Tears in Heaven : แด่ดวงใจที่จากไป... บทเพลงที่กลั่นจากน้ำตา ‘อีริค แคลปตัน’

Tears in Heaven : แด่ดวงใจที่จากไป... บทเพลงที่กลั่นจากน้ำตา ‘อีริค แคลปตัน’

‘Tears In Heaven’ บทเพลงอมตะของ ‘อีริค แคลปตัน’ (Eric Clapton) ห้วงเวลาการก้าวข้ามเหตุการณ์สูญเสียลูกชายที่กลั่นเอาน้ำตาออกมาเป็นบทเพลง

KEY

POINTS

  • เมื่อลูกชายที่ชื่อคอนเนอร์ถือกำเนิดขึ้นมาในชีวิตของหนึ่งในมือกีตาร์ร็อคสตาร์เบอร์หนึ่ง ‘อีริค แคลปตัน’ ชีวิตของเขาก็แปรเปลี่ยนไปตลอดกาล... เฉกเช่นเดียวกับในตอนที่เด็กคนเดิมเดินจากไป
  • โศกนาฏกกรมการสูญเสีย คอเนอร์ แคลปตัน ที่จากไปอย่างไม่มีใครสามารถตั้งตัวได้ กับชีวิตของคนเป็นพ่อ ที่เปลี่ยนไปตลอดกาล
  • กลั่นน้ำตาทุกหยดเป็นบทเพลงเปลี่ยนโลกด้วยกีตาร์สเปนและจดหมายจากลูกชายผู้ล่วงลับจนกลายเป็น Tears in Heaven

บทเพลงอมตะแต่ละชิ้น เสียงตัวโน้ตกีตาร์แต่ละตัว ถ้อยคำในเนื้อเพลงแต่ละวรรค ของเทพกีตาร์ฉายา Slowhand อย่าง ‘อีริค แคลปตัน’ (Eric Clapton) ล้วนกลั่นออกมาจากความรู้สึกอันแท้จริงจากหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นไฟเร่าร้อนแห่งการแอบรักจาก Layla บรรยากาศรักอันหวานชื่นใน Wonderful Tonight และรวมถึงความโศกเศร้าเสียใจจากการสูญเสียครั้งใหญ่จากการจากไปของ ‘ลูกชาย’ ผู้เปลี่ยนชีวิตเขา จนกลายมาเป็นบทเพลงรำลึกสากลแด่คนที่จากไปอย่าง ‘Tears In Heaven

 

Tears in Heaven : แด่ดวงใจที่จากไป... บทเพลงที่กลั่นจากน้ำตา ‘อีริค แคลปตัน’

Eric Clapton

 

 

ชีวิตของแคลปตันเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อลูกชายตัวน้อยเดินทางเข้ามาสู่ชีวิตของศิลปินผู้ติดเหล้า และชีวิตของเขาก็ผันแปรไปอีกครั้งเมื่อเด็กชายคนเดิมเดินจากชีวิตเขาไป 

โศกนาฏกรรม การสูญเสีย และความผิดหวังอาจเปลี่ยนชีวิตคน ๆ หนึ่งให้ร่วงจากฟ้าลงสู่เหวได้ อีริค แคลปตันก็เป็นหนึ่งคนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนั้น แต่ท่ามกลางความสิ้นหวังและศรัทธาที่สูญหาย เขาสามารถข้ามผ่านมันมาได้โดยไม่ร่วงหล่นหายไป จากการตั้งใจสรรค์สร้างบทเพลงที่จะกลายเป็นเพื่อนที่คอยโอบกอดปลอบโยนผู้ฟังทุกคนที่ต้องเผชิญความสูญเสียและยังเป็นความสวยงามสุดท้ายที่จะกลายเป็นภาพจำของลูกชายเขา

หยดน้ำตาทั้งหมดถูกกลั่นใส่ไปในบทเพลง Tears In Heaven เพื่อที่บนสวรงสวรรค์ จะไม่มีน้ำตาอีกแม้แต่หยดเดียวที่จะไหลรินออกมา…

 

เติบโตเป็นพ่อคน

 

คอนเนอร์คือสิ่งเดียวในชีวิตที่ทำให้ผมได้สติและตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า ‘โตได้แล้ว’ ผมทำตัวเสเพลไม่ได้อีกแล้ว ผมจะไม่ยอมให้อะไรมาพังสิ่งนี้ลง

 

การเข้ามาของ ‘คอเนอร์’ (Conor) ลูกชายคนแรกในชีวิตของอีริค แคลปตันกับ ‘ลอรี เดล ซานโต้’ (Lori Del Santo) นักแสดงสาวอิตาลี เปลี่ยนแนวทางการใช้ชีวิตของเขาไปตลอดกาล จากศิลปินที่ติดเหล้าและทำตัวเสเพลจนต้องหย่ากับอดีตภรรยาที่เขาหลงใหลจนเป็นแรงบันดาลใจให้สร้างบทเพลงอมตะหลายชิ้นอย่าง ‘แพตตี้ บอยด์’ (Pattie Boyd) สู่จิตวิญญาณความเป็นพ่อคนที่แข็งใจเลิกเหล้าเพื่อลูกชาย

 

Tears in Heaven : แด่ดวงใจที่จากไป... บทเพลงที่กลั่นจากน้ำตา ‘อีริค แคลปตัน’

Eric Clapton & Pattie Boyd

 

ตอนนี้เป้าหมายของคุณคืออะไรครับ?

เลี้ยงลูกชายคนนี้ให้เติบโตอย่างมีความสุขไปด้วยกันครับ

 

คอเนอร์และสัญชาติญานความเป็นพ่อคนทำให้แคลปตันค้นพบเป้าหมายใหม่ในชีวิต เขาเปลี่ยนแปลงทุกวิถีทางเพื่อที่จะเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดเพื่อลูกชายของเขา คอเนอร์ทำให้ชายคนหนึ่งเติบโตขึ้นไปอีกขั้น ทำให้เขาเลิกเห็นแก่ตัว ทำให้เขาค้นพบเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต

 

ผมรักเขาสุดหัวใจ

 

โศกนาฏกรรมการสูญเสีย

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น มีอยู่วันหนึ่งที่แคลปตันกำลังเดินทางไปรับลูกชายที่อพาร์ทเมนท์ในนิวยอร์ค ในวันนั้นเขาวางแผนว่าจะพาลูกชายไปรับประทานมื้อเที่ยงและพาไปเที่ยวที่สวนสัตว์ สายโทรศัพท์จากลอรีก็โทรเข้ามาหาเขาพร้อมกับเสียงกรีดร้องฟูมฟายไม่ได้สติแล้วบอกว่า

 

คอเนอร์จากไปแล้ว

 

ด้วยความสับสนกับสิ่งที่เขาได้ยิน แคลปตันจึงเอ่ยถามไปอีกว่าลอรีหมายความว่าอย่างไร ลอรีจึงได้เล่าว่าคอเนอร์ ด้วยวัยเพียง 4 ขวบ พลัดตกลงไปจากหน้าต่างอพาร์ทเมนต์ที่ตั้งอยู่ชั้นที่ 53 หลังจากที่หน้าต่างถูกเปิดทิ้งไว้ขณะที่กำลังทำความสะอาด และเสียชีวิตในทันที

 

“ผมสติหลุดลอย ไม่รู้ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น

“ผมสูญสิ้นศรัทธา”

 

โศกนาฏกรรมครั้งนี้สะเทือนขวัญทุกคนที่ได้รับรู้ รวมถึงคนเป็นพ่อที่มุ่งมอบชีวิตและทุกสิ่งอย่างให้ลูกชายอันเป็นที่รักที่สุดของเขา เดินจากชีวิตเขาไปหลังจากที่เข้ามาเป็นความสุขของชีวิตเป็นเวลา 4 ปี 
 

 

จดหมายจากคอเนอร์

หลังจากโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น อีริค แคลปตันเก็บตัวอยู่ที่บ้านของเขาเพียงคนเดียว จมดิ่งกับความเศร้า สับสน และไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลูกชายตัวน้อยที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตให้เขาเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นและโตขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ได้จากเขาไปอย่างไม่ทันตั้งตัว 

จดหมายความแสดงความเสียใจถูกส่งเข้ามาเป็นพัน ๆ ฉบับ แคลปตันค่อย ๆ เปิดดูที่ละฉบับ แต่เขาก็ได้เห็นฉบับหนึ่งที่แตกต่างจากฉบับอื่น ๆ … มันถูกส่งมาจาก ‘คอเนอร์ แคลปตัน’ สองสัปดาห์ก่อนหน้าเหตุการณ์จะเกิดขึ้น ภายในจดหมายเป็นกระดาษสีเขียว เขียนด้วยลายมือเด็กเป็นข้อความว่า

 

ผมรักพ่อ อยากเจอพ่ออีกเร็ว ๆ จัง ส่งจุ๊บด้วยรักนะครับ

จาก คอเนอร์ แคลปตัน

 

ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกสิ้นหวังเช่นนี้ แคลปตันเปรียบเสมือนว่าเขายืนทรงตัวอยู่บนเส้นด้ายบาง ๆ ที่เขาอาจตกลงไปในวังวนแห่งการติดเหล้าเพื่อหลบหนีความเจ็บปวด 

แต่แคลปตันเปลี่ยนไปแล้ว…

 

ถ้าผมผ่านเรื่องนี้โดยไม่ต้องพึ่งการเมาได้ ทุกคนบนโลกก็ต้องทำได้

 

คอเนอร์เข้ามาในชีวิต แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ เพื่อสอนให้เขาเติบโตและเป็นคนที่ดีขึ้น เขาจะไม่ทำให้ 4 ปีแห่งความสุขนั้นสูญเปล่า ทันใดนั้นเองเขาจึงฉุกคิดขึ้นได้ว่า มันยังมีหนทางที่จะเปลี่ยนโศกนาฏกรรมให้กลายเป็นเรื่องที่ดีได้บ้าง เปลี่ยนความเศร้าสลดให้เป็นอะไรที่ดีงาม เขาจึงตัดสินใจตั้งหางเสือของชีวิตตนเองใหม่ และตัดสินใจว่านับตั้งแต่วันนั้น เขาจะอุทิศชีวิตของเขาที่เหลืออยู่เพื่อความทรงจำที่สวยงามของลูกชายเขา – คอเนอร์
 

 

กลั่นน้ำตามาเป็นบทเพลง

ด้วยปณิธานดังนั้น อีริค แคลปตัน เยียวยาจิตใจตัวเอง -- ไม่ใช่ด้วยเหล้าหรือยาเสพติด -- แต่ด้วยสิ่งที่เป็นเพื่อนคู่ชีวิตที่คอยอยู่เคียงข้างและปลอบโยนเขาเสมอมาอย่าง ‘ดนตรี

ขณะที่นั่งจมอยู่กับความเศร้าเสียใจและตัดขาดจากโลกภายนอกจากการเก็บตัวอยู่ในห้อง เขาคว้ากีตาร์สเปนขึ้นมาเล่น เขาใช้มันเป็นเครื่องมือปลอบใจตัวเอง และนับตั้งแต่วินาทีที่ตื่นนอน อย่างแรกที่เขาคว้าคือกีตาร์ตัวนั้น เขาเล่นอยู่กับมันตลอดวันเป็นเวลากว่าหนึ่งปี แคลปตันเคยให้สัมภาษณ์ว่ามันเป็นการหลีกหนีจากสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในอีกแง่หนึ่งมันก็เป็นการกลั่นความเศร้าในใจให้แปรเปลี่ยนเป็นรูปแบบของบทเพลง

ในช่วงเวลาดังกล่าว แคลปตันก็ได้เขียนเพลงขึ้นมาหลายชิ้น ซึ่งทั้งหมดก็ล้วนถอดออกมาจากความรู้สึกของเขาทั้งสิ้น จนมันกลายมาเป็นสองบทเพลงที่เจ้าตัวมุ่งมั่นอุทิศเพื่อลูกชายอันเป็นที่รักตลอดกาลของเขา -- Circus และ Tears In Heaven
 

 

 

เนื้อเพลงของ Tears In Heaven เปรียบเสมือนเป็นคำถามที่แล่นผ่านไปมาในหัวของคนเป็นพ่อ-แม่ที่ต้องสูญเสียลูกที่เต็มไปด้วยความคิดถึง เสียใจ และคาดหวังว่าวันหนึ่งจะพบกันอีกครั้ง… 

 

/ เนื้อเพลงของ Tears In Heaven สามารถแปลได้ในรูปแบบของ ฉัน-เธอ แต่ด้วยบริบทที่จากมุมมองของ อีริค แคลปตัน เราจึงอยากนำบทเพลงดังกล่าวมาแปลในรูปแบบ ของ พ่อ-ลูก เพื่อที่จะเห็นภาพความรู้สึกของศิลปินผู้กลั่นความเศร้าของตนเองเพื่ออุทิศมันเพื่อลูกอันเป็นที่รักของเขา /

 

หนูจะยังจำชื่อของพ่อคนนี้ได้อยู่ไหม
ถ้าพ่อเจอหนูบนสรวงสวรรค์
ทุกอย่างจะยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ไหม
ถ้าเราได้เจอกัน ณ ข้างบนนั้น
หนูจะเดินแล้วกุมมือไปกับพ่อไหม
ถ้าเรากับกันบนปุยเมฆ
หนูจะช่วยมาพยุงพ่อคนนี้ให้ยืนขึ้นไหม
ถ้าเราได้พบกันอีกครั้ง

 

กาลเวลาผันผ่าน บันดาลให้คนแพ้พ่าย
เวลาจะทำให้เราต้องคุกเข่าอ้อนวอน
เวลาจะทำให้หัวใจของเราร้าวรอน
มันจะทำให้เราเฝ้าวิงวอนจากใจ

 

แต่พ่อจะเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไป
เพราะพ่อรู้ดีว่าพ่อคงไปหาหนูบนสรวงสวรรค์ไม่ได้


เบื้องหน้าของประตูบานนั้น
คงมีแต่สันติสุขนิรันดร์ ฉันมั่นใจ
และฉันรู้ดีว่าคงไม่มีน้ำตาอีกแม้แต่หยดเดียว
ที่จะไหลรินออกมาบนสรวงสวรรค์…

 

อีริค แคลปตันได้เปลี่ยนความเจ็บปวดของตัวเองให้กลายเป็นบทเพลงที่คอยเป็นเพื่อนที่คอยเยียวยาโอบกอดผู้ฟังทั้งโลกที่กำลังเผชิญการสูญเสีย Tears In Heaven ได้รับรางวัลมากมาย ถือเป็นบทเพลงอมตะที่ยังได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบันนี้ 

แม้กายของคอเนอร์จะจากไป แต่ความรักจากคนเป็นพ่ออย่างสุดหัวใจไม่เคยจากไปไหน และมันยังแปรเปลี่ยนเป็นบทเพลงที่สวยงามที่จะคงอยู่อีกนานแสนนาน…

 

ดนตรีช่วยชีวิตผมไว้ เหมือนตอนที่ผมอายุเก้าขวบไม่มีผิดเลย มันช่วยให้ความเจ็บปวดมลายหายไป...

 

ภาพ : Phil Dent / Contributor - Getty Images

อ้างอิง :

ภาพยนตร์สารคดี Eric Clapton: Life in 12 Bars

The True Story Behind ‘Tears In Heaven’ By Eric Clapton Is Utterly Heartbreaking - God Updates

Eric Clapton shares how he dealt with his 4-year-old son’s death - The Brag Media