27 พ.ย. 2566 | 15:39 น.
- ‘โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน’ ฉายแววการเป็นนักร้องตั้งแต่ช่วงม.ต้น ที่โรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมป์) ด้วยการประกวดในงานของโรงเรียน
- เริ่มอาชีพนักร้องตั้งแต่ทำงานที่ร้านอาหารไทยในออสเตรเลีย บุกเบิกสายนี้เพราะรุ่นพี่
- ปัจจุบันผันตัวเป็นนักธุรกิจ เริ่มก่อตั้ง 'โคตรคูล' ฟอร์มรายการดีจนไปเข้าตา Workpoint ขอร่วมแจมถือหุ้น
‘โอ๊ต ปราโมทย์’ แค่ได้ยินชื่อหลายคนก็เตรียมอมยิ้มแล้ว นอกจากที่หลายคนรู้จักมักคุ้นในฐานะนักร้อง อีกหนึ่งบทบาทที่ทำให้เจ้าตัวเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็คงหนีไม่พ้นบทบาทพิธีกร ก่อนจะพัฒนาบทบาทตัวเองมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ และก้าวขึ้นไปเป็นประธานบริษัททำสื่อบันเทิง ที่นำพาบริษัทให้เติบโตสูงถึง 199% ในปีที่ผ่านมา
โอ๊ต ชื่อจริง ปราโมทย์ ปาทาน เกิดวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2527 เป็นลูกคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 4 คน ที่เห็นดูหน้าลูกครึ่งนั้นเป็นเพราะว่าคุณพ่อเป็นชาวปากีสถาน ส่วนคุณแม่เป็นคนไทย โอ๊ต ปราโมทย์ สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมจากโรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมป์) เคยเข้าศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยดนตรี ก่อนจะย้ายไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
โอ๊ต ปราโมทย์ กับเส้นทางนักร้อง
เส้นทางดนตรีของ โอ๊ต ปราโมทย์ เริ่มต้นจากที่เขาเคยได้รางวัลชนะเลิศการประกวดวงดนตรีแจ๊ส 98.5 Breeze FM-UBC Jazz Challenge 2006 และเป็นอดีตนักร้องนำวง RSCM Band มาก่อน เติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจหลายอย่าง แต่ทว่าเจ้าตัวกลับมีความสนใจในดนตรี และเริ่มเข้าร่วมการประกวดในงานโรงเรียนมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ ม.ต้น ด้วยการเล่นกีตาร์ในวงดนตรีสากล ก่อนจะเปลี่ยนบทบาทมาเป็นนักร้องนำตอนอยู่ ม.5 และได้เข้าร่วมการประกวดร้องเพลง จนกระทั่งมาได้แชมป์ครั้งแรกตอนอยู่ชั้น ม.6
ในช่วงที่เป็นวัยรุ่น โอ๊ต ปราโมทย์ ก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีความเกเรบ้างตามวิถีลูกผู้ชาย คุณแม่จึงส่งไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียและเรียนต่อ MBA ทำให้โอ๊ตได้เริ่มเข้าสู่วงการเพลงอย่างจริงจัง ด้วยการเป็นนักร้องในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งของรุ่นพี่ที่อยู่ที่นั่น อีกทั้งเขายังเคยได้แชมป์ University Academy Contest จนอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยชักชวนไปอัดเพลงด้วยกัน โอกาสเข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้มีโอกาสไปอัดเพลงกับค่ายแกรมมี่ แต่ก็ลาออกไปเพราะไม่ชอบการร้องเพลงตอนกลางคืน ก่อนจะได้รับโอกาสจากรุ่นพี่ในวงการและกลับมาร้องเพลงเหมือนเดิมในภายหลัง
โอ๊ต ปราโมทย์ เริ่มเดบิวต์ในเส้นทางนักร้องอย่างจริงจังในปี 2007 ด้วยการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์และละคร ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทำให้โอ๊ต ปราโมทย์ ได้เข้าร่วมโปรเจกต์เพลง Project Love Pill 2 ในนามวง ‘LowFat’ ในปี 2013 ของ ‘ฟองเบียร์ ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม’ ในผลงานเพลง ‘กะทันหัน’ ร่วมกับ ‘พอยท์ ปนัสฐ์ นาครำไพ, รุจ ศุภรุจ เตชะตานนท์ และ ฟิล์ม บงกช เจริญธรรม’ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ จนเพลงติดชาร์ตอันดับ 1 ของ iTunes Store หลังจากเปิดตัวได้ 24 ชั่วโมง จุดนี้เองที่ทำให้ โอ๊ต ปราโมทย์ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะ ‘นักร้อง’
ก่อนที่โอ๊ต ปราโมทย์ จะได้รับโอกาสให้ร้องเพลงประกอบละครอีกหลาย ๆ เรื่อง จนเขาสามารถก้าวขึ้นเป็น ‘เจ้าพ่อเพลงละคร’ อาทิเช่น เพลง 'ที่รัก' ประกอบละครเรื่อง เกมร้าย เกมรัก ที่แสดงโดยณเดชญ์-ญาญ่า เรียกว่าได้รับผลตอบรับชื่นชมเป็นอย่างมาก
รวมถึงมีส่วนร่วมในฐานะคนอยู่เบื้องหลังเพลงของศิลปินคนอื่น ๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น หากเธอจะรัก ของ มานิดา เรืองศรี, โลกอีกใบ ของ ส้ม มารี, สายบันเทิง ของ หญิงลี ศรีจุมพล, Baby, Pick Me ของ นิว-จิ๋ว, อยู่ก่อน (STAY) และ ฟินที่สุดเลย (FINN) ของ ยัวร์บอยทีเจ เป็นต้น
จนในปี 2017 โอ๊ต ปราโมทย์ มีเพลงแรกเป็นของตัวเอง ด้วยเพลงที่มีชื่อว่า ‘เมื่อวาน’ ซึ่งกระแสตอบรับหลังจากปล่อยเพลงนี้ออกมา เรียกได้ว่าสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับใครหลายคนอย่างมาก จากเสียงร้องของโอ๊ต ปราโมทย์ ที่ยังเพราะขึ้นหิ้งเหมือนเคย โดยเฉพาะการขยี้อารมณ์คนที่ยังลืมรักเก่าไม่ได้ จนทุกคนอินตามไปกับเพลงและร้องตามได้ทั้งเมือง เรียกได้ว่าคุ้มค่าแก่การรอของแฟน ๆ แถมยอดวิวยังสูงมากแตะถึง 50 ล้านวิว
โอ๊ต ปราโมทย์ กับบทบาทอินฟลูเอนเซอร์
เป็นปกติของคนบันเทิง ที่ไม่มีใครหยุดบทบาทของตัวเองอยู่แค่การเป็นนักแสดงหรือนักร้อง เพียงอย่างเดียว โอ๊ต ปราโมทย์ ก็เช่นกัน เส้นทางการเป็นนักร้องอาจจะไม่ได้ถือว่าประสบความสำเร็จถึงขีดสุดแบบนักร้องชื่อดังหลาย ๆ คน ทำให้โอ๊ตเริ่มคิดเรื่องออกจากวงการ
แต่โชคดีที่ได้มาทำรายการ “The Boys & Paloy” กับ ‘พลอย หอวัง’ และ ‘พิชญ์ กาไชย’ ทำให้ชื่อของโอ๊ต ปราโมทย์ เป็นที่สนใจและรู้จักในวงกว้างอีกครั้ง แล้วก็มาโด่งดังมาก ๆ จากรายการ “The Driver” รายการที่พาแขกรับเชิญนั่งรถไปพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ นานา ทั้งกลุ่มคนบันเทิง คนมีชื่อเสียง ตลอดจนนักการเมือง ซึ่งโอ๊ต ปราโมทย์ ได้ร่วมพูดคุยกับแขกรับเชิญและแสดงมุมมองที่เกี่ยวกับประเด็นสังคมได้อย่างเฉียบคม จนทำให้รายการได้รับความนิยมสูงมากในช่องยูทูป
ไม่เพียงเท่านั้น โอ๊ต ปราโมทย์ ยังเคยเป็นนักจัดรายการวิทยุขวัญใจกลุ่มวัยรุ่นอย่างรายการ “จันทร์ Shock โลก สุดตรีม” ที่คลื่น EFM 94 ร่วมกับ ‘ดีเจอาร์ต มารุต ชื่นชมบูรณ์’ ที่ตอนนี้ได้ยุติไปแล้ว และรวมถึงรายการ “Sport Relax” ทาง FM 99 จากการชักชวนของเห่าไฟ แจ็คเล็ก (สุวินัย อ่อนสะอาด) และลิงลม ป๋อง กพล (กพล ทองพลับ) ที่เห็นว่าโอ๊ต ปราโมทย์ มีความสนใจในฟุตบอลและเป็นแฟนตัวยงของทีมนิวคาซเซิล
ตัวตนของโอ๊ต ปราโมทย์ ที่แสดงออกมาทางหน้าจอ ภาพของหนุ่มอารมณ์ดี สนุกสนาน ตบมุกเก่ง บวกกับสไตล์ในการทำรายการที่ออกแนวหยาบคายนิด ๆ กวนหน่อย ๆ แต่เป็นความหยาบคายที่ยังมีกาลเทศะ ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายคนชื่นชอบบุคลิกของโอ๊ต ปราโมทย์ ในจุดนี้ แต่เห็นเป็นคนอารมณ์ดีแบบนี้ ความจริงอีกข้อของโอ๊ต ปราโมทย์ ก็คือเป็นคนที่มีมุมอ่อนไหว ชอบเก็บความรู้สึกไว้คนเดียว จนเคยต้องพบจิตแพทย์มาแล้ว
สเต็ปต่อมาของโอ๊ต ปราโมทย์ ที่เรียกได้ว่า ปังขึ้นหิ้ง! นั่นก็คือการเป็นเจ้าพ่อรายการบันเทิงออนไลน์ ที่มีหลากหลายรายการมาก ในนามของ ‘โคตรคูล @khotkool’ ไม่ว่าจะเป็นรายการ คนหน้าหมี ที่ทำร่วมกับ ‘ดีเจอาร์ต มารุต ชื่นชมบูรณ์’, วันละม้วน ร่วมกับ ‘น้าบิน Panjee Wirotsiri’, จีบหนูหน่อย กับ ‘ซานิ นิภาภรณ์’ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และเคยได้รับรางวัล Best Entertainment On Social Media (Online Program) จากงาน Thailand Zocial Awards 2021, หมีพาซิ่ง ร่วมกับ ‘แพท ณปภา ตันตระกูล’, โต้วาเทย , VLOG นะเด็กโง่, หมีliveป่ะ?, โคตรliveสาระ!, whylive และ Campปลิ้น ร่วมกับ ‘ป๊อป ปองกูล สืบซึ้ง’ ซึ่งมีลูกค้าเข้ารัว ๆ จนพาช่องเติบโตและปังอย่างรวดเร็ว
ล่าสุด โอ๊ต ปราโมทย์ ยังถูกดึงเข้าไปเป็นตัวละครในเกม Fc Online เกมฟุตบอลออนไลน์ชื่อดัง มาพร้อมค่าพลังการยิงที่สูงมากสมกับเป็นกองหน้าถนัดสองเท้าของทีม โดยจุดเด่นของตัวละคร โอ๊ต ปราโมทย์ คือการที่โมเดลของตัวละครนี้มีค่าพลังเท่ากับนักเตะระดับตำนานอย่าง Ronaldo (R9) อีกด้วย ถือว่าเป็นเกมที่มีภาพสวยสมจริงราวกับได้ โอ๊ต ปราโมทย์ มาร่วมเตะตัวเป็น ๆ โดยจะเริ่ม 1 ธันวาคมนี้
แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ ในช่วงหนึ่งของชีวิตที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โอ๊ต ปราโมทย์ เคยประสบพบเจอกับมรสุมชีวิตมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องการใช้คำพูด จนเกิดเป็นดราม่าใหญ่ เช่น เขาเคยหลุดคำหยาบใส่น้อง ๆ BNK48 ในช่วงปี 2561 จนทำให้แฟนคลับไม่พอใจและเกิดเป็นกระแสดราม่าลามไปถึงการต่อว่าพ่อแม่ ถึงขั้นที่โอ๊ต ปราโมทย์ ตัดพ้อว่าอยากจะหยุดทุกอย่าง
ไม่เพียงเท่านั้นปลายปีเดียวกัน เกิดแฮชแท็ก #หมดpassion จากการเลิกรากับอดีตแฟนสาวนอกวงการ ก็ทำให้ โอ๊ต ปราโมทย์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนเจ้าตัวก็เกิดอาการเซไปพักใหญ่เช่นกัน ยังรวมถึงเคยพลั้งปากแซวสตรีมเมอร์สาว จนถูกคนในโลกโซเชียลวิจารณ์เดือดผ่านทางทวิตเตอร์ จนเจ้าตัวตัดสินใจว่าจะเลิกเล่นทวิตเตอร์เป็นการถาวรไปเลยทีเดียว
เมื่อมรสุมพัดผ่านไป สายรุ้งสีสวยก็จะมาเยือนทุกครา คงเหมือนกับชีวิตของ โอ๊ต ปราโมทย์ ในตอนนี้ เรียกว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงก็คงไม่ผิด เพราะบทบาทใหม่ของเขากับบริษัทที่เปิดขึ้นมากับมือ กำลังรุ่งเรืองงอกเงยขึ้นเรื่อย ๆ แบบฉุดไม่อยู่
โอ๊ต ปราโมทย์ กับบทบาทนักธุรกิจ
ในปี 2560 โอ๊ต ปราโมทย์ ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมา ในหมวดธุรกิจประเภทสื่อออนไลน์ ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท มีชื่อนิติบุคคลคือ ‘KHOTKOOL COMPANY LIMITED’ โดยมีชื่อของเจ้าตัวเป็นกรรมการบริษัทเพียงคนเดียว ซึ่งรายชื่อธุรกิจทั้งหมดมี 8 รายการ แบ่งเป็น 7 บริษัท และห้างหุ้นส่วน 1 รายการ ดังนี้
1. บริษัท โคตรคูล จำกัด มีชื่อนิติบุคคลคือ KHOTKOOL COMPANY LIMITED ประกอบธุรกิจรับจ้างโฆษณา จัดอีเวนท์ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2560 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท
2. บริษัท โคตรคูล มิวสิค จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจด้านบันเทิง นักร้อง นักดนตรี
3. บริษัท โคตรคูล เกมมิ่ง จำกัด เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภท การขายส่งและการขายปลีกการซ่อมยานยนต์และ จักรยานยนต์ โดยให้บริการด้าน ร้านขายปลีกเครื่องเล่นวีดิโอเกมและซอฟต์แวร์สำเร็จรูป สถานภาพยังดำเนินกิจการอยู่
4. บริษัท เปิดไปงั้น จำกัด เป็นธุรกิจประกอบกิจการรับประสานงานแสดง บริการด้านโฆษณาทุกชนิด กิจกรรมด้านความบันเทิง จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566
5. บริษัท พี เรนเจอร์ จำกัด รับจ้างโฆษณา จัดอีเวนท์ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2560
6. บริษัท บอนไฟเออร์ แกทเธอริง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ประกอบกิจการจัดทำซอฟต์แวร์เกมสำเร็จรูป
7. ห้างหุ้นส่วนจำกัด นครสวรรค์ ภูมิพอเพียง ประกอบธุรกิจขายสินค้าทั่วไป จดทะเบียนเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2553
8. บริษัท คุณย่า รุ่งทวี จำกัด ประกอบธุรกิจการบริการอาหารในภัตตาคารและร้านอาหาร จดทะเบียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559
ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท โคตรคูล จำกัด มีผลประกอบการรายได้รวมและกำไรสุทธิ ที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี นับตั้งแต่จัดตั้ง ดังนี้
รายได้รวม
ปี 2561 จำนวน 29,413,562 บาท
ปี 2562 จำนวน 29,650,490 บาท
ปี 2563 จำนวน 37,416,525 บาท
ปี 2564 จำนวน 80,222,271 บาท
ปี 2565 จำนวน 112,461,003 บาท
กำไรสุทธิ
ปี 2561 จำนวน 4,212,416 บาท
ปี 2562 จำนวน 4,655,268 บาท
ปี 2563 จำนวน 2,517,415 บาท
ปี 2564 จำนวน 6,079,140 บาท
ปี 2565 จำนวน 18,186,874 บาท
โดยรายได้ในปี 2565 อยู่ที่ 112 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 40% จากปีก่อนหน้า จนกระทั่งมีรายงานข่าวว่า บริษัท ไทยบรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เข้าลงทุนโดยการซื้อหุ้นสามัญเดิม และหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท โคตรคูล ของโอ๊ต ปราโมทย์ ในวงเงินไม่เกิน 216 ล้านบาท และมีสัดส่วนในการถือหุ้น 49% ส่วนโอ๊ต ปราโมทย์ ถือหุ้นในสัดส่วน 51% ของหุ้นสามัญทั้งหมด
โดยการลงทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจรายการต่าง ๆ ในช่องทางออนไลน์ และเพิ่มความหลากหลายของการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอนเทนต์ในช่องโคตรคูล ของโอ๊ต ปราโมทย์ นั้นมีความหลากหลาย ทั้งในมุมของการมอบความบันเทิงสนุกสนาน ให้แง่คิดตลอดจนให้กำลังใจแก่ผู้คนที่ได้รับชม จนทำให้หลาย ๆ รายการได้รับความนิยมอย่างมากในโลกออนไลน์ และครองใจคนในหลาย ๆ เจนด้วย
ขณะที่ชื่อของ ‘โอ๊ต ปราโมทย์’ ในฐานะคนที่อยู่ในวงการมานาน แม้บทบาททางหน้าจอจะมีภาพจำเป็นคนสนุกสนานเฮฮา ผ่านการมีข่าวในด้านดีและดราม่ามาหลายครั้งแต่เจ้าตัวก็ก้าวผ่านมาได้ หยาบคายแต่ยังอยู่ในลิมิตที่รู้จักกาละเทศะ จนครองใจผู้คนและกลุ่มแฟนคลับได้เป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นกระบอกเสียงในสังคมในบางครั้งด้วย
สำหรับโอ๊ต ปราโมทย์ ความสำเร็จทั้งในการทำคอนเทนต์ และการทำให้โคตรคูล เป็นที่สนใจจนมีบริษัทใหญ่ต้องการร่วมลงทุน ถือเป็นอีกหนึ่งคนในวงการที่น่าจับตามองทีเดียว
เรื่อง : RealllaomK
ภาพ : Pramote Pathan/Facebook
อ้างอิง