เบื้องหลังเพลงฮิตที่ ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ แต่งขึ้นจากแรงบันดาลใจเรื่องแฟนเก่า-อดีตคนรัก

เบื้องหลังเพลงฮิตที่ ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ แต่งขึ้นจากแรงบันดาลใจเรื่องแฟนเก่า-อดีตคนรัก

ส่องเรื่องราวอดีตคนรัก-แฟนเก่าของ ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ผ่านบทเพลงดังที่ติด 15 อันดับแรกของชาร์ต Billboard Top 100 ตั้งแต่เปิดตัววันแรก

  • เทย์เลอร์ สวิฟต์ มีเพลงดังติดชาร์ต Billboard Top 100 ถึง 212 เพลง โดยมี 42 เพลงที่ติด 10 อันดับแรก และ 9 เพลงที่อยู่ในอันดับที่ 1 ของชาร์ตตั้งแต่เปิดตัว
  • เพลงที่ติดใน 15 อันดับแรกของ Billboard Top 100 ส่วนหนึ่งพูดถึงอดีตคนรักเอาไว้ด้วย

พรสวรรค์ในการเขียนเพลงของนักร้องสาวที่ดังระดับโลกอย่าง ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ (Taylor Swift) เป็นที่พูดถึงมาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่เธอเข้าวงการจนถึงทุกวันนี้ นับตั้งแต่เดบิวต์มาจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 17 ปีแล้วที่เทย์เลอร์ ไม่เคยเว้นระยะยาวนานหรือห่างหายไปจากวงการเพลง และยังคงตกคนเข้าด้อม ‘สวิฟตี้’ (Swiftie – คำเรียกแฟนเพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์) ได้เสมอ

ถ้าเอ่ยถึงความรักของเทย์เลอร์ แล้ว สิ่งแรก ๆ ที่นึกถึง คงจะเป็นการแต่งเพลงให้กับแฟนเก่า ที่บางครั้งก็หวานซึ้งจนคนฟังรู้สึกเสียดายในความสัมพันธ์ และบางครั้งก็เจ็บจี๊ด แสบไปถึงใจกันเลยทีเดียว

แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรักในรูปแบบไหนเทย์เลอร์ สามารถสร้างออกมาเป็นเพลงฮิตติดชาร์หลายต่อหลายชาร์ต ท่ามกลางการทัวร์ที่กลายเป็นกระแสตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2023 และระหว่างนั้น ไม่วายมีข่าวเรื่องหัวใจของเทย์เลอร์ สวิฟต์ อัปเดตผ่านหน้าสื่ออย่างต่อเนื่อง เราอยากชวนมาทำความรู้จักกับเพลงของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งดูเหมือนว่าจะแตะไปถึงแฟนเก่าของเธอเอาไว้ บรรดาเพลงเหล่านี้มีเพลงที่โด่งดังติด 15 อันดับแรกในชาร์ต Billboard มีเพลงอะไรบ้าง

‘Our Song’ (2006)

เทย์เลอร์ เขียนเพลง ‘Our Song’ ในช่วงไฮสคูล พูดถึงเรื่องราวความรักระหว่างหญิงสาว และแฟนหนุ่ม ซึ่งมองได้ว่า สะท้อนเรื่องราวของเธอและแฟนหนุ่ม ‘แบรนดอน บอเรลโล’ (Brandon Borello) ที่จบลงเนื่องจากฝ่ายชายต้องการไปเรียนต่อ โดยเพลงกล่าวถึง 'เสียง' ที่เกิดขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของหญิงสาวและแฟนหนุ่มบรรเลงออกมาเป็น ‘บทเพลงของเรา’ ซึ่งหญิงสาวทำได้เพียงภาวนากับพระเจ้า ขอให้บรรเลงมันได้อีกครั้ง

Our song เปิดตัวอันดับ 13 ในชาร์ต Billboard Hot 100 เรียกได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้นความโด่งดังของเทย์เลอร์ และปูเส้นทางอาชีพนักร้องให้กับเธอ

 

‘Teardrops on My Guitar’ (2006)

อีกหนึ่งความรักที่เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียนของเทย์เลอร์ เจ้าของชื่อ ‘Drew’ ที่อยู่ในเพลง Teardrops on My Guitar อาจไม่ได้เรียกว่าเป็น ‘คนรักเก่า’ แบบเต็มปากเต็มคำ เพราะ ‘ดรูว์ ฮาร์ดวิค’ (Drew Hardwick) เป็นเพื่อนที่ไม่สามารถพัฒนาเป็นคนรัก เทย์เลอร์ บอกเล่าความรักที่ผิดหวังครั้งนี้ของเธอผ่านเพลงนี้ และได้ใจผู้ฟังจนอยู่ในชาร์ต Billboard Hot 100 ในอันดับที่ 13 หลังเพลงเปิดตัว

เนื้อเพลงบอกเล่าประสบการณ์แอบรักเพื่อนที่ไม่สมหวัง เธอทำได้เพียงรับฟังเรื่องราวความรักของเขา ฝืนยิ้มและแอบไปร้องไห้เงียบ ๆ คนเดียว สิ่งที่ถ่ายทอดผ่านบทเพลงนี้เป็นความลับที่ดรูว์ ไม่เคยรับรู้มันเลย

2 ปีหลังจากที่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาดริว ไปหาเทย์เลอร์ และขอเธอเป็นแฟน แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธ

“นี่เป็นตอนจบที่สมบูรณ์แบบในเทพนิยายเลย แต่ก็สายเกินไปหน่อย”

‘Back to December’ (2010)

คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก ‘Back to December’ หนึ่งในเพลงฮิตตลอดกาลของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่พุ่งทะยานไปถึงอันดับ 6 บนชาร์ต Billboard หลังจากเพลงถูกปล่อยออกมา ท่ามกลางบทเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความรักของเทย์เลอร์ กับแฟนเก่าคนอื่น ๆ ‘เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์’ (Taylor Lautner) คงเป็นแฟนเก่าเพียงคนเดียวที่เธอแต่งเพลงเพื่อขอโทษ

ความสัมพันธ์ของสวิฟต์ กับเลาต์เนอร์ เริ่มขึ้นขณะที่ทั้งคู่ร่วมงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Valentine's Day (2010) แต่คบหากันได้เพียงระยะสั้น ๆ เพียง 2-3 เดือน ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จบลงในเดือนธันวาคม 2009

เมื่อปล่อยเพลง Back to December หลายคนคาดเดาถึงผู้ชายในเพลงว่า ต้องเป็นเทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ แน่ ๆ เนื่องจากท่อนหนึ่งในเนื้อเพลงที่ว่า “I miss your tan skin, your sweet smile” ที่ตรงกับรูปลักษณ์ของฝ่ายชาย รวมถึงชื่อเพลงก็ตรงกับช่วงเวลาที่ทั้งคู่เลิกลากันอีกด้วย

ไม่นานหลังจากนั้น เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ ก็ออกมาเปิดเผยว่าเพลง Back to December เป็นเรื่องราวของเขากับเทย์เลอร์ สวิฟต์ ในปี 2019 จริง ๆ

ในเนื้อเพลงบอกเล่าถึงความเสียใจในการเลิกราและความรู้สึกผิดที่มีต่ออดีตคนรัก ซึ่งต่างจากเพลงอื่น ๆ ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับแฟนเก่าตั้งแต่เริ่มอาชีพนักร้องของเธอจนถึงทุกวันนี้ ทำให้หลายคนพูดกันว่าเทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ คงเป็น ‘แฟนเก่า’ ที่ดีสุดของเทย์เลอร์ สวิฟต์

สวิฟต์ และเลาต์เนอร์ กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ล่าสุดของเทย์เลอร์ สวิฟต์ อย่าง ‘I Can See You’ นอกจากนี้ เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ ยังปรากฏตัวพร้อมกับ ‘เทย์เลอร์ โดม’ ภรรยาของเขา ในคอนเสิร์ต The Eras Tour ที่แคนซัสซิตี้ ในปี 2023 และได้สร้างมีมเลียนแบบมีม 3 Spider-Man Pointing meme เป็นการรวมตัวกันของ ‘3 คนที่มีชื่อเทย์เลอร์ เหมือนกัน’ แสดงให้เห็นว่า ทั้งคู่จากลากันด้วยดีและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา

 

‘Ours’ (2010)

เพลงที่เล่าเรื่องราวของเธอกับ ‘จอห์น เมเยอร์’ (John Mayer) ซึ่งในระหว่างที่พวกเขาคบกัน เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกของฝ่ายชายว่า ไม่เข้ากับเทย์เลอร์ เลยสักนิด เนื้อเพลง Ours จึงเกี่ยวกับการต่อสู้กับคำวิจารณ์ของคนอื่นที่ต่อต้านความสัมพันธ์ของคนสองคน แต่คนเหล่านั้นไม่มีทางทำลายพวกเขาได้

หากรู้จักแค่เพลง Ours หลายคนอาจจะคิดว่า จอห์น คงเป็นแฟนที่ดีของเทย์เลอร์ แต่เพลงในอัลบั้มเดียวกันอย่าง ‘Dear John’ ทำลายความคิดนั้นลงจนละเอียดเป็นผุยผง เพราะในเพลง Dear John เล่าถึงเรื่องราวความรักที่สร้างความทุกข์ใจ และต่อว่าผู้ชายที่ชื่อ ‘จอห์น’ ซึ่งสวิฟตี้ ก็เดากันว่ามีแนวโน้มสูงว่าคงหมายถึง จอห์น เมเยอร์ นั่นแหละ

 

‘We Are Never Ever Getting Back Together’ (2012)

เพลงแซะแฟนเก่าที่มีดนตรีสดใส และติดหูจนได้อันดับ 1 บน Billboard Hot 100 นานถึง 3 สัปดาห์ เรียกได้ว่าร้องตามกันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง เนื้อเพลงพูดถึงคนเก่าที่ตามตื๊อไม่เลิก แต่ยังไงพวกเราก็ไม่มีทางกลับไปคบกันอีกแน่ ๆ

ฟังแล้วก็เหมือนจะไม่ได้พูดถึงใครสักคนเป็นพิเศษ แต่แฟน ๆ จำเก่งเสียเหลือเกินว่า ผ้าพันคอในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้คล้ายกับผ้าพันคอที่เทย์เลอร์ ใส่ตอนที่ออกเดทกับ ‘เจค จิลเลนฮาล’ (Jake Gyllenhaal) จึงอนุมานว่าเพลงนี้น่าจะหมายถึงเขาไปด้วย

 

‘All Too Well’ (2012)

All too well เปิดตัวครั้งแรกในอัลบั้ม Red (2012) ไม่ได้มีอันดับบนชาร์ตที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่เพลงนี้เปิดตัวอีกครั้งในอัลบั้ม Red (Taylor's Version) ที่ปล่อยออกมาในปี 2021 ซึ่งครั้งนี้ All Too Well สามารถขึ้นไปอยู่อันดับ 1 บน Billboard Hot 100 เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และยังเป็นเพลงที่ได้เข้าชิง Grammy Awards ปี 2023 สาขา Song of the year (เพลงแห่งปี) อีกด้วย

ตอนแรกที่เพลงนี้ปล่อยออกมา ไม่มีใครคิดว่าเพลงนี้จะพูดถึงแฟนเก่าของเทย์เลอร์ แต่เมื่อ All too well กลับมาใหม่ในปี 2021 ถึง 2 เวอร์ชั่น และ All too well (10 minute version) ก็ทำให้แน่ใจว่านี่เป็นอีกเพลงที่เธอเล่าเกี่ยวกับความรักของเธอกับเจค จิลเลนฮาล ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดแต่เธอและเขากลับจำมันได้ดีเกินไป

 

‘Begin Again’ (2012)

เพลงนี้พูดถึงผู้หญิงที่ผ่านความสัมพันธ์ที่เลวร้ายและจมอยู่กับมัน จนวันหนึ่งก็พบกับคนที่พาเธอออกมาจากความรู้สึกแย่ ๆ ที่มีต่อความรัก

เทย์เลอร์ ไม่เคยพูดว่าใครคือผู้ที่อยู่ในเพลงนี้ แต่ด้วยความสามารถในการเชื่อมโยงของแฟนคลับ กลุ่มแฟนเพลงคาดเดาว่า เพลงนี้เกี่ยวข้องกับคนสองคน คือ ‘เจค จิลเลนฮาล’ ที่รับบทเป็นรักครั้งเก่าซึ่งทำให้เธอทุกข์ใจ และ ‘คอเนอร์ เคนเนดี’ คนรักใหม่ที่มาดามหัวใจของเทย์เลอร์

 

‘Style’ (2014)

แม้จะเปิดตัวเป็นอันดับ 6 ในชาร์ต Billboard Top 100 แต่เพลง Style ถือเป็นเพลงดังตลอดกาล โดยตอนนี้ก็เป็นเพลง(แผ่นเสียง)ใน TikTok ที่ใช้กันแพร่หลาย ด้วยเนื้อเพลงที่ดูคลั่งรักและไปไหนไม่รอดจากคน ๆ เดิม ประกอบกับดนตรีที่ติดหู อาจเป็นเหตุผลที่เพลงนี้กลับมาฮิตอยู่เรื่อย ๆ

ถ้าบอกว่า เพลงนี้พูดถึงแฟนเก่าของเทย์เลอร์ เหล่าสวิฟตี้ คงแทบไม่ต้องคิดนานเลย เพราะชื่อเพลง Style ที่ตรงกับรักครั้งเก่าของเทย์เลอร์ ‘แฮร์รี่ สไตลส์’ (Harry Styles) อีกทั้งเนื้อเพลง “You got that long hair, slicked back, white t-shirt.” ก็ตรงกับทรงผมและสไตล์การแต่งตัวที่เป็นไวรัลของแฮร์รี่ สไตลส์ ในตอนนั้นเป๊ะ ๆ

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งในเรื่องราวความรักตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปีของเทย์เลอร์ สวิฟต์ แน่นอนว่า ข้อมูลไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลายเพลงที่ลือกันว่า เธอแต่งให้ ‘คนรักเก่า’ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับการยืนยันจากปากของเจ้าตัว แต่ก็ไม่เกินความสามารถของแฟน ๆ ที่จะเชื่อมโยงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเพลงเข้ากับคนที่เทย์เลอร์ เคยออกเดทด้วย

นอกจากชีวิตรักของเทย์เลอร์ สวิฟต์ จะให้บทเรียนไม่ซ้ำเนื้อหาสำหรับเธอแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นเรื่องราวให้เธอเขียนเพลงแทนความรู้สึกได้มากมาย เมื่อบวกกับพรสวรรค์ในการแต่งเพลงของเธอเพลงเหล่านั้นก็โด่งดังจนเป็นส่วนหนึ่งของผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอจนถึงทุกวันนี้

 

เรื่อง: ณัฐณิชา ศรีงาม (The People Junior)

ภาพ: แฟ้มภาพ จาก Getty Images

อ้างอิง:

Billboard

taylorswift.fandom.com

music industry how to

Billboard (2)

Vogue