10 ต.ค. 2567 | 19:30 น.
อาชีพนักเขียนนิยายอาจไม่ใช่ชื่อแรกๆ ที่คนในยุคนี้นึกถึง เมื่อมีใครสักคนถามว่า อนาคตอยากทำอาชีพอะไร? แต่งานเขียนกลับเป็นแพสชันของนักลงทุนและอินฟลูเอนเซอร์ด้านการลงทุนที่มียอดผู้ติดตามหลักล้าน
ความทะเยอทยานในการพานิยายแนวสืบสวนสอบสวนโดยฝีมือของนักเขียนชาวไทยที่ชื่อ กิตติศักดิ์ คงคา คนนี้ ได้แหวกพื้นที่เข้าไปติดในชั้นหนังสือขายดีอันดับหนึ่งท่ามกลางหนังสือ Non-fiction, How-to สายพัฒนาตัวเองและวรรณกรรมฮีลใจที่ดูจะเป็นที่ต้องการของคนในปัจจุบันมากกว่าได้อย่างน่าชื่นชม
แล้วอะไรบ้างที่ทำให้วรรณกรรมไทยเรื่อง ‘กาสักอังก์ฆาต’ ถึงสามารถสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการหนังสือไทยได้คึกคักอีกครั้ง?
เมื่อศาสตร์แห่งการลงทุนมาบรรจบกับการเขียน
ชื่อเสียงของ กิตติศักดิ์ คงคา ในแวดวงวรรณกรรมอาจเริ่มติดหูนักอ่านเมื่อไม่กี่ปีให้หลังนี้ แต่ถ้าถามถึงผู้ที่สนใจด้านการลงทุนเพจที่ชื่อ ‘ลงทุนศาสตร์’ น่าจะคุ้นหูกันอยู่บ้าง เขาเริ่มต้นแบ่งปันความรู้และทริคสำหรับนักลงทุนอย่างต่อเนื่องมานานเกือบสิบปีจนมียอดผู้ติดตามหลักล้าน หลายๆ คนที่อัปเดตข่าวสารด้านนี้อยู่เป็นประจำน่าจะร้องอ๋อ
เพราะถือได้ว่าเป็น ‘ตัวตึง’ คนหนึ่งในวงการหุ้นไทย โดยเริ่มต้นลงทุนด้วยตัวเองตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน จนปัจจุบันขนาดพอร์ตขยายจากเงินลงทุน 1 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาท กิตติศักดิ์ จึงได้รับการทาบทามให้ไปเล่าประสบการณ์ด้านการลงทุนที่ประสบความสำเร็จบนสื่อต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์จำนวนมาก หลายๆ คนอาจเห็นหน้าของเขาไปโผล่ในรายการสายธุรกิจและการเงินซะมากกว่า
แต่ด้วยความที่เป็นนักเรียนรู้ที่ไม่กรอบตัวเองไว้แค่เรื่องการลงทุนเท่านั้น เขายังสนใจในศาสตร์ต่างๆ รอบตัว ตั้งแต่วิทยาศาสตร์ นิติวิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ศาสนา ไปจนถึงวรรณกรรม ซึ่งกลายมาเป็น วรรณกรรมเรื่องต่างๆ รวมถึง ‘กาสักอังก์ฆาต’ นั่นเอง
เรื่องราวในหนังสือสะท้อนความคิดและมุมมองที่มีต่อโลกของผู้เขียน รวมถึงเชิดชูผลงานของนักเขียนแนวสืบสวนชั้นครูของญี่ปุ่นที่ชื่อ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ร่วมกับงานเขียนฝั่งอังกฤษชั้นครูอีกคน อกาธา คริสตี้ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ประกอบร่างกลายเป็น ‘กาสักอังก์ฆาต’
ความอดทนรอที่ไม่ทรยศต่อแพสชัน
ถ้าใครสักคนปลูกต้นไม้ก็หวังที่จะรอชมสีสันของดอกผลิบานหรือเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่นเดียวกันกับการทุ่มเทให้กับงานด้านวรรณกรรมของ กิตติศักดิ์ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จด้านการเงินคนนี้ เขาเหลาฝีมือด้านการเขียนของตัวเองให้แหลมคมและปล่อยผลงานของตัวเองออกมาอย่างสม่ำเสมอตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
ถึงแม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่วรรณกรรมบางส่วนของเขาก็สามารถคว้ารางวัลการันตี จนเมื่อหนังสือ ‘กาสักอังก์ฆาต’ ของ กิตติศักดิ์ กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาว์นในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่จับตามองในฐานะนักเขียนที่กล้าและมีความทะเยอทยานอย่างไม่มีลดละที่จะทำให้งานเขียนของเขาได้เข้าไปอยู่ในมือของผู้อ่านได้สำเร็จ ด้วยการรีวิวสั้นๆ ของนักอ่านคนหนึ่งที่เขียนไว้ว่า “สนุกกีระเบิด” ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลด้วยข้อความไม่กี่บรรทัดนี้
ยอดการดาวน์โหลดและสั่งซื้อหนังสือเพียงชั่วข้ามคืนแบบถล่มทลาย จนกลายเป็นปรากฏการณ์นี้เองที่เป็นการยืนยันว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นมาถูกทางแล้ว เพียงรอการค้นพบและจังหวะสุกงอมที่เหมาะสมเพื่อรอให้เจ้าของต้นมาเด็ดชิมลิ้มรสความหอมหวานของความสำเร็จ ที่มาพร้อมกันทั้งเงินและกล่อง
รวมไปถึงหนังสือทำคะแนนจากนักอ่านไปได้ 4.22 คะแนนบนแพลตฟอร์มอ่านหนังสือชื่อดังอย่าง Goodreads จากความเห็นของคนอ่านจำนวน 276 คน และหนังสือทำลายสถิติการพิมพ์ไปที่การพิมพ์ซ้ำ 12 ครั้งภายในเวลา 5 เดือน
ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นผลงานนิยายไทยติดอันดับขายดีต่อเนื่องยาวนานในร้านหนังสือ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคสมัยนี้) แต่ ‘กาสักอังก์ฆาต’ ทำมาได้หลายเดือนติดต่อกัน โดยคว้าอันดับ 1 หนังสือขายดีในมหกรรมนิยายนานาชาติ ปี 2024 ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยมาแล้ว
ด้วยการสั่งสมประสบการณ์ทางการอ่าน เขาได้ถ่ายทอดผ่านการเล่าเรื่องออกมาเป็นงานเขียนอีกว่า 20 เล่มตลอด 6 ปีที่ได้กระโดดเข้ามามุ่งมั่นปั้นหนังสือนิยายของตัวเองอย่างเต็มตัวไปพร้อมกับการทำงานในสายการลงทุน
วอเร็น บัฟเฟตต์ นักลงทุนอันดับหนึ่งของโลกเคยกล่าวไว้ว่า “ไม่ว่าพรสวรรค์หรือความพยายามจะสุดยอดสักเพียงไหน ของบางอย่างต้องอาศัยเวลา ดังเช่นที่คุณไม่สามารถมีลูกภายในหนึ่งเดือนได้ด้วยผู้หญิงท้องเก้าคน”
อุตสาหกรรมหนังสือที่ยังรอคอยดาวรุ่งอีกหลายดวงมาปลุกวงการ
ท่ามกลางการถกเถียงถึงตัวเลขราคาหนังสือในไทยที่สวนทางกับรายรับของคนส่วนใหญ่ในประเทศ ซึ่งตัวเลขค่าเฉลี่ยที่ยังไม่ขยับไปไหนไกลจากเมื่อหลายปีก่อน
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ เปิดเผยว่า ต้นทุนการผลิตหนังสือต่อเล่มมีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ในอีกไม่ช้าหนังสือ (มือหนึ่ง) ราคาต่ำกว่า 200 บาทก็จะยิ่งบางลงๆ จนอาจไม่มีให้เห็นอีกต่อไป ปัจจุบันยอดพิมพ์ต่อครั้งลดลงเรื่อยๆ ถ้ามองตามวิธีคิดแบบ ‘Economy of scale’ การมียอดพิมพ์สูงขึ้นยิ่งทำให้ต้นทุนในการผลิตต่ำลง ก็จะเป็นผลให้ราคาหนังสือลดลงมานั่นเอง
ดังนั้นถ้ารัฐให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมหนังสือและผลักดันนักเขียนไทยให้ผลิตผลงานได้อย่างต่อเนื่อง สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อกับ ecosystem ทั้งระบบ ก็อาจช่วยให้วงการนี้ผลิตนักเขียนหน้าใหม่สามารถยืนระยะในเส้นทางการเขียนของตัวเองได้อย่างอยู่รอดและเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง แล้วงการหนังสือของเราก็อาจมีคนอย่าง กิตติศักดิ์ คงคา และ วรรณกรรมสืบสวนสอบสวนฝีมือคนไทยแบบ ‘กาสักอังก์ฆาต’ เป็นทางเลือกให้นักอ่าน รวมไปถึงต่อยอดไปเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ ผลักดันให้เป็น Soft Power ที่ทรงพลังได้อีกเช่นกัน