16 ส.ค. 2566 | 16:22 น.
- ‘ฮวัง โซ-ฮี’ (Hwang So-hee) หรือชื่อในวงการคือ ดีเจโซดา ที่สร้างชื่อเสียงด้วยการเลือกเพลง และรูปร่างหน้าตาที่ดึงดูดของเธอ
- เธอเคยอยู่ในครอบครัวที่กดดันมาก จนทำให้เธอเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเพื่อให้พ่อแม่สบายใจ
- เพลง Hip Hop คือ สไตล์เพลงแรกที่ทำให้ชีวิตเธอค้นพบอาชีพในฝัน
“ฉันโตมาในครอบครัวที่เข้มงวดมาก และเคยเก็บตัวเงียบในห้องทั้งวันเพื่อให้พ่อแม่เข้าใจว่าฉันกำลังเรียนออนไลน์ แต่จริง ๆ แล้วฉันท่องเว็บอยู่”
ประโยคเปิดใจจาก ดีเจโซดา หรือชื่อจริงของเธอก็คือ ‘ฮวัง โซ-ฮี’ (Hwang So-hee) กับ Vasenta Selvanayagam ผ่านเว็บไซต์ Sense Scoop ที่พูดย้อนถึงช่วงชีวิตในวัยเด็ก ซึ่งน่าจะเป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่เธอพูดถึงเรื่องนี้ในการสัมภาษณ์กับหลาย ๆ สื่อที่ผ่านมา
สาวตาโตผมสั้นผิวขาวเป็นเอกลักษณ์ มักจะเห็นคู่กับสปอร์ตบราแนวเซ็กซี่งานอวดผิว ซึ่งเรามักจะเห็นเธอสวมชุดลักษณะนี้บ่อย ๆ บนเวทีเวลาที่แสดงโชว์ ความสดใสที่เราเห็นทุกวันนี้ อาจไม่มีใครรู้ว่าจริงแล้วเรื่องราวชีวิตของเธอเคยตกอยู่ในภาวะที่เครียดมาก ๆ เพราะแรงกดดันจากคนในครอบครัวที่มากเกินไป
ครอบครัวกดดันมาก
ดีเจโซดา เกิดและโตที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน ปี 1988 (อายุ 35 ปี) ครอบครัวเธอฐานะปานกลาง แต่ค่อนข้างเคร่งในเรื่องวินัยและการใช้ชีวิต พ่อแม่ชอบให้เธอเรียนเพิ่ม เช่น เรียนภาษา และคณิตศาสตร์ตั้งแต่เด็ก
และนั่นทำให้เธอเลือกที่จะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอน เพื่อให้พ่อแม่เข้าใจว่าเธอเรียนออนไลน์ ทำแบบนี้อยู่นานมากจนเธอเริ่มรู้สึกเริ่มไม่โอเคกับตัวเอง และพยายามหาทางออกอื่น ๆ นอกจากการท่องเว็บ
ครั้งนั้นทำให้เธอได้ค้นพบกับโลกใหม่ที่มาจาก ‘เพลงฮิปฮอป’ (Hip Hop) จากบล็อกหนึ่ง เธอรู้สึกว่าเป็นแนวเพลงที่ทำให้เธอผ่อนคลายและหายเครียดกับสิ่งรอบตัวได้
“ฉันตกหลุมรักเพลงฮิปฮอปตั้งแต่วันนั้น เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ซ่อนตัวในห้อง ฉันอยากจะมอบความสุขและความโล่งใจแบบที่ฉันรู้สึกไปถึงผู้อื่น และนั่นทำให้ฉันรู้ใจตัวเองว่าอยากเป็นดีเจ”
ตอนนั้นพ่อแม่ของเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความหลงใหลของเธอคือการเป็นดีเจ จากวันนั้นเธอตัดสินใจเข้าเรียน ‘ภาษาอังกฤษ’ ที่มหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเคยโดดเรียนคลาสนี้มาตลอด เพราะเธอคิดว่าการเติมเต็มความฝันได้ต้องมีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ และฮิปฮอป แรปเปอร์ส่วนใหญ่ที่โด่งดังก็ร้องเป็นภาษาอังกฤษ
“ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นดีเจ จากที่ไม่เรียนภาษาอังกฤษจนมหาวิทยาลัยต้องโทรหาพ่อแม่ ความพยายามนั้นทำให้ในที่สุดพวกเขาก็ยอมรับการตัดสินใจของฉัน และอนุญาตให้ทำตามความฝันตั้งแต่ตอนนั้น”
เริ่มตามฝันปี 2013
เธอเริ่มทำงานเป็นดีเจครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปี 2013 และเป็นครั้งแรกที่เธอเลือกใช้ชื่อว่า ‘โซดา’ บนเวทีในเกาหลีใต้ อาจจะเพราะว่าคำว่า So (โซ) ในภาษาเกาหลีแปลว่า ‘กระทิง’ ซึ่งเธอพยายามสร้างอำนาจและความสุดโต่งในการแสดงโชว์ของเธอ จึงเลือกใช้ชื่อนี้
ดีเจโซดา เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ที่เริ่มปรากฎตัวในคลับหรูย่านกังนัม ด้วยความโดดเด่นในเรื่องการเลือกเพลง และความเซกซี่ของเธอ
ในปี 2015 ดีเจโซดา เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกก็คือ เทศกาล Korea World DJ และครั้งนั้นเริ่มมีคนแต่งตัวตามแฟชั่นของเธอ และรู้จักเธอมากขึ้นเพราะสไตล์การแต่งตัว
ชื่อเสียงของดีเจโซดาเริ่มเป็นที่รู้จักในเอเชีย ซึ่งในปี 2018 เธอได้เข้าร่วมค่ายใหม่ที่ชื่อว่า Starship Entertainment หรือ ‘House of Music’ ก่อนที่จะย้ายไปที่ Highline Entertainment ซึ่งก็เป็นค่ายลูกที่อยู่ในเครือของ Starship
เส้นทางการเป็นดีเจของ ฮวัง โซ-ฮี ดังเป็นพลุแตกมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังเคยปล่อยเพลงร่วมกับ Walshy Fire ชื่อเพลงว่า Never Let You In ซึ่งก็ดังจนติดอันดับชาร์จในสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และอินโดนีเซีย
ในปี 2019 น่าจะเป็นปีที่เธอเริ่มแสดงโชว์ในต่างประเทศมากขึ้น โดยเริ่มจากกลุ่มประเทศเอเชีย ก่อน อย่าง สิงคโปร์ ไทย ขณะที่เธอก็สามารถไปแสดงโชว์ในรายการ BBC Radio ในสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นศิลปินชาวเกาหลีคนแรกที่มีโอกาสไปแสดงโชว์ที่นี่
อาชีพดีเจไม่สนุกอย่างที่คิด
ในบทสัมภาษณ์ดังกล่าวยังมีการพูดถึง ‘อาชีพดีเจ’ ว่าไม่ได้สนุกอย่างที่คิด ใความหมายของเธอคือ อาชีพสวนทางกับนิสัยที่ชอบเก็บตัวของเธอนั่นเอง
“หลายคนมักคิดว่า ดีเจจะสนุก มีความสุข มีพลัง และเชอบปาร์ตี้ แต่ลึก ๆ แล้วฉันเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว ฉันปาร์คี้เฉพาะตอนที่มีการโชว์เท่านั้น ฉันไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ และเป็นคนเงียบ ๆ เพียงแต่ในระหว่างการแสดงโชว์ฉันมีความสุขที่เห็นคนอื่นสนุกและมีความสุขไปด้วยกัน จบจากนั้นก็กลับไปพักผ่อน ฉันทำแบบนี้มาตลอด”
“คุณจะเห็นฉันเป็นคนที่กระตือรือร้น ดูมีพลัง สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่ฉันแสดง เพราะฉันได้รับจากผู้คนที่มาสนุกด้วยกัน ดังนั้น สำหรับการเป็นดีเจมันไม่ได้สนุก และมันค่อนข้างเครียดด้วยซ้ำ เพราะคุณต้องรักษาความสนุก กระตือรือร้น บางอย่างออกมาเพื่อให้ปาร์ตี้ดำเนินได้ต่อไป”
นอกจากนี้เธอยังพูดถึงการแต่งตัวในชีวิตประจำวันด้วยว่า ปกติเธอเป็นคนชอบแต่งตัวสบาย ๆ ชอบใส่เสื้อยืดลายกราฟฟิก ง่าย ๆ ไม่รัด ไม่เซกซี่ และชอบสวมรองเท้าผ้าใบ ซึ่งเวลาที่แสดงโชว์เธอก็ใส่แค่รองเท้าผ้าใบ
ยังมีอีกหลายมุมของดีเจโซดาที่หลายคนไม่รู้ เธอเป็นคนใจบุญที่ชอบบริจาคเงินช่วยเหลือ อย่างในปี 2016 เธอได้บริจาคเงินทั้งหมดที่ได้จากการแสดงโชว์ นำไปซื้อผ้าอนามัยแจกให้กับเด็กผู้หญิงและผู้หญิงที่ยากจน หรืออย่างล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2022 ที่เธอมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 10 ล้านวอนให้กับ Hope Bridge Disaster Relief Association เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไฟป่าครั้งใหญ่ด้วย
มีหลาย ๆ ความคิดจากดีเจโซดาที่ทำให้เรารู้สึกเข้าใจในตัวเธอมากขึ้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกเห็นใจไปด้วย เพราะที่ผ่านมาเรียกว่าเธอเป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกคุกคามทางเพศอยู่บ่อย ๆ อย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่เธอบอกว่าถูกจับหน้าอกในระหว่างที่แสดงโชว์ที่ญี่ปุ่น หรือจะเป็นการคุกคามทางเพศด้วยคำพูดของลูกนักการมืองชื่อดังในเกาหลี
ไม่ว่าเหตุการณ์ไหน ๆ ที่คนเขียนไม่ได้เอ่ยถึง แต่ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า สาเหตุที่เกิดการคุกคามทางเพศตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ บางทีอาจไม่ใช่เพราะการแต่งตัวหรือพฤติกรรมของผู้หญิงเสมอไป มนุษย์ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น เราไม่มีทางรู้เลยว่าบุคคลเหล่านั้นผ่านเรื่องราวหรือต้องพยายามมากน้อยแค่ไหน ถึงมายืนอยู่ในจุดที่เรามองเห็นได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญก็คือ การให้เกียรติความตั้งใจของผู้อื่น และไม่ดูถูกผู้อื่นเพียงเพราะว่าเป็นเพศที่ต่างออกไป
ภาพ: deejaysoda/Instagram
อ้างอิง: