‘เจนนี่ BLACKPINK’ กับการก้าวผ่านความหวาดกลัวที่จะเผยตัวตน - เกลียดการแรปถึงขั้นหมดไฟ

‘เจนนี่ BLACKPINK’ กับการก้าวผ่านความหวาดกลัวที่จะเผยตัวตน - เกลียดการแรปถึงขั้นหมดไฟ

‘เจนนี่ คิม’ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ‘เจนนี่ BLACKPINK’ เผยเรื่องราวที่เก็บงำมาตลอดเส้นทางอาชีพศิลปิน K-pop

  • เจนนี่เริ่มต้นความฝันในการเป็นศิลปินเกาหลีโดยการออดิชันเข้า YG Entertainment ด้วยวัยเพียง 14 ปี และได้เดบิวต์เป็นศิลปินวง BLACKPINK ในปี 2016
  • เจนนี่ยอมรับว่า “มีช่วงเวลาหนึ่งที่ฉันเกลียดการแรป ฉันคิดว่านี่ไม่ใช่ตัวฉันเลย ไม่ใช่เจนนี่ที่ฉันวาดฝันไว้ในหัว ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นแรปเปอร์”
  • Tally เป็นเพลงแรกของ BLACKPINK ที่มี F-words อยู่ในเนื้อเพลง ในตอนแรก ๆ ที่แสดงเพลงนี้เจนนี่ไม่กล้าที่จะร้องคำนั้นดัง ๆ เลย แต่พอได้เห็นว่าแฟน ๆ ชื่นชอบเพลงนี้ก็ทำให้เธอมีความมั่นใจ และสนุกไปกับเพลงได้

K-pop เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของเกาหลีที่จุดประกายความฝันให้กับผู้คนทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่การทำความฝันนี้ให้เป็นจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และสิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือการประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้

‘เจนนี่’ หนึ่งในสมาชิกจาก BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของวงการ K-pop ได้เผยเรื่องราวและความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางมาสู่การเป็นศิลปินระดับโลกในรายการพอดแคสต์ ‘At Your Service’ ของ ‘ดัว ลิปา’ (Dua Lipa) เป็นครั้งแรก

เจนนี่เองก็เผชิญกับเส้นทางที่ยากลำบากกว่าจะได้เดบิวต์เป็น BLACKPINK แบบทุกวันนี้ เธอผ่านการออดิชันเข้าเป็นเด็กฝึกในสังกัดค่าย ‘YG Entertainment’ เมื่อปี 2010 และฝึกฝนนานถึง 6 ปีจึงได้เดบิวต์เป็นศิลปิน

เบื้องหลังของการเป็นเด็กฝึกหัดในค่ายเพลงไม่ใช่การเรียนร้อง แรป หรือเต้นตามตารางที่ทางค่ายจัดไว้ให้เพียงเท่านั้น เจนนี่ต้องแข่งขันกับเด็กฝึกในค่ายร่วม 30 คน เพื่อให้ตัวเองได้รับเลือกให้เดบิวต์เป็นศิลปิน

ไม่ใช่เด็กฝึกทุกคนจะได้เป็นศิลปินสมดังใจหวัง เจนนี่เล่าว่ามีหลายคนที่หลงทางเพราะมุ่งความสนใจไปที่การสร้างความพอใจให้กับคนที่เราทำงานด้วย แต่กลับไม่แน่ใจว่ากำลังทำเพื่อใคร และสิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกตัวตนในอนาคตของเรา ด้วยการฝึกที่กินระยะเวลาหลายปี ทำให้เด็กฝึกจมอยู่กับไลฟ์สไตล์ที่บริษัทวางไว้ให้ เจนนี่คิดว่าการที่เธอและสมาชิกอีก 3 คนมาอยู่ตรงนี้ได้เพราะเป็นคนที่สามารถค้นพบเอกลักษณ์ของตัวเองและรักษามันไว้ได้ในระหว่างการฝึก

ก่อนเดบิวต์ YG Entertainment ได้เปิดตัวเจนนี่ในฐานะเด็กฝึกโดยอัปโหลดวิดีโอการแรปที่ดุเดือดของเธอลง YouTube ดังนั้นคนที่เห็นก็คงรู้แล้วว่าตำแหน่งประจำวงของเธอคือแรปเปอร์ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอเลือกเอง มันคือตำแหน่งที่ค่ายบอกว่าเธอควรเป็นแบบนี้ เจนนี่ในขณะที่ยังเป็นเด็กฝึกไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่า “นี่คือสิ่งที่ควรทำ”

ตอนที่เดบิวต์ความคิดในหัวเธอมีเพียงแค่ “ฉันคือแรปเปอร์ ฉันจะออกไปและแรปให้สุดเหวี่ยงเลย” ทว่าหลังจากได้เดบิวต์ และได้แรปใน 6 เพลงซึ่งมีสไตล์ต่างกันโดยสิ้นเชิง นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนของความคิดในหัวเธอ

เจนนี่ค้นพบว่ามีอีกด้านในตัวเธอที่ชื่นชอบการร้องเพลง และเพลิดเพลินกับเสียงของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสถึงมันในตอนที่เป็นเด็กฝึก ทำให้เธอเริ่มสับสนกับตำแหน่งที่ได้รับ และสุดท้ายก็ทำให้รู้สึกเกลียดการแรป เรียกได้ว่าเจนนี่เผชิญกับช่วงเวลาที่ทำให้เธอหมดไฟ เจนนี่ปฏิเสธตัวตนของตัวเองเพราะเธอไม่ได้เลือกเส้นทางนี้ที่คนอื่นหยิบยื่นมาให้ 

หลังได้พักจากการทำงาน เจนนี่ก็ได้ย้อนกลับไปดูวิดีโอการแสดงที่ผ่านมาของเธอ เธอเห็นตัวเองที่สนุกไปการแรปบนเวที นาทีนั้นทำให้เธอยอมรับว่าการแรปเป็นส่วนหนึ่งของตัวเธอ และการร้องเพลงก็เป็นด้านใหม่ ๆ ที่อยู่ในตัวเธอเช่นกัน

“ตอนนี้ฉันโชคดีที่ได้มีตัวเลือกในการเป็นแรปเปอร์ที่บ้าคลั่งและร้องเพลงเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ”

‘เจนนี่ BLACKPINK’ กับการก้าวผ่านความหวาดกลัวที่จะเผยตัวตน - เกลียดการแรปถึงขั้นหมดไฟ

ดัวยังถามถึงความเชื่อมโยงของเจนนี่และสมาชิกกับเพลง ‘Tally’ ที่มีเนื้อเพลงเกี่ยวกับการฉีกกฎระเบียบที่คอยกดทับตัวตน และทำทุกอย่างตามที่ใจอยากจะทำไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม ซึ่งเจนนี่ตอบว่า “การเริ่มต้นอาชีพในเกาหลีในฐานะศิลปิน K-pop นั้นจำกัดความเป็นตัวฉันในหลาย ๆ ด้าน มีการห้ามไม่ให้แสดงด้านนั้น ๆ ออกมาเพราะฉันเป็นไอดอล นั่นทำให้ฉันรู้สึกกลัวที่จะแสดงความเป็นตัวเอง”

ตั้งแต่อดีตไอดอล K-pop มักได้รับความคาดหวังจากค่ายเพลงและแฟนคลับส่วนหนึ่งว่าจะต้อง ‘สมบูรณ์แบบ’ จะต้องทำแต่เรื่องที่ชาวเน็ตคิดว่าดี และเมื่อมีพฤติกรรมที่ทำให้พวกเขาไม่พอใจ ศิลปินก็จะถูกโจมตีด้วย ‘hate speech’ ลามไปจนถึงการโดนแบน

แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน หลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนตามไป ตอนนี้เจนนี่สามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้ และคนมองว่านี่เป็นการ ‘ทลายกำแพง’ มากกว่า “เธอทำแบบนี้ไม่ได้” เจนนี่คิดว่านี่เป็นการเปิดบทใหม่ให้กับคนที่กำลังเริ่มต้นอาชีพนี้ในเกาหลี และเธอก็บอกถึงปณิธานอันแรงกล้าของเธอว่า 

“ฉันต้องการทำลายกำแพงให้มากกว่านี้เพื่อให้คนในวัฒนธรรมของฉันเข้าใจว่า การเป็นตัวเองในแบบที่ต้องการไม่ควรเป็นมาตรฐาน ไม่ควรมีเหตุผลที่จะไปตัดสิน และให้มองแค่ว่านั่นคือสิ่งที่คนเราแสดงความเป็นตัวเองออกมา”

Tally ยังเป็นเพลงแรกของสาว ๆ BLACKPINK ที่มี F-words อยู่ในเนื้อเพลง ในตอนแรก ๆ ที่แสดงเพลงนี้ เจนนี่ไม่กล้าที่จะร้องคำนั้นดัง ๆ เลย แต่พอได้เห็นว่าแฟน ๆ ชื่นชอบเพลงนี้ก็ทำให้เธอมีความมั่นใจ และสนุกไปกับเพลงได้

อีกหนึ่งสิ่งที่เจนนี่อยากแบ่งปันให้กับแฟน ๆ ได้รับรู้คือการแสดงของเธอที่ออกมาไม่ดีในบางครั้ง ซึ่งทำให้แฟนคลับต้องผิดหวัง เจนนี่อธิบายว่าเธอเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมร่างกายของเธอ

“ฉันไม่รู้ว่าจะควบคุมร่างกายให้เป็นไปแบบที่ควรจะเป็นได้อย่างไร”

เจนนี่ยกตัวอย่างการเต้นขณะที่สวมรองเท้าส้นสูง ซึ่งบางคนอาจจะทำมันได้ดี แต่ไม่ใช่กับเธอ เธอคิดว่าเท้าของเธอไม่ได้เกิดมาเพื่อใส่รองเท้าส้นสูง บางครั้งเธอรู้สึกว่าทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ร่างกายของเธอโอเค ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่เมื่อต้องเดินทาง เท้าของเธอกลับบวม ถ้าเธอพยายามเต้นขณะใส่รองเท้าส้นสูง แรงกายของเธอก็จะลดลง

การเปิดใจสัมภาษณ์ของเจนนี่ครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าการแสดงของศิลปินที่เรามองว่าน่าทึ่งและยอดเยี่ยม เบื้องลึกเบื้องหลังนั้นอาจไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เรื่องราวของเจนนี่ยังทำให้ได้เรียนรู้ว่าศิลปินต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการแสดง แม้จะประสบความสำเร็จมากแค่ไหนก็ยังคงมีอุปสรรคเข้ามาเสมอ และการจะผ่านมันไปได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ภาพ : อินสตาแกรม jennierubyjane
เรื่อง : ณัฐณิชา ศรีงาม (The People Junior) 

อ้างอิง:

อ้างอิง :

At Your Service

billboard

variety