายาวรัดรูปที่เน้นโชว์สัดส่วนสะโพก เรียวขาสุดเซ็กซี่ และเสื้อเอวลอยโชว์หน้าท้องขาวแบนราบ ก่อนที่เธอจะโน้มตัวขว้างบอลเป็นแนวโค้งออกไป ทันทีที่บอลผลัดออกจากมือ คลาร่า ลี ไม่รู้ตัวเลยว่ากราฟชีวิตของเธอกำลังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ชื่อของเธอกลายเป็นที่รู้จักเพียงข้ามคืน สื่อทุกสำนักลงภาพเธอในฐานะ “เซ็กซี่สตาร์” คนใหม่ของวงการ ทั้งที่จริงแล้วเธอเป็นนักแสดงสาวที่อยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 8 ปี ย้อนกลับไป “คลาร่า ลี” หรือชื่อเดิม “ลี ซอง มิน” เข้าวงการบันเทิงครั้งแรกในปี 2005 เธอเป็นลูกสาวของ ลี ซึง คยู นักร้องนำวง Koreana ที่โด่งดังในอดีต คุณพ่อของเธอมักทำงานหลายๆ ประเทศในยุโรป ส่วนคุณแม่เรียนที่ลอนดอน ทำให้เธอเกิดที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และได้สัญชาติอังกฤษ คลาร่าเรียนจบจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนกลับทำงานวงการบันเทิงที่ประเทศเกาหลี มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในปี 2009 คือ Five Senses of Eros ต่อมาปี 2012 เธอเริ่มประกาศใช้ชื่อ “คลาร่า” แทน “ลี ซอง มิน” ระหว่างงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรี่ส์ดราม่า Take Care of Us, Captain ด้วยเหตุผลว่าชื่อ "ซองมิน” ฟังเป็นชื่อผู้ชายเกินไป อีกทั้งชื่อ “คลาร่า” เป็นชื่อภาษาอังกฤษที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้ว คลาร่าเคยให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงหลังการขว้างบอลเปิดสนามไว้ว่า “ฉันอยู่ในวงการมานานแต่ไม่เป็นที่รู้จัก บางช่วงแทบไม่มีงานด้วยซ้ำ ทำให้ฉันเริ่มกังวลกับอนาคตในวงการบันเทิง ก่อนที่จะได้รับการติดต่อให้มาขว้างบอลเปิดสนามล่วงหน้าเพียง 3 วัน ฉันพยายามซ้อมการขว้างมาตลอด 3 วัน พอฉันได้มายืนบนแท่นขว้าง เสียงของผู้คนในสนามดังกึกก้องทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น ฉันกระโดดขึ้นไปบนเนินพิชเชอร์โดยไม่รู้ตัว มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากๆ” หลังจากวันนั้นคลาร่าโด่งดังเป็นพลุแตกทันที เธอเริ่มมีงานถ่ายแบบเซ็กซี่ตามนิตยสาร ออกรายการโทรทัศน์ และเล่นมิวสิควิดีโอให้กับศิลปินนักร้องชื่อดัง ก่อนกราฟชีวิตจะพุ่งขึ้นอีกระดับจากการแสดงภาพยนตร์โฆษณาสไปรท์ในชุดบิกินี่ริมชายหาด โชว์สัดส่วนหน้าอกและสะโพกสุดเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่ม ทำให้เธอมีชื่อเสียงระดับโลกเต็มตัว จากหญิงสาวที่มีรายได้เล็กน้อยจากงานละคร คลาร่ากลายเป็นไอคอนเซ็กซี่ที่มีรายได้มากขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า คลาร่า ลี ประสบความสำเร็จสูงสุดเมื่อได้รับการโหวตว่าเป็นผู้หญิงสวยที่สุดในโลกอันดับ 2 ของโลกประจำปี 2014 จากการจัดอันดับของนิตยสาร Mode Lifestyle Magazine เอาชนะนักแสดง-นางแบบระดับโลกอย่าง เจสสิกา อัลบา, สกาเลตต์ โจแฮนสัน และ เทย์เลอร์ สวิฟต์ อีกทั้งเธอยังเป็นนางแบบเอเชียคนแรกที่ได้ถ่ายแบบให้กับนิตยสารนี้อีกด้วย “ฉันรู้สึกดีใจมากๆ ที่ไม่ใช่แค่คนเกาหลีที่มองฉันว่าสวยเท่านั้น แต่เป็นคนทั่วโลก ฉันอยากแสดงคำขอบคุณไปยังแฟนๆ ของฉันทั้งในและนอกประเทศผ่านโอกาสที่มีในครั้งนี้" เธอให้สัมภาษณ์ถึงภาพลักษณ์เซ็กซี่ว่าสร้างแรงบันดาลใจให้เธอต้องรักษาหุ่นและต้องดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ “ฉันคิดว่าฉันสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับแฟนคลับ ทำให้พวกเขามีไลฟ์สไตล์ดูแลสุขภาพกันบ้าง ฉันชอบแชร์ไอเดียการควบคุมอาหารและแนวทางการออกกำลังกายกับแฟนคลับ ฉันเป็นคนคิดบวกจึงคิดว่าน่าจะช่วยพวกเขาได้ มันไม่ใช่แค่การเซ็กซี่แค่ภายนอก แต่มันสำคัญว่าต้องรู้สึกเซ็กซี่จากภายใน แสดงออกอย่างสดใส และคิดบวกค่ะ” เมื่อถามความลับที่เธอประสบความสำเร็จในชีวิตขนาดนี้ เธอกล่าวว่า มันยังคงเป็นความลับสำหรับเธอ เธอแค่ตั้งใจหนักเท่าที่จะทำได้ และเชื่อว่าทุกความพยายามที่ใส่ลงในงานและชีวิต จะส่งผลกลับมาเป็นความสำเร็จแน่นอน “ฉันคิดว่าถ้าฉันทำงานหนักพอ ความฝันก็จะกลายมาเป็นความจริง” [caption id="attachment_11828" align="alignnone" width="500"]
Clara Lee[/caption] แต่ชีวิตเธอก็ไม่ต่างอะไรกลับลูกบอลที่เธอขว้าง เมื่อขึ้นจุดสูงสุดแล้วย่อมร่วงหล่นลงมาเป็นธรรมดา ทว่าการร่วงครั้งนี้เกิดจาก “คำพูด” ของเธอ ที่ผลัดออกจากปากแล้วไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้ และคำพูดนั้นเป็นคำ “โกหก” เสียด้วย เพราะการเป็นบุคคลสาธารณะที่ทำงานในแสงไฟสปอตไลท์ย่อมถูกจับจ้องเป็นธรรมดา ความผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็อาจทำลายชื่อเสียงในระยะยาว ทว่าความผิดพลาด คลาร่า ลี หาใช่เรื่องเล็กน้อยเหมือนคนอื่น แต่กลับเป็นเรื่องที่อภัยได้ยากอย่างการโกหก เหตุเกิดขึ้นเพียง 1 ปี หลังจากเธอประสบความสำเร็จสูงสุดระดับโลก เธอกลายเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งเมื่อทำการยื่นฟ้องศาล เพื่อขอยกเลิกสัญญากับเอเยนซี่ Polaris Entertainment ด้วยเหตุผลว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยประธานบริษัท ขณะที่ต้นสังกัดออกมาแถลงข่าวตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง และฟ้องร้องเธอกลับข้อหาทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงแทน ระหว่างที่คดีกำลังดำเนินการ โลกอินเทอร์เน็ตเริ่ม “จับผิด” เธอในหลายๆ แง่มุมจนเป็นข่าวฉาวไม่เว้นวัน ไม่ว่าจะเป็นการโกหกว่าไม่เคยศัลยกรรม ทั้งๆ ที่มีรูปเธอสมัยเด็กซึ่งแตกต่างไปจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง, การโกหกปีเกิดในประวัติออนไลน์ว่าเกิดปี 1986 ทั้งที่จริงเกิดปี 1985 โดยแหล่งข่าวบอกว่า เธอปลอมแปลงประวัติเพื่อให้ตัวเองดูเด็กลงปีถึงสองปี เธอยังถูกจับผิดหลายครั้งเวลาไปออกรายการโทรทัศน์ต่างๆ เพราะคำพูดของเธอกลับกลอกไปมาในแต่ละรายการ เช่น เคยบอกว่าไม่ชอบทานไก่ทอดและเบียร์ในรายการ God of Food Road แต่กลับบอกว่าชื่นชอบการทานไก่ทอดและเบียร์ในรายการ Cultwo Show, เคยบอกว่าไม่ทราบวิธีเล่นโยคะในรายการ Happy Together 3 แต่สามารถแสดงท่าทางการเล่นโยคะในรายการ Vitamin และ Reckless Family หรือการบอกว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆ กับเซเลบริตี้ใน One in Fantasy แต่อีกสัปดาห์ต่อมาบอกว่าเคยมีแฟนหนุ่มเป็นท็อปสตาร์เบอร์ต้นของวงการ นอกจากนี้เธอยังแอบอ้างวิธีการทำอาหารเสียบเส้นสปาเก็ตตี้ในไส้กรอกว่าเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเอง ทั้งๆ ที่เป็นสูตรที่ค้นหาได้ง่ายตามอินเทอร์เน็ต พร้อมๆ กับเว็บไซต์ Dispatch เปิดเผยบทสนทนาระหว่างคลาร่าและประธานบริษัท Polaris Entertainment ว่ามิใช่การคุกคามทางเพศโดยมีนัยยะสมยอมด้วยซ้ำ ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็เจรจายอมความ และเธอก็ถอนฟ้องออกไป การโกหกซ้ำๆ ทำให้ภาพลักษณ์คลาร่าเสียหายอย่างรุนแรง ชีวิตเธอพลิกกลับตาลปัตรทันที แบรนด์โฆษณาหลายแห่งยกเลิกสัญญาเพราะได้รับความกระทบกระเทือนทางภาพลักษณ์, สมาคมเบสบอลมืออาชีพของเกาหลีพิจารณาแบนเธอจากการขว้างบอลเปิดสนามตลอดไป ด้วยเหตุผลที่ว่า “หากคลาร่ายังเดินหน้าต่อไปด้วยภาพลักษณ์แบบนี้ อาจเป็นเรื่องยากสำหรับเธอในการขว้างบอลเปิดสนามแข่งขันอีกต่อไป” ขนาดสื่อใหญ่ Korea Times ยังพาดหัวข่าวเกี่ยวกับเธอว่า “No more lies, Clara!” อีกด้วย ความบอบช้ำทำให้เธอพาตัวเองออกจากวงการบันเทิงเกาหลี และหนีไปพักผ่อนต่างประเทศ โดยตัวแทนของเธอบอกกับสื่อว่า“คลาร่าเดินทางไปสิงคโปร์ เธอไม่มีเหตุผลพิเศษอะไร แค่เหน็ดเหนื่อยจากเรื่องต่างๆ จึงอยากไปพักผ่อนสักระยะหนึ่ง” ทั้งนี้ เธอยังได้โพสต์ข้อความระบายความในใจเกี่ยวกับข้อกล่าวหาทั้งหมดลงบนโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า การอยู่ในวงการบันเทิงคือการสร้างความบันเทิงให้กับคนอื่น ไม่ใช่การนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง “มันเป็นการโกหกเหรอที่ฉันบอกว่าชอบทานไก่ทอดและเบียร์เพราะฉันกำลังอยู่กับเพื่อนในบรรยากาศดีๆ แม้ว่าจริงๆ แล้วฉันจะไม่ได้ชอบไก่ทอดและเบียร์ก็ตาม? มันเป็นการโกหกเหรอที่ฉันเก่งโยคะแต่ไม่เคยถูกสอน? มันเป็นการโกหกเหรอที่บอกว่าไม่เคยเดตกับเซเลบริตี้ เพราะฉันไม่ต้องการพูดถึงเขา?” นอกจากนี้เธอยังอ้างว่า การเติบโตในต่างประเทศทำให้เธอไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมเกาหลีใต้มากนัก แต่เธอก็พยายามอย่างหนักที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมและพฤติกรรมที่ถูกต้อง ท้ายข้อความเธอบอกว่า “คุณจะเกลียดฉันก็ได้ ฉันเชื่อว่าคุณอาจเคยกล่าวถึงฉันในแง่ร้าย แต่อย่างไรก็ตาม ได้โปรดอย่าคิดว่าฉันผิดเพียงเพราะฉันแตกต่างกับคุณ” [caption id="attachment_11829" align="alignnone" width="827"]
Clara Lee ออกรายการโทรทัศน์เกาหลีครั้งแรกหลังข่าวต่าง ๆ[/caption] หลังหนีจากวงการบันเทิงเกาหลีไปสร้างชื่อในฐานะการแสดงที่ประเทศจีน คลาร่ากลับมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีในรายการ One Night of TV Entertainment ทางช่อง SBS เธอพูดถึงช่วงระยะเวลาที่หายไปว่า "เป็นระยะเวลานานที่ฉันสร้างชื่อคลาร่าจนมาถึงตรงนี้ แต่ความปรารถนาที่ฉันสั่งสมมานานกว่า 9 ปีกลับหายไปเพียงพริบตาเดียว หรือว่าฉันพยายามไม่มากพอในการรักษาภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูดี เพราะอยู่ๆ ฉันก็ได้รับความรักและความสนใจหลังจากไร้ตัวตนในวงการมานาน ฉันเองก็คิดทบทวนอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับพฤติกรรมและคำพูดของตัวเอง” คลาร่ายังกล่าวถึงการถอนฟ้องคดีว่า “เราไม่ได้ทำข้อตกลงทันที แต่ทนายของเราพบเจอกันหลายต่อหลายครั้งเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน เพราะสถานการณ์ที่ลุกลามใหญ่ขึ้น เราทั้งสองคิดว่าควรจัดการเรื่องอื้อฉาวนี้ให้เร็วที่สุด ฉะนั้นเราจึงยุติข้อปัญหาดังกล่าว ฉันเองสงสัยเหมือนกันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ปัญหาเกิดขึ้นจากที่ไหน” เธอยังกล่าวพร้อมน้ำตาถึงความกังวลภาพลักษณ์เซ็กซี่ที่กลายเป็นภาพจำของเธอไปแล้วว่า “ฉันระมัดระวังในภาพลักษณ์ที่ถูกมอง ฉันได้รับการโปรโมทในฐานะนักแสดงเป็นเวลากว่า 9 ปี ซึ่งไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์เซ็กซี่อย่างเดียว ฉันสัญญาว่าจะแสดงภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในอนาคตอีก” ท้ายที่สุดเธอกล่าวขอบคุณแฟนคลับที่เชื่อในตัวเธอและคอยให้กำลังใจเสมอมา ด้วยการขยันทำงานในโปรดักชั่นที่มีคุณภาพมากขึ้น “ฉันอยากให้คุณเปิดใจสักนิดก็ยังดี มองไปข้างหน้า และติดตามผลงานฉันต่อไป” ความผิดพลาดครั้งก่อนทำร้ายเธอมามากเพียงพอแล้ว ต่อจากนี้คือโอกาสใหม่ที่คลาร่าต้องหันกลับมาทบทวนตัวเอง เพราะ “คำพูด” และ “ลูกบอล” ที่เธอขว้างออกไปนั้น มันไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้ ที่มา
