03 พ.ย. 2566 | 17:49 น.
- 3 พฤศจิกายน 2023 คือ วันที่จองกุกปล่อย ‘GOLDEN’ อัลบั้มโซโล่เดี่ยวครั้งแรกของเขา
- จองกุกได้รับฉายา ‘มักเน่ทองคำ’ เพราะเขาคือเด็กหนุ่มที่มีความสามารถหลายด้าน ทั้งร้องเพลง เต้น เล่นกีฬา และยังมีความสามารถด้านศิลปะด้วย
- แรงบันดาลใจอัลบั้มใหม่ คือ การบันทึกถึงช่วงเวลาทองของจองกุก และเขาก็หวังว่า ผู้ฟังจะนึกถึงเวลาที่แสนล้ำค่าของตัวเองเช่นกัน
หลังจากสมาชิก BTS ทยอยเข้ากรมรับใช้ชาติ สมาชิกแต่ละคนก็เริ่มเดินหน้าทำเพลงโซโล่เพื่อแสดงความเป็นตัวเองออกมาผ่านบทเพลง
เช่นเดียวกับ จองกุก น้องเล็กของวง ที่ปีนี้เดินหน้าปล่อยเพลงโซโล่ต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางปี 2023 ทั้ง Seven และ 3D ออกมาจนติดท็อปชาร์ตบิลล์บอร์ด และกลายเป็นเพลงยอดฮิตใน TikTok ที่เหล่าอาร์มี่ (แฟนคลับ BTS) ทำชาเลนจ์ตามกันทั่วโลก
และวันที่ 3 พฤศจิกายน 2023 ก็เป็นวันแรกที่แฟน ๆ จะได้ฟังเพลง Standing Next to You’ เพลงไตเติ้ลของอัลบั้ม รวมถึงเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มที่จองกุกใช้ชื่อว่า ‘GOLDEN’ อัลบั้มที่อัดแน่นด้วยบทเพลงที่สะท้อนช่วงเวลาแสนล้ำค่าและตัวแทนที่ดีที่สุดของจองกุกในวันนี้
ด้วยความสามารถรอบด้าน ทั้งชีวิตในวงการและนอกวงการ คำว่ามักเน่ทองคำเลยไม่ใช่คำเกินจริง แต่เป็นคำนิยามที่บอกว่า เขาคือผลลัพธ์ของชิ้นส่วนความสามารถที่ต่อกันได้อย่างลงตัวจริง ๆ
เด็กซนสู่เด็กขี้อายกับการออดิชันครั้งแรกที่เข้าตากรรมการ
“ตอนจองกุกเป็นเด็กฝึก พอฉันบอกให้เขาร้องเพลง เขาก็ทำไม่ได้ จองกุกบิดตัวไปมาอยู่ 15 นาที เขาไม่ได้มีความสามารถโดดเด่น บริษัทถึงกับถามผมว่า เขาจะเดบิวต์ได้ไหม”
บังชีฮยอก ผู้ก่อตั้งค่ายบิ๊กฮิต เอนเตอร์เทนเมนต์ (BIGHIT Entertainment) พูดถึงจองกุกกับสำนักข่าว OSEN ไว้ในปี 2017 หลังจาก BTS เดบิวต์มาได้ 3 ปี
Showbiz CheatSheet สำนักข่าวบันเทิงของสหรัฐอเมริกาบอกว่า ในสายตาแฟน ๆ จองกุกจะไม่ใช่คนที่เสียงดังที่สุดเหมือนจิน (Jin) หรือ เจโฮป (J-Hope) จองกุกจะเป็นคนเงียบ ๆ ที่นั่งอยู่ข้างหลังทุกคน ยกเว้นเป็นสถานการณ์ที่เขาจำเป็นต้องพูด และบางคนก็บอกว่าเขาเป็นหนุ่มเจ้าเล่ห์
แต่ความขี้อายของเขาก็เริ่มหายไปทีละน้อย จากการทำงานหน้ากล้องมายาวนานถึง 10 ปี บางครั้งเขาก็มักจะเปิดไลฟ์คุยกับแฟนคลับกลางดึกในแบบที่ชาวอาร์มี่เองก็ไม่ทันตั้งตัว
ถึงอย่างนั้น ปี 2020 จองกุกก็ให้สัมภาษณ์กับ FC Magazine ของญี่ปุ่นถึงตัวเขาในวัยเด็กว่า เขาคือเด็กซนที่สนใจและสนุกกับชีวิตนอกห้องเรียนมากกว่าการท่องตำราและอยู่ในกฎเกณฑ์
“ตอนเด็ก ผมซนมาก ชอบไปเล่นข้างนอก ชอบไปวิ่งเล่นข้างนอก จนแม่ชอบดุผมบ่อย ๆ ผมเป็นเด็กที่ชอบวิ่งเล่นและกินข้าวเที่ยงเร็ว ๆ ผมเคยแข่งเต้นบีบอย แม้จะเต้นไม่เก่ง แล้วก็เคยร้องเพลง This Song ของรุ่นพี่ 2AM ตอนไปทัศนศึกษาช่วงม.ต้นด้วย”
ปี 2011 จองกุก เด็กหนุ่มจากปูซานในวัย 13 ปีตัดสินใจเข้าร่วมการออดิชันรายการ ‘Superstar K3’ วันนั้นจองกุกไม่ได้ฝันอยากจะเป็นนักร้อง แต่เขาต้องการจะเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ตัวเอง และไม่ได้คาดหวังกับการออดิชันครั้งนี้มากนัก
“คุณอาจจะคิดว่าผมอยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็ก แต่จริง ๆ แล้ว ผมไม่รู้เลยว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไร ความฝันคืออะไร ผมแค่อยากจะลองไปออดิชันดู”
แล้วการออดิชันครั้งนั้นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้จองกุกกลายเป็นเด็กขี้อาย ไม่ได้ซุกซนเหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะการอยู่ต่อหน้าคนแปลกหน้า และยังเป็นบันไดขั้นแรกของจองกุกในเส้นทางดนตรีของเกาหลีใต้
“พอผมไปถึงสถานที่ออดิชัน ผมเริ่มจะกลัวฝูงชนที่มาร่วมงาน ผมเริ่มกังวลกับการถูกรายล้อมไปด้วยคนแปลกหน้า นั่นอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ผมเริ่มดูขี้อาย เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จัก”
แม้การออดิชันครั้งแรกจะล้มเหลวไป แต่กลับมีทีมงานหลายคนที่มองเห็นความสามารถในตัวของเด็กชายคนนี้ จนเขาได้รับข้อเสนอจากบริษัทให้ร่วมสังกัดถึง 7 บริษัท
ในหนังสือ ‘Beyond the Story: 10-Year Record of BTS’ หนังสือฉลองครบรอบการเดบิวต์ 10 ปีของ BTS จองกุกพูดถึงความทรงจำในวัยเด็กของเขาไว้ว่า “บริษัทต่าง ๆ ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงอยากเซ็นสัญญากับผม แต่มีบริษัทหนึ่งเขาบอกให้ผมไปที่โรงแรมใกล้ ๆ กับสถานที่ออดิชัน แล้วอัดคลิปตอนผมร้องเพลง”
หลังจากนั้นเดือนกุมภาพันธ์ 2013 เขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะหนึ่งในสมาชิกที่กำลังจะเดบิวต์เป็นบอยกรุ๊ปวงแรกของค่าย ชื่อ BTS ผ่าน ‘การฝึกเต้นของมักเน่ฝึกหัดธรรมดาในต่างประเทศในอเมริกา’ คลิปวิดีโอที่เขาบันทึกระหว่างการไปเรียนเต้นที่สหรัฐอเมริกา เขาปรากฏในฐานะเด็กฝึกของค่ายบิ๊กฮิต เอนเตอร์เทนเมนต์ ผ่าน vlog ที่เขาเดินทางไปเรียนเต้นที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
แล้วในที่สุด 12 มิถุนายน 2013 จองกุกก็ได้เดบิวต์เป็นน้องเล็กของวง BTS วง K-Pop ที่ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเกาหลีใต้ในการส่งออกวัฒนธรรมเพลงเกาหลีสู่สายตาชาวโลก
น้องเล็กที่ความสามารถรอบด้าน ฉายา ‘มักเน่ทองคำ’
ถ้าใครติดตามวง BTS มา คงจะรู้อยู่แล้วว่า จองกุกมีความสามารถหลายด้าน เพราะเขาคือโปรดิวเซอร์ นักกีฬา ศิลปิน และนักร้อง
เริ่มจากการเป็น ‘นักร้อง’ จองกุกคือนักร้องหลักของวง BTS เสียงหวาน ๆ ของเขาทำให้แฟน ๆ หลงรักและชื่นชอบในทุกคำร้องของเขา รวมถึงเขายังเป็นนักเต้นหลักของ BTS ด้วย เพราะทุกครั้งที่เขาแสดงบนเวที ทุกสายตาจะจับจ้องที่ตัวเขา ทำให้ไม่มีใครละสายตาจากจองกุกได้เลย
ไม่เพียงรักการทำงานหน้ากล้อง จองกุกยังสนใจวิธีการทำงานของ ‘คนเบื้องหลัง’ เขามักจะถ่ายคลิปวิดีโอระหว่างการเดินทาง ชีวิตประจำวัน หรือเบื้องหลังการทำงาน เขาได้ถ่ายทอดผลงานของเขาผ่านวิดีโอชุด ‘Golden Closet Films’ ซึ่งเป็นชุดคลิปวิดีโอสั้นความยาว 3 - 5 นาทีที่สะท้อนมุมมองของจองกุกตอนทำงานและสมาชิกคนอื่น ๆ ใน BTS รวมถึงเขายังเป็นผู้กำกับมิวสิกวิดีโอเพลง ‘Life Goes On’
อีกทั้งเขายังสนุกกับการถ่ายภาพ เขามักจะพกกล้องติดตัวไปด้วยทุกที่ รวมถึงการซ้อมคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์ร่วมกับสมาชิก จนเกิดเป็นผลงาน ฉัน ตัวฉัน และจองกุก (Me, Myself and Jungkook) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Time Difference’ ที่เขาดูแลกระบวนการผลิตเองทุกขั้นตอน
ยังไม่รวมถึงผลงานด้านศิลปะที่เขาเคยมีผลงานทั้งภาพวาด และภาพวาดดิจิทัลที่เขาเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่าน YouTube และยังเป็นวิธีการถ่ายทอดประสบการณ์และชีวิตประจำวันของจองกุก
จริง ๆ แล้ว สมัยเรียน จองกุกชอบเรียนวิชาศิลปะ ดนตรี และพลศึกษา และยังเคยฝันเป็นนักแบดมินตันด้วย เมื่อก้าวเข้ามาเป็นไอดอล เขาก็ยังรักในกีฬา ปี 2015 เขาคว้าชัยชนะการวิ่ง 400 เมตรในงาน Idol Star Athletic Championship (ISAC) และโพสต์คลิปซ้อมมวยในโซเชียลมีเดียด้วย
จองกุกอาจจะมีผลงานอีกหลายด้านที่เรายังไม่รู้ แต่เราก็เชื่อว่าความสามารถเหล่านั้นคือการตอกย้ำฉายา ‘มักเน่ทองคำ’ ที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดขึ้นเพราะความสามารถรอบด้านที่ทำให้เขาเปล่งประกาย
โซโล่ครั้งแรกผ่านบทเพลงที่พูดสดใสและเฉดสีความรู้สึกที่แตกต่าง
“จับมือผมไว้ เพราะคุณคือความสบายใจของผม”
คือเนื้อเพลงในท่อนฮุคสุดท้ายของเพลง ‘Euphoria’ พรีซิงเกิลของ BTS เพลงเดี่ยวครั้งแรกของจองกุกในอัลบั้ม Love Yourself ทั้งยังเป็นเพลงที่อยู่บนชาร์ตบิลล์บอร์ดมากถึง 85 สัปดาห์ และเป็นเพลง K-Pop ที่อยู่บนบิลล์บอร์ดนานที่สุดจากข้อมูลในปี 2021
และบทเพลงนี้ยังเป็นการสะท้อนความรู้สึกและความว้าเหว่ระหว่างการเติบโตของคนคนหนึ่งที่มีทั้งความฝันและต้องการคนที่เข้าใจ
เบื้องหลังของเพลงนี้ DJ Swivel นักแต่งเพลงเพลงนี้พูดกับ Billboard in 2018 ว่า “ในเพลง Euphoria ผมอยากแสดงถึงความสดใสและนึกถึงสีสันสดใส มันเลยพูดอารมณ์ที่หลากหลายด้วย”
ส่วนฝั่งจองกุกก็พูดถึงเพลงนี้ผ่านบทสัมภาษณ์ของ Rolling Stone ด้วยว่า ความยากของการทำเพลงนี้คือการตีความอารมณ์ในเพลงออกมาเป็นเสียงเพลง และยังบอกอีกว่า Euphoria เป็นเพลงที่เขาชอบมากที่สุดในบรรดาเพลงของ BTS
“ผมชอบเพลง Euphoria เพราะมันมีน้ำเสียงของตัวเอง ระหว่างเด็กชายและชายหนุ่ม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ช่วงอัดเสียงผมกังวลมาก เพราะต้องตีความอารมณ์เหล่านั้นผ่านเสียง ผมไม่รู้ว่าผมร้องเพลงแบบไหน และไม่รู้ว่าต้องร้องแบบไหน และอยากให้เพลงถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดี
“แต่พออัดเสร็จ ผมก็คิดกับตัวเองว่า ผมทำได้ดีมาก”
ในอนาคตเขาก็หวังว่า จะเป็นศิลปินที่จริงใจและถ่ายทอดเรื่องราวที่แตกต่างในชีวิตของผู้คนผ่านบทเพลงได้
จองกุกบอกในรายการ 'BE-hind Story' ช่อง BANGTANTV เมื่อปี 2021 ไว้ว่า “ความจริงใจอาจสำคัญสำหรับการทำเพลง แต่ทุกคนแตกต่างกัน มีเรื่องราวต่างกัน ผมอยากเป็นศิลปินที่มอบจินตนาการและถ่ายทอดเรื่องราวความแตกต่างนั้น”
GOLDEN อัลบั้มโซโล่ครั้งแรกจาก Golden Maknae
3 พฤศจิกายน 2023 คือ วันที่จองกุกปล่อย ‘GOLDEN’ โซโล่อัลบั้มแรกของเขา
“ตั้งแต่ผมถูกเรียกว่าเป็นมักเน่ทองคำของ BTS จนมาถึงโซโล่เดี่ยวภายใต้ชื่อของผมเอง ผมคิดว่ามันเป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน เป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน และประสบการณ์ที่ล้ำค่าที่ทำให้ผมเป็นตัวผม ผมเลยหวังให้อัลบั้มนี้เป็นตัวแทนที่สุดของผมในวันนี้ ผมเลยตั้งชื่ออัลบั้มว่า GOLDEN” จองกุกให้สัมภาษณ์กับช่องยูทูบ Pickcon
แต่จริง ๆ แล้ว ก่อนจะปล่อยอัลบั้มเต็ม จองกุกก็ปล่อยเพลงมาให้ฟังก่อนหน้านี้แล้ว 2 เพลง คือ เพลง Seven และ 3D ซึ่งก็ยังคงได้รับการสนับสนุนจากแฟน ๆ เหมือนเคย
หลังจากปล่อยเพลง เพลง Seven ติดอันดับชาร์ตครองอันดับ 1 ชาร์ตบิลล์บอร์ดพร้อมกัน 3 ชาร์ต คือ Billboard Hot 100, Global 200 และ Global Excl. U.S ส่วนเพลง 3D ที่เพิ่งปล่อยมาไม่นานก็ติดท็อปชาร์ตของบิลล์บอร์ดเช่นกัน
เดือนกรกฎาคม 2023 จองกุกเล่าถึงแนวคิดการทำงานของเขาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาอีกว่า “ผมคิดว่าผมเป็นตัวเองมากที่สุดตอนที่พูดทุกอย่างด้วยความจริงใจ ผมคิดว่าผมเปลี่ยนไปนิดหน่อย ผมคิดว่าตอนนี้ผมอยากทำในสิ่งที่ทำ ถ้าผมทำถูกแล้ว ทุกคนจะยอมรับมัน มันเลยทำให้ผมกล้าที่จะเปิดตัวตนของผมจริง ๆ มากขึ้น”
เขายังบอกอีกว่า การทำงานคนเดียวก็ทำให้เขามีความกล้ามากขึ้น กล้าออกจากเซฟโซน ไม่ใช่อยู่ข้างหลังเหมือนสมัยก่อน แต่แสดงความคิดของตัวเองได้เต็มที่
“ผมเป็นน้องเล็กของวง แต่ตอนนี้ต้องทำงานเพลงเดี่ยว ผมก็ต้องทบทวนตัวเองมากขึ้น มีความรับผิดชอบ มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น และต้องตัดสินใจในหลาย ๆ เรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ด้วยการบอกว่าไม่รู้ ปกติแล้วผมไม่ได้เป็นคนพูดคนแรก แต่ตอนนี้มีสิ่งที่ผมต้องทำและต้องทำให้ได้ด้วย แล้วก็คิดว่าตัวผมก็เริ่มเปลี่ยนไปเหมือนกัน”
เขาบอกอีกว่าเป้าหมายของเพลง Seven คือการทำให้ผู้ชมรู้สึกผ่อนคลายและดูด้วยความสุข ไม่ฝืน แต่ดูเป็นธรรมชาติ
“ผมชอบเวลาที่ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติและอยากทำอะไรที่ผ่อนคลายขึ้น ผมก็เลยทำท่าเต้นให้ดูเบาลง แล้วผมก็อยากจะแสดงภาพลักษณ์ที่แตกต่างที่ทำให้คนดูแล้วคิดว่า เคยเจอคนนี้ไหม?” (หัวเราะ)
รวมถึง ‘Standing Next to You’ เพลงล่าสุดที่เพิ่งปล่อยช่วง 11.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ของวันที่ 3 พฤศจิกายน 2023 ที่เป็นการสะท้อนว่า ต่อให้เกิดอะไรขึ้น เรายังมีคนอยู่ข้าง ๆ เราเสมอ
ในสายตาของจองกุกเองก็คิดว่า คงดีถ้าเพลงนี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านการแสดง และมีโอกาสได้ทำอะไรเจ๋ง ๆ บนเวที แล้วเขาก็หวังว่า ทุกนาทีของการฟังเพลงจากอัลบั้มนี้จะเป็นเวลาที่แสนล้ำค่าของผู้ฟังทุกคนเช่นกัน
“เพราะอัลบั้มนี้เป็นการพูดถึงช่วงเวลาที่ล้ำค่าของผม ผมก็หวังว่าผู้ฟังจะนึกถึงเวลาที่ล้ำค่าของพวกเขาด้วยเหมือนกัน” จองกุกฝากถึงอัลบั้มในการสัมภาษณ์ของ Pickcon
กว่า 10 ปีในวงการบันเทิงเกาหลี จากเด็กซุกซน กลายมาเป็นเด็กขี้อายที่ได้เดบิวต์เป็นน้องเล็กของวง BTS ศิลปินสัญชาติเกาหลีที่ได้รับความรักจากแฟน ๆ ทั่วโลก
แล้วฉายา ‘มักเน่’ ก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นการรวบรวมจิ๊กซอว์ความสามารถของศิลปินหนุ่มคนนี้ไว้อย่างลงตัว
และเราก็จะติดตามผลงานต่อไปของจองกุกที่เขาบอกว่า จะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ เติบโตต่อไป และเป็นศิลปินที่รักของแฟน ๆ ตลอดไป
ภาพ : อินสตราแกรม jungkook_bighitentertainment
อ้างอิง :